เพื่อนบ้านอิหยังวะโผล่ยึดบ้านอีกรอบ! อ้างครอบครองปรปักษ์ คราวนี้ทำร้านอาหาร เจ้าของบ้านสุดเซ็ง เอากุญแจมาล็อกยังโดนเปลี่ยน
จากกรณีที่รายการโหนกระแส เคยพูดคุยกับคู่รักคู่หนึ่ง ที่พบว่าบ้านที่อากู๋จะยกให้เป็นของขวัญแต่งงาน ถูกบ้านข้างกันบุกรุก ใช้เป็นส่วนหนึ่งของสำนักงาน มีการต่อเติมจนสภาพผิดไปจากเดิม โดยทางผู้บุกรุกอ้างว่าอยากจะซื้อบ้านหลังนี้มานานมากแล้ว แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบ้าน โดยทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สน.โครกคราม
เมื่อมีการพูดคุยกัน ทางผู้บุกรุกได้เจรจาและเสนอทางเลือกให้กับเจ้าของบ้าน ว่า
1. จะขอบ้านคืนใช่ไหม ถ้าจะขอบ้านคืนยินดีย้ายของออกให้ ซึ่งวันนี้ก็ย้ายของออกหมดแล้ว
2. จะให้เช่าบ้านหลังนี้ไหม ถ้าให้เช่า ตนเองก็ยินดี
3. หรือจะขายบ้านหลังนี้ไหม ราคาเท่าไหร่ ตนเองพร้อมขอซื้อ แต่ขอเป็นราคาที่เหมาะสม
สุดท้าย ทางผู้บุกรุกก็ยอมย้ายออก จะขนของออกทั้งหมด ส่วนจะมีความผิดทางกฎหมายอย่างไร ตนก็น้อมรับและพร้อมจะไปพบเจ้าหน้าที่ ตร.
แต่ล่าสุด ปรากฏว่ามีการบุกรุกและเข้ายึดบ้านอีกรอบ พร้อมเปิดเป็นร้านขายอาหาร ทางคุณอาย ผู้เสียหาย ได้เปิดเผยกับข่าวสดออนไลน์ว่า เมื่อวานนี้เพิ่งจะทราบว่าบ้านถูกเพื่อนบ้านคนนี้เข้ามายึดทำเป็นร้านอาหาร เมื่อเข้าไปดูตอนแรกพบผู้หญิงอยู่ในบ้าน 2 คน จึงออกไปแจ้งกับตำรวจ สน.โคกคราม ให้เข้ามาช่วยติดตามดู พอกลับมาอีกครั้งพร้อมกับตำรวจ ผู้หญิงทั้งคู่ก็หายไปแล้ว แต่ก็พบคู่กรณีซึ่งบอกแต่ว่าให้คุยกับทนาย และทนายอ้างว่า...
“ลูกความของเขาไม่ยินยอมย้ายออก เพียงแต่ออกมาชั่วคราวเพราะถูกนักข่าวกดดัน”
คุณอาย กล่าวว่า ประตูบ้านหลังนี้ถูกปิดล็อกไปตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. 2566 หากจะเข้าไปก็ต้องงัดบ้านเข้ามาเท่านั้น แต่ตอนนี้ทางคู่กรณีได้ล็อกกุญแจลูกใหม่ และยังฟ้องร้องคดีแพ่งกับตนและสามี ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2566 เรื่องการครอบครองปรปักษ์ โดยทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้ยื่นคัดค้านต่อศาลไปในวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมาแล้ว พร้อมฟ้องขับไล่คู่กรณี แต่ศาลยังไม่ได้ตัดสิน
การกระทำของคู่กรณีชี้ว่าต้องการได้บ้านหลังนี้ฟรี ทั้งที่หลังเกิดเรื่องเมื่อปีก่อน อ้างว่าจะยอมย้ายออก หรือยอมซื้อต่อ แต่อย่างไรตนก็จะไม่ขาย และจะเอาผิดให้ถึงที่สุด
ไม่รู้ว่ามีใครแนะนำให้ทำเช่นนี้หรือไม่ เกรงว่าหากคู่กรณีชนะคดี จะกลายเป็นช่องว่างทางกฎหมาย และจะมีผู้อื่นถูกกระทำเหมือนกับตน เพราะในหมู่บ้านมีบ้านร้างเยอะ
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องรอการตัดสินของศาล ส่วนตัวหลักฐานและข้อกล่าวอ้างของฝ่ายคู่กรณีมีไม่เพียงพอ
ที่มา : ข่าวสด
#บุกรุกบ้าน #เพื่อนบ้าน #บ้านทิ้งร้าง #ครอบครองปรปักษ์ #โหนกระแส
อ้างครอบครองปรปักษ์ยึดบ้านอีกรอบ เจ้าของสุดเซ็ง หวั่นเป็นช่องโหว่ให้คนแห่ยึดบ้านร้าง
จากกรณีที่รายการโหนกระแส เคยพูดคุยกับคู่รักคู่หนึ่ง ที่พบว่าบ้านที่อากู๋จะยกให้เป็นของขวัญแต่งงาน ถูกบ้านข้างกันบุกรุก ใช้เป็นส่วนหนึ่งของสำนักงาน มีการต่อเติมจนสภาพผิดไปจากเดิม โดยทางผู้บุกรุกอ้างว่าอยากจะซื้อบ้านหลังนี้มานานมากแล้ว แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบ้าน โดยทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สน.โครกคราม
เมื่อมีการพูดคุยกัน ทางผู้บุกรุกได้เจรจาและเสนอทางเลือกให้กับเจ้าของบ้าน ว่า
1. จะขอบ้านคืนใช่ไหม ถ้าจะขอบ้านคืนยินดีย้ายของออกให้ ซึ่งวันนี้ก็ย้ายของออกหมดแล้ว
2. จะให้เช่าบ้านหลังนี้ไหม ถ้าให้เช่า ตนเองก็ยินดี
3. หรือจะขายบ้านหลังนี้ไหม ราคาเท่าไหร่ ตนเองพร้อมขอซื้อ แต่ขอเป็นราคาที่เหมาะสม
สุดท้าย ทางผู้บุกรุกก็ยอมย้ายออก จะขนของออกทั้งหมด ส่วนจะมีความผิดทางกฎหมายอย่างไร ตนก็น้อมรับและพร้อมจะไปพบเจ้าหน้าที่ ตร.
แต่ล่าสุด ปรากฏว่ามีการบุกรุกและเข้ายึดบ้านอีกรอบ พร้อมเปิดเป็นร้านขายอาหาร ทางคุณอาย ผู้เสียหาย ได้เปิดเผยกับข่าวสดออนไลน์ว่า เมื่อวานนี้เพิ่งจะทราบว่าบ้านถูกเพื่อนบ้านคนนี้เข้ามายึดทำเป็นร้านอาหาร เมื่อเข้าไปดูตอนแรกพบผู้หญิงอยู่ในบ้าน 2 คน จึงออกไปแจ้งกับตำรวจ สน.โคกคราม ให้เข้ามาช่วยติดตามดู พอกลับมาอีกครั้งพร้อมกับตำรวจ ผู้หญิงทั้งคู่ก็หายไปแล้ว แต่ก็พบคู่กรณีซึ่งบอกแต่ว่าให้คุยกับทนาย และทนายอ้างว่า...
“ลูกความของเขาไม่ยินยอมย้ายออก เพียงแต่ออกมาชั่วคราวเพราะถูกนักข่าวกดดัน”
คุณอาย กล่าวว่า ประตูบ้านหลังนี้ถูกปิดล็อกไปตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. 2566 หากจะเข้าไปก็ต้องงัดบ้านเข้ามาเท่านั้น แต่ตอนนี้ทางคู่กรณีได้ล็อกกุญแจลูกใหม่ และยังฟ้องร้องคดีแพ่งกับตนและสามี ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2566 เรื่องการครอบครองปรปักษ์ โดยทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้ยื่นคัดค้านต่อศาลไปในวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมาแล้ว พร้อมฟ้องขับไล่คู่กรณี แต่ศาลยังไม่ได้ตัดสิน
การกระทำของคู่กรณีชี้ว่าต้องการได้บ้านหลังนี้ฟรี ทั้งที่หลังเกิดเรื่องเมื่อปีก่อน อ้างว่าจะยอมย้ายออก หรือยอมซื้อต่อ แต่อย่างไรตนก็จะไม่ขาย และจะเอาผิดให้ถึงที่สุด
ไม่รู้ว่ามีใครแนะนำให้ทำเช่นนี้หรือไม่ เกรงว่าหากคู่กรณีชนะคดี จะกลายเป็นช่องว่างทางกฎหมาย และจะมีผู้อื่นถูกกระทำเหมือนกับตน เพราะในหมู่บ้านมีบ้านร้างเยอะ
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องรอการตัดสินของศาล ส่วนตัวหลักฐานและข้อกล่าวอ้างของฝ่ายคู่กรณีมีไม่เพียงพอ
ที่มา : ข่าวสด
#บุกรุกบ้าน #เพื่อนบ้าน #บ้านทิ้งร้าง #ครอบครองปรปักษ์ #โหนกระแส