สวัสดีค่ะ เราเป็นคนไทยที่มาทำงานที่ต่างประเทศ(ญป)
เรามาทำงานที่นี่ได้8เดือนแล้ว มาถูกกฏหมายกับบริษัทจัดหางานทั่วไป เรื่องงานเราพัฒนาค่อนข้างใว เพราะเราหัวใวและได้ภาษา จึงทำให้คุยกับเจ้าของภาษาง่าย และได้ทำงานเท่าคนที่ทำมาแล้ว3-5ปี โอทีก็ได้เท่ากัน แต่กับบางคนได้ทำบ้างไม่ได้ทำบ้าง
ต้องเกริ่นนิสัยส่วนตัวเราก่อน เราเป็นลูกคนเดียวค่ะ นิสัยไปทางค่อนข้างอินโทรเวิส แต่ไม่ขนาดนั้น เป็นคนที่ชวนคุยไม่เก่ง ส่วนบุคลิกท่าทางน่าจะไปทางหยิ่งๆ( เคยถามคนที่พึ่งรู้จักกันครั้งแรก ) เเละบุคลิกน่าจะไปทางไม่มีความน่าเคารพ แต่เราเป็นคนร่าเริงอยู่นะ พูดเยอะมากถ้าสนิทกันระดับนึง แต่จะเป็นคนที่ใช้คำพูดไม่เป็น คิดอะไรก็พูดออกไปเลย อาจจะทำให้คนอื่นไม่พอใจ ถ้าตอนเจอคนอื่นถ้าไม่มีอะไรให้ถามก็จะไม่ถามเลย ไม่ค่อยไปยุ่มย่ามกับเรื่องของคนอื่น และไม่ชอบให้คนอื่นมายุ่มย่ามกับเรา ถ้ามีปัญหานิดหน่อยจะเป็นคนไม่ค่อยเถียงคนจะไปทางยอมขอโทษก่อนซะมากกว่าถ้าเรื่องไหนยอมได้ก็ยอม จนน้องที่ทำงานอายุน้อยกว่าเรียกชื่อเฉยๆและทำอะไรไม่เกรงใจ แต่เราก็ปล่อยผ่าน ที่เราทำแบบนั้นเพราะมันจะผิดใจกันเปล่าๆ ไม่อยากมีปัญหาตามมาให้วุ่นวาย เลิกงานกินข้าวเสร็จก็จะขึ้นห้องมาอยู่คนเดียว เป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ณ ปัจจุบันที่ทำงาน ที่อยู่เป็นบ้าน มีห้องให้อยู่2-3คน แต่เราพักคนเดียว เพราะคนที่มาพร้อมเราเขาย้ายออกไปทำงานที่อื่น อยู่ด้วยกันในบ้านทั้งหมด14คน ต้องเจอหน้ากันทำงานด้วยกันทุกวัน เราไม่มีเพื่อนเลยที่สนิทกินข้าวคุยด้วยกันได้เลย เคยพยายามจะเข้าไปคุยกับเขา ก็รู้สึกเหมือนเขาไม่อยากคุยด้วย ถามคำตอบคำ ทำน้ำเสียงเหมือนรำคาญเราเลยไม่กล้าคุย เลยนั่งเงียบๆกินข้าวคนเดียว ส่วนคนอื่นก็คุยกันหัวเราะเฮฮา เหมือนเราเป็นอากาศ เรารู้สึกเหมือนเข้ากับคนอื่นไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่มีใครเกรงใจ จะใช้ของส่วนรวมก็ต้องรอตอนที่คนอื่นใช้เสร็จแล้ว เราถึงได้ใช้ เพราะเราจะหลีกให้คนอื่นใช้ก่อน ถ้าเราใช้ก่อนเขาจะทำหน้าไม่พอใจไส่ และตอนที่ทำงานก็ไม่มีใครสนใจจะมาช่วยเหลือเรา(แต่เราก็ทำเองได้นะ) แต่พอเห็นคนที่เขาสนิทกันเขาช่วยกันเราก็หน่วงๆในใจ ได้แต่ตั้งคำถามว่าเราไปทำอะไรให้คนอื่นไม่พอใจกันนะ ทำไมเราไม่มีเพื่อนเลย มีแค่คุยหน้างาน ไม่มีให้ปรึกษาเรื่องอื่นได้เลย เราแค่อยากจะมีคนคุยกับเราบ้างพูดเล่นๆกับเราบ้าง ชวนเราไปข้างนอกด้วยบ้าง แค่นั้นเอง
และวันนี้เราถึงได้เข้าใจ เหตุการณ์ มีอยู่ว่า มีพี่คนนึงเขามาเยี่ยมที่บ้าน เขาซื้อน้ำมาฝาก เขาบอกว่าให้หยิบไปคนละอัน ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดจะไปเอาเพราะคิดว่าคงไม่มีให้เราหรอกมั้ง แต่คนที่เขาซื้อมาบอกกับเราว่ามาเอาสิ เราก็เลยเดินไปเอา พอเราเดินไปหยิบ เพื่อนอีกคนของเขาก็พูดขึ้นมาว่า ใครให้หยิบ ใครบอกให้มาเอา ซื้อมาพอดีกับจำนวนคน(มีทุกคนยกเว้นเรา) แล้วพี่คนที่ซื้อมาก็เงียบ ไม่พูดอะไรเลย คือเราทำตัวไม่ถูกเลย เราหน้าชาเลยตอนนั้น คือ ไม่รู้จะทำยังไง อายก็อาย พูดให้เราเสร็จแล้วก็เดินไปอีกทาง เราเลยวางใว้ที่เดิมและบอกพี่คนซื้อว่าขอโทษนะแล้วเดินออกมา พอเราเดินออกมาเขาก็พูดกับคนอื่นๆว่า มันหยิบไปด้วยมั้ย มาเอาทำไมใครให้มาเอา ทำไมมาอยากได้ของคนอื่น ทีของตัวเองคนอื่นเคยได้กินด้วยมั้ย เราตกใจมาก เราเคยพยายามชวนกินแล้ว แต่เขาไม่กิน และส่วนตัวคนที่พูดก็เคยกินเครื่องดื่มของเรา แต่นางคงจำไม่ได้ ส่วนคนอื่นๆที่ฟังอยู่ก็เหมือนเออออกับนางไป และพูดติดตลกว่าตกใจเลยนี่ก็วางลงเพราะนึกว่าว่านี่ แล้วขำและหัวเราะกันสนุกสนาน เราหน้าชาและอายไปหมด คือตอนนี้เรารู้สึกแย่มากๆ อายก็อาย หิวข้าวมากแต่ไม่กล้าลงไปกินเพราะคนนั้นยังอยู่ในห้องครัว เราจึงกลับมาถามตัวเอง ว่าเราไปทำอะไรให้เขาเกลียดเราขนาดนั้นกันนะ เราไม่รู้ตัวเลย หรือจะเป็นเพราะเราทำงานของตัวเองให้ดีก่อน ไม่ค่อยสนใจใคร งานตัวเองดีแล้วค่อยไปช่วยงานคนอื่น หรือเพราะเราได้ทำงานเท่ากันกับคนที่ทำมานาน ได้โอทีเท่าเขาทั้งๆที่พึ่งมาทำงานได้ไม่นาน หรือเพราะว่านิสัยเราเองไม่ยอมคุยกับเขา เขาว่าให้ใครไม่ค่อยไปผสมโรง และไม่เคยไปกินข้าวกับเขาและชวนเขากินข้าว และถ้าเป็นเราทำไมถึงผิดไปหมด ยกตัวอย่าง เป็นสิ่งที่ทำผิดเหมือนกัน เรากับอีกคนทำเหมือนกัน ทุกคนในบ้านจะต่อว่าเรา ส่วนอีกคนที่ทำผิดเหมือนเราไม่ว่า เพราะเขาเป็นพวกเดียวกัน แต่จะนินทาลับหลังมากกว่า ต่อหน้าก็คุยกันปกติ ทุกคนในบ้านคือไม่มีใครอยู่ข้างเราเลยสักคนทำเหมือนเราเป็นอากาศ
คือตอนนี้เราแย่มาก ไม่มีใครให้ปรึกษา เราหาทางออกไม่เจอ เราต้องทำยังไงหรอ เราพยายามปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไรเราอยู่คนเดียวได้ เพราะการงานเราก็ไม่ได้แย่ เราไม่ได้ทำงานอะไรผิดพลาดเลย ไปทางดีด้วยซ้ำ แต่ในทางสังคม เราเสียใจกับการที่เราไม่มีเพื่อน และทำอะไรนิดหน่อยทุกคนก็ต่อว่าให้เรามากๆ เราพยายามเข้มแข็งแล้ว กำลังใจของเราที่เดียวตอนนี้คือแม่ ตอนที่โทรหาแม่ก็ต้องพยายามยิ้ม ไม่อยากให้เขาเป็นห่วง ได้แต่ร้องไห้คนเดียวในห้อง เราจะทนไปอีกได้ยัง 3 ปี (สัญญามีระยะเวลา3ปี) เราเหนื่อยมากกับปัญหานี้ เราพยายามทำทุกทางเพื่อเข้าหาคนอื่นแล้ว แต่เราทำได้เท่านี้จริงๆ
เราขอข้อแนะนำและวิจารณ์สิ่งที่เราเป็นและเราทำหน่อยค่ะ นี่อาจจะเป็นเรื่องเล่าแค่มุมของเรา ถ้าเป็นในมุมของเขาเราอาจจะแย่ในมุมของเขาก็ได้ แต่เราไม่กล้าไปถามเขาเพราะมันจะเหมือนเราหาเรื่องและบานปลาย เขาคงไม่ยอมพูดดีดีด้วยแน่ๆ และเพราะทุกคนพร้อมที่จะอยู่อีกฝั่ง ไม่มีใครอยากอยู่ข้างเรา
เราไม่รู้ตัวว่าไปทำอะไรให้คนเกลียดเราขนาดนั้น (ยาวหน่อยนะ)
เรามาทำงานที่นี่ได้8เดือนแล้ว มาถูกกฏหมายกับบริษัทจัดหางานทั่วไป เรื่องงานเราพัฒนาค่อนข้างใว เพราะเราหัวใวและได้ภาษา จึงทำให้คุยกับเจ้าของภาษาง่าย และได้ทำงานเท่าคนที่ทำมาแล้ว3-5ปี โอทีก็ได้เท่ากัน แต่กับบางคนได้ทำบ้างไม่ได้ทำบ้าง
ต้องเกริ่นนิสัยส่วนตัวเราก่อน เราเป็นลูกคนเดียวค่ะ นิสัยไปทางค่อนข้างอินโทรเวิส แต่ไม่ขนาดนั้น เป็นคนที่ชวนคุยไม่เก่ง ส่วนบุคลิกท่าทางน่าจะไปทางหยิ่งๆ( เคยถามคนที่พึ่งรู้จักกันครั้งแรก ) เเละบุคลิกน่าจะไปทางไม่มีความน่าเคารพ แต่เราเป็นคนร่าเริงอยู่นะ พูดเยอะมากถ้าสนิทกันระดับนึง แต่จะเป็นคนที่ใช้คำพูดไม่เป็น คิดอะไรก็พูดออกไปเลย อาจจะทำให้คนอื่นไม่พอใจ ถ้าตอนเจอคนอื่นถ้าไม่มีอะไรให้ถามก็จะไม่ถามเลย ไม่ค่อยไปยุ่มย่ามกับเรื่องของคนอื่น และไม่ชอบให้คนอื่นมายุ่มย่ามกับเรา ถ้ามีปัญหานิดหน่อยจะเป็นคนไม่ค่อยเถียงคนจะไปทางยอมขอโทษก่อนซะมากกว่าถ้าเรื่องไหนยอมได้ก็ยอม จนน้องที่ทำงานอายุน้อยกว่าเรียกชื่อเฉยๆและทำอะไรไม่เกรงใจ แต่เราก็ปล่อยผ่าน ที่เราทำแบบนั้นเพราะมันจะผิดใจกันเปล่าๆ ไม่อยากมีปัญหาตามมาให้วุ่นวาย เลิกงานกินข้าวเสร็จก็จะขึ้นห้องมาอยู่คนเดียว เป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ณ ปัจจุบันที่ทำงาน ที่อยู่เป็นบ้าน มีห้องให้อยู่2-3คน แต่เราพักคนเดียว เพราะคนที่มาพร้อมเราเขาย้ายออกไปทำงานที่อื่น อยู่ด้วยกันในบ้านทั้งหมด14คน ต้องเจอหน้ากันทำงานด้วยกันทุกวัน เราไม่มีเพื่อนเลยที่สนิทกินข้าวคุยด้วยกันได้เลย เคยพยายามจะเข้าไปคุยกับเขา ก็รู้สึกเหมือนเขาไม่อยากคุยด้วย ถามคำตอบคำ ทำน้ำเสียงเหมือนรำคาญเราเลยไม่กล้าคุย เลยนั่งเงียบๆกินข้าวคนเดียว ส่วนคนอื่นก็คุยกันหัวเราะเฮฮา เหมือนเราเป็นอากาศ เรารู้สึกเหมือนเข้ากับคนอื่นไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่มีใครเกรงใจ จะใช้ของส่วนรวมก็ต้องรอตอนที่คนอื่นใช้เสร็จแล้ว เราถึงได้ใช้ เพราะเราจะหลีกให้คนอื่นใช้ก่อน ถ้าเราใช้ก่อนเขาจะทำหน้าไม่พอใจไส่ และตอนที่ทำงานก็ไม่มีใครสนใจจะมาช่วยเหลือเรา(แต่เราก็ทำเองได้นะ) แต่พอเห็นคนที่เขาสนิทกันเขาช่วยกันเราก็หน่วงๆในใจ ได้แต่ตั้งคำถามว่าเราไปทำอะไรให้คนอื่นไม่พอใจกันนะ ทำไมเราไม่มีเพื่อนเลย มีแค่คุยหน้างาน ไม่มีให้ปรึกษาเรื่องอื่นได้เลย เราแค่อยากจะมีคนคุยกับเราบ้างพูดเล่นๆกับเราบ้าง ชวนเราไปข้างนอกด้วยบ้าง แค่นั้นเอง
และวันนี้เราถึงได้เข้าใจ เหตุการณ์ มีอยู่ว่า มีพี่คนนึงเขามาเยี่ยมที่บ้าน เขาซื้อน้ำมาฝาก เขาบอกว่าให้หยิบไปคนละอัน ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดจะไปเอาเพราะคิดว่าคงไม่มีให้เราหรอกมั้ง แต่คนที่เขาซื้อมาบอกกับเราว่ามาเอาสิ เราก็เลยเดินไปเอา พอเราเดินไปหยิบ เพื่อนอีกคนของเขาก็พูดขึ้นมาว่า ใครให้หยิบ ใครบอกให้มาเอา ซื้อมาพอดีกับจำนวนคน(มีทุกคนยกเว้นเรา) แล้วพี่คนที่ซื้อมาก็เงียบ ไม่พูดอะไรเลย คือเราทำตัวไม่ถูกเลย เราหน้าชาเลยตอนนั้น คือ ไม่รู้จะทำยังไง อายก็อาย พูดให้เราเสร็จแล้วก็เดินไปอีกทาง เราเลยวางใว้ที่เดิมและบอกพี่คนซื้อว่าขอโทษนะแล้วเดินออกมา พอเราเดินออกมาเขาก็พูดกับคนอื่นๆว่า มันหยิบไปด้วยมั้ย มาเอาทำไมใครให้มาเอา ทำไมมาอยากได้ของคนอื่น ทีของตัวเองคนอื่นเคยได้กินด้วยมั้ย เราตกใจมาก เราเคยพยายามชวนกินแล้ว แต่เขาไม่กิน และส่วนตัวคนที่พูดก็เคยกินเครื่องดื่มของเรา แต่นางคงจำไม่ได้ ส่วนคนอื่นๆที่ฟังอยู่ก็เหมือนเออออกับนางไป และพูดติดตลกว่าตกใจเลยนี่ก็วางลงเพราะนึกว่าว่านี่ แล้วขำและหัวเราะกันสนุกสนาน เราหน้าชาและอายไปหมด คือตอนนี้เรารู้สึกแย่มากๆ อายก็อาย หิวข้าวมากแต่ไม่กล้าลงไปกินเพราะคนนั้นยังอยู่ในห้องครัว เราจึงกลับมาถามตัวเอง ว่าเราไปทำอะไรให้เขาเกลียดเราขนาดนั้นกันนะ เราไม่รู้ตัวเลย หรือจะเป็นเพราะเราทำงานของตัวเองให้ดีก่อน ไม่ค่อยสนใจใคร งานตัวเองดีแล้วค่อยไปช่วยงานคนอื่น หรือเพราะเราได้ทำงานเท่ากันกับคนที่ทำมานาน ได้โอทีเท่าเขาทั้งๆที่พึ่งมาทำงานได้ไม่นาน หรือเพราะว่านิสัยเราเองไม่ยอมคุยกับเขา เขาว่าให้ใครไม่ค่อยไปผสมโรง และไม่เคยไปกินข้าวกับเขาและชวนเขากินข้าว และถ้าเป็นเราทำไมถึงผิดไปหมด ยกตัวอย่าง เป็นสิ่งที่ทำผิดเหมือนกัน เรากับอีกคนทำเหมือนกัน ทุกคนในบ้านจะต่อว่าเรา ส่วนอีกคนที่ทำผิดเหมือนเราไม่ว่า เพราะเขาเป็นพวกเดียวกัน แต่จะนินทาลับหลังมากกว่า ต่อหน้าก็คุยกันปกติ ทุกคนในบ้านคือไม่มีใครอยู่ข้างเราเลยสักคนทำเหมือนเราเป็นอากาศ
คือตอนนี้เราแย่มาก ไม่มีใครให้ปรึกษา เราหาทางออกไม่เจอ เราต้องทำยังไงหรอ เราพยายามปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไรเราอยู่คนเดียวได้ เพราะการงานเราก็ไม่ได้แย่ เราไม่ได้ทำงานอะไรผิดพลาดเลย ไปทางดีด้วยซ้ำ แต่ในทางสังคม เราเสียใจกับการที่เราไม่มีเพื่อน และทำอะไรนิดหน่อยทุกคนก็ต่อว่าให้เรามากๆ เราพยายามเข้มแข็งแล้ว กำลังใจของเราที่เดียวตอนนี้คือแม่ ตอนที่โทรหาแม่ก็ต้องพยายามยิ้ม ไม่อยากให้เขาเป็นห่วง ได้แต่ร้องไห้คนเดียวในห้อง เราจะทนไปอีกได้ยัง 3 ปี (สัญญามีระยะเวลา3ปี) เราเหนื่อยมากกับปัญหานี้ เราพยายามทำทุกทางเพื่อเข้าหาคนอื่นแล้ว แต่เราทำได้เท่านี้จริงๆ
เราขอข้อแนะนำและวิจารณ์สิ่งที่เราเป็นและเราทำหน่อยค่ะ นี่อาจจะเป็นเรื่องเล่าแค่มุมของเรา ถ้าเป็นในมุมของเขาเราอาจจะแย่ในมุมของเขาก็ได้ แต่เราไม่กล้าไปถามเขาเพราะมันจะเหมือนเราหาเรื่องและบานปลาย เขาคงไม่ยอมพูดดีดีด้วยแน่ๆ และเพราะทุกคนพร้อมที่จะอยู่อีกฝั่ง ไม่มีใครอยากอยู่ข้างเรา