***มีใครเป็นเหมือนผมบ้าง เป็นคนไม่ค่อยเชื่อคำพูดหรือเรื่องที่คนอื่นที่ไม่สนิทมาเล่าอะไรให้ฟังง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องที่มันเหลือเชื่อ แต่กลับกันถ้าเป็นคนที่สนิทหรือนับถือจริงๆมาเล่าให้ฟังก็ว่าไปอีกอย่าง ซึ่งเป็นคนที่เรามั่นใจ ว่า เขา พูดเรื่องจริง
เรื่องนี้เป็น เรื่องที่เกิดจากประสบการณ์ ของพ่อผมเอง
โดยผมขอเล่าถึงที่มาที่ไปของการเล่าเรื่องนี้ก่อนนะครับ
***สมัยก่อนเมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว แถวบ้านผม ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อำเภอแห่งหนึ่ง ในจังหวัดน่าน คนส่วนใหญ่ตามบ้านนอกมักจะทำอาชีพเกษตรกรและปลูกข้าวโพด พอถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโพด ซึ่งสมัยก่อน ยังไม่มีรถเกี่ยวเหมือนปัจจุบันนี้ วัฒนธรรมของชาวบ้าน จะนิยม ใช้วิธีการลงแขกช่วยกันเก็บเกี่ยว โดยบ้านไหนถึงตาเก็บเกี่ยวแล้วทุกคนจะมาช่วยกัน พอดีวันนั้นถึงตาที่บ้านผมเก็บเกี่ยวแล้ว ก็มีชาวบ้านประมาณ 20 กว่าคน ไปช่วยกันหักข้าวโพดตั้งแต่เช้า (ที่บ้านเรียกหักข้าวโพด) พอตกเย็นประมาณ 6 โมงเย็นก็จะเสร็จ โดยทำเนียมการปฏิบัติ คือบ้านไหนหักข้าวโพดเสร็จแล้ว ก็จะเชิญทุกคนที่ไปช่วย มากินเลี้ยงที่บ้าน ซึ่งก็มีคนมากินเลี้ยงกันที่บ้านผม พอตกดึกมาทุกคนทยอยกลับบ้านใครบ้านมัน เหลือคนที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียง 5 - 6 คน ก็ล้อมวงสนทนาถึงประสบการณ์สิ่งลี้ลับที่เคยประสบพบเจอกัน
ซึ่งโดยปกติพ่อผมจะเป็นคนไม่ค่อยพูด จะเป็นผู้ฟังเสียส่วนใหญ่ แต่มาวันนั้น พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ
สิ่งลี้ลับ พ่อผมจึงได้เอ่ยปากเล่ามาอยู่เรื่องหนึ่ง ที่แก่เคยพบเจอมาด้วยตัวเอง
****เรื่องมีอยู่ว่า (พ่อเล่า) สมัยพ่อยังเป็นหนุ่มๆ ใครจะเดินทางไปไร่ไปส่วนหรือเข้าป่า จะใช้เกวียนเป็นยานพาหนะ โดยใช้วัวหรือควายลาก มีอยู่วันหนึ่งฟืนที่บ้านพ่อหมด พ่อจึงชวนน้องชาย (คุณอา) ไปหาตัดฟืนกันโดยใช้เกวียนเป็นยาพาหนะเข้าไปในป่ากัน ซึ่งที่ที่จะไปเอาฟืนนั้นจะต้องเดินข้ามสะพานไม้ไผ่เล็กๆ ที่ชาวบ้านทำไว้เพื่อเดินข้าม พอไปถึง พ่อกับอาจึงผูกวัวกับเกวียนไว้ที่ฝั่งติดถนน (เพราะไม่สามารถเอาข้ามไปด้วยได้) และเดินข้ามสะพานไม่ไผ่เล็กๆ ไปหาฟืนกันพอได้แล้ว พ่อก็ยกฟืนขึ้นบ่าซึ่งหนักพอสมควร พอเดินมาถึงสะพาน ก็ค่อยๆข้าม จู่ๆ อาที่แบกฟืนตามพ่อมาก็เดินเบียดหลังพ่อชนิดว่าตามติดไม่ห่าง พ่อก็เหลือบหางตาไปมองก็เห็นว่าอาเดินชนหลังและเบียดจนเกือบจะตกสะพาน พ่อจึงเอ่ยปากถามกึ่งด่าไปว่า "จะรีบไปไหนช้าๆหน่อยกูจะตกแล้วเนี่ย" แต่อาก็ยังไม่หยุดยังคงเบียดหลังพ่อมาติดๆ พ่อเลยรีบเดินกะว่าข้ามฝั่งไปถึงเกวียนที่จอดไว้แล้ว จะหันมาด่าอาที่ทำแบบนี้ พอเดินไปถึงเกวียนแล้ว โดยที่เสียงฝีเท้าอาก็ยังเดินตามหลังมาแบบเบียดๆ พ่อจึงรีบวางฟืนที่แบกมาลงและจะหันไปด่า แต่พอหันกลับไป กลับพบเจอแต่ความว่างเปล่า ไม่มีใครเดินตามพ่อมาสักคนเลย
พ่อถึงกับอุทานขึ้นมาเลยว่า "เป็นไปไม่ได้ ไอ่ทอง (ชื่ออา) มันตามหลังเบียดมาติดๆเลยนะ" และพ่อก็ชะโงกหน้าไปดูฝั่งตรงข้ามปรากฏว่า อากำลังเดินแบกฝืนอยู่ซึ่งห่างจากที่พ่ออยู่มาก ถึง ประมาณ 200 เมตรได้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาเดินเบียดหลังพ่อได้ พอรู้อย่างงี้ จึงรีบเรียกให้อาเร่งเอาฟืนมาขึ้นเกวียนและรีบพากันกลับบ้าน และพอถึงบ้านจึงได้ถามที่มาที่ไป อาก็บอกพ่อว่าไม่ได้เดินตามเลย เห็นพ่อเดินแบกฟืนออกมาก่อนตั้งไกล และตอนข้ามสะพานอาเห็นพ่อเดินๆหยุดๆ และบ่นอะไรอยู่คนเดียวก็ไม่รู้
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ พ่อจึงเชื่อว่าสิ่งที่แกเจอคือผีเจ้าป่าเขาหรือสิ่งลี้ลับที่มาทักทายแก
ปล.เนื้อเรื่องนี้จริงๆอาจจะมีไม่มาก จะหนักไปทางกล่าวนำเสียส่วนใหญ่ ต้องขออภัยทุกท่านด้วยครับที่ทำให้เสียเวลาอ่าน....ซึ่งผมอยากสื่อให้เห็นว่าที่มาที่ไปที่ผมเชื่อว่าสิ่งลี้ลับมีจริง ทั้งที่ไม่ได้พบเจอด้วยตัวเอง แต่เชื่อเพราะคนที่ผมคารพ นับถือเล่าให้ฟังและเชื่อถือได้ ขอบคุณครับ...
ใครเชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับว่ามีจริงไหมครับ ?
เรื่องนี้เป็น เรื่องที่เกิดจากประสบการณ์ ของพ่อผมเอง
โดยผมขอเล่าถึงที่มาที่ไปของการเล่าเรื่องนี้ก่อนนะครับ
***สมัยก่อนเมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว แถวบ้านผม ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อำเภอแห่งหนึ่ง ในจังหวัดน่าน คนส่วนใหญ่ตามบ้านนอกมักจะทำอาชีพเกษตรกรและปลูกข้าวโพด พอถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโพด ซึ่งสมัยก่อน ยังไม่มีรถเกี่ยวเหมือนปัจจุบันนี้ วัฒนธรรมของชาวบ้าน จะนิยม ใช้วิธีการลงแขกช่วยกันเก็บเกี่ยว โดยบ้านไหนถึงตาเก็บเกี่ยวแล้วทุกคนจะมาช่วยกัน พอดีวันนั้นถึงตาที่บ้านผมเก็บเกี่ยวแล้ว ก็มีชาวบ้านประมาณ 20 กว่าคน ไปช่วยกันหักข้าวโพดตั้งแต่เช้า (ที่บ้านเรียกหักข้าวโพด) พอตกเย็นประมาณ 6 โมงเย็นก็จะเสร็จ โดยทำเนียมการปฏิบัติ คือบ้านไหนหักข้าวโพดเสร็จแล้ว ก็จะเชิญทุกคนที่ไปช่วย มากินเลี้ยงที่บ้าน ซึ่งก็มีคนมากินเลี้ยงกันที่บ้านผม พอตกดึกมาทุกคนทยอยกลับบ้านใครบ้านมัน เหลือคนที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียง 5 - 6 คน ก็ล้อมวงสนทนาถึงประสบการณ์สิ่งลี้ลับที่เคยประสบพบเจอกัน
ซึ่งโดยปกติพ่อผมจะเป็นคนไม่ค่อยพูด จะเป็นผู้ฟังเสียส่วนใหญ่ แต่มาวันนั้น พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ
สิ่งลี้ลับ พ่อผมจึงได้เอ่ยปากเล่ามาอยู่เรื่องหนึ่ง ที่แก่เคยพบเจอมาด้วยตัวเอง
****เรื่องมีอยู่ว่า (พ่อเล่า) สมัยพ่อยังเป็นหนุ่มๆ ใครจะเดินทางไปไร่ไปส่วนหรือเข้าป่า จะใช้เกวียนเป็นยานพาหนะ โดยใช้วัวหรือควายลาก มีอยู่วันหนึ่งฟืนที่บ้านพ่อหมด พ่อจึงชวนน้องชาย (คุณอา) ไปหาตัดฟืนกันโดยใช้เกวียนเป็นยาพาหนะเข้าไปในป่ากัน ซึ่งที่ที่จะไปเอาฟืนนั้นจะต้องเดินข้ามสะพานไม้ไผ่เล็กๆ ที่ชาวบ้านทำไว้เพื่อเดินข้าม พอไปถึง พ่อกับอาจึงผูกวัวกับเกวียนไว้ที่ฝั่งติดถนน (เพราะไม่สามารถเอาข้ามไปด้วยได้) และเดินข้ามสะพานไม่ไผ่เล็กๆ ไปหาฟืนกันพอได้แล้ว พ่อก็ยกฟืนขึ้นบ่าซึ่งหนักพอสมควร พอเดินมาถึงสะพาน ก็ค่อยๆข้าม จู่ๆ อาที่แบกฟืนตามพ่อมาก็เดินเบียดหลังพ่อชนิดว่าตามติดไม่ห่าง พ่อก็เหลือบหางตาไปมองก็เห็นว่าอาเดินชนหลังและเบียดจนเกือบจะตกสะพาน พ่อจึงเอ่ยปากถามกึ่งด่าไปว่า "จะรีบไปไหนช้าๆหน่อยกูจะตกแล้วเนี่ย" แต่อาก็ยังไม่หยุดยังคงเบียดหลังพ่อมาติดๆ พ่อเลยรีบเดินกะว่าข้ามฝั่งไปถึงเกวียนที่จอดไว้แล้ว จะหันมาด่าอาที่ทำแบบนี้ พอเดินไปถึงเกวียนแล้ว โดยที่เสียงฝีเท้าอาก็ยังเดินตามหลังมาแบบเบียดๆ พ่อจึงรีบวางฟืนที่แบกมาลงและจะหันไปด่า แต่พอหันกลับไป กลับพบเจอแต่ความว่างเปล่า ไม่มีใครเดินตามพ่อมาสักคนเลย
พ่อถึงกับอุทานขึ้นมาเลยว่า "เป็นไปไม่ได้ ไอ่ทอง (ชื่ออา) มันตามหลังเบียดมาติดๆเลยนะ" และพ่อก็ชะโงกหน้าไปดูฝั่งตรงข้ามปรากฏว่า อากำลังเดินแบกฝืนอยู่ซึ่งห่างจากที่พ่ออยู่มาก ถึง ประมาณ 200 เมตรได้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาเดินเบียดหลังพ่อได้ พอรู้อย่างงี้ จึงรีบเรียกให้อาเร่งเอาฟืนมาขึ้นเกวียนและรีบพากันกลับบ้าน และพอถึงบ้านจึงได้ถามที่มาที่ไป อาก็บอกพ่อว่าไม่ได้เดินตามเลย เห็นพ่อเดินแบกฟืนออกมาก่อนตั้งไกล และตอนข้ามสะพานอาเห็นพ่อเดินๆหยุดๆ และบ่นอะไรอยู่คนเดียวก็ไม่รู้
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ พ่อจึงเชื่อว่าสิ่งที่แกเจอคือผีเจ้าป่าเขาหรือสิ่งลี้ลับที่มาทักทายแก
ปล.เนื้อเรื่องนี้จริงๆอาจจะมีไม่มาก จะหนักไปทางกล่าวนำเสียส่วนใหญ่ ต้องขออภัยทุกท่านด้วยครับที่ทำให้เสียเวลาอ่าน....ซึ่งผมอยากสื่อให้เห็นว่าที่มาที่ไปที่ผมเชื่อว่าสิ่งลี้ลับมีจริง ทั้งที่ไม่ได้พบเจอด้วยตัวเอง แต่เชื่อเพราะคนที่ผมคารพ นับถือเล่าให้ฟังและเชื่อถือได้ ขอบคุณครับ...