ตามหัวข้อเลยครับ. อันนี้จะเป็นเรื่องของผมเอง
ซึ่ง ตอนนี้ผมอายุ23เข้า24 แต่ผมยังอาศัยอยู่กับแม่ ซึ่งผมอยู่กับแม่แค่สองคนช่วยกันขายของตอนทำของส่วนพ่อก็หย่าล้างกันไปหลายปีแล้ว ซึ่งแม่ให้ค่าแรงผมอยู่ที่วันละ200 น้ำไฟฟรี อาจจะมีครั้งคาวที่ผมจ่ายค่าไฟค่าน้ำ อย่างน้อยผมก็ไม่ได้อยู่ฟรีๆ ยังช่วยทำมาหากินอยู่. ตอนนี้ผมทำของทุกอย่างแทนแม่ได้แล้วผมเลยคิดว่าจะสานต่อธุรกิจของแม่
ตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว (ก.ศ.น. ม.6) ซึ่งผมไม่มีแผนที่จะเรียนต่อเพราะรู้สึกสมองไม่ค่อยรับอะไรสักเท่าไหร่(หรืออีกในคือขี้เกียจครับ) ตอนนี้ผมมีปัญหาตรงที่มีรุ่นน้องอยู่สองคนเขาชวนผมไปเรียนคอมพิวเตอร์ธุรกิจเพราะมันดห็นว่าชอบเล้นคอมซึ่งผมไม่ค่อยรู้อะไรพวกนี้ผมเลยบอกเขาว่าผมไม่อยากเรียนแล้วผมเบื่อ พอบอกน้องมันไปอย่างงี้น้องเขาก้อบอกผมว่า อายุขนาดนี้ควรออกมาใช้ชีวิตข้างนอกได้แล้วไม่ควรเกาะแม่กินแบมือขอเงินแม่ ควรที่จะออกมาหาเงินที่จะไปเลี้ยงแม่
ซึ่งผมก้อไม่ได้พูดอะไรต่อ พอผ่านไปหลายๆวันเข้าผมก้อมาคิดว่าการอยู่แบบนี้มันดีแล้วหรอ มันดีมั้ยเพราะพี่ชายผมก็ออกไปทำงานต่างจังหวัดตั้งแต่ 16-17แล้ว แต่ผมยังอยู่นี้ตั้งแต่จำความได้ ไม่คิดที่จะไปทำงานต่างจังหวัดรึไปใช้ชีวิตที่อื่นเลย ผมก็อย่างออกไปใช้ชีวิตข้างนอกนะคับแต่ผมเป็นห่วงแม่ ถ้าผมไปแล้วแม่ก็อยู่คนเดียวทำของคนเดียว ของที่แม่ขายก็หนักพอสมควร หมายถึงของสองสามอย่างขายคนเดัยว ไหนจะทำของคนเดียว แล้วยังมาขายคนเดียวไม่มีคนช่วย อ่อผมลืมบอก ผมมีพ่อเลี้ยงอยู่คนนึงคับ ซึ่งตอนนี้แยกบ้านกันอยู่แล้วพอดีมีปัญหาเลยอยู่บ้านหลังเดียวกันไม่ได้อีก
(ระบาย)
ซึ่งพ่อเลี้ยงผมก้อ ไม่ค่อยเอาการเอางานเท่าไหร่ อารมเหมือนทำงานแล้วแต่อารมอ่ะคับ เวลาไปขายของกับแม่ก้อชอบแวะไปนั้นไปนี้ในเวลาเร่งรีบ อย่างเช่น ไปส่งของ ให้ลูกค่าที่อยู่ไม่ถึงร้อยเมตรก้อใช้เวลาไปเป๋นชั่วโมงเลยแม่ยังบอกเลยวาาเบื่อ วันไหนผมเหนื่อยๆแม่ก้อหยุดด้วย เพราะไม่อยากเรียกมันมาช่วย เพราะถ้าเรียกมันมาเท่ากับ เหนื่อยกว่าเดิมอีก.
ผมขอแนวคิดหน่อยครับว่าควรจะทำยังไงกับชีวิตดี อายุก็ไม่ใช้น้อยๆแล้ว แต่ผมก้อได้แค่คิด ผมโตมาแบบพ่อแม่ปล่อยคับให้คิดเองให้เจอเองกับตัว ถึงรู้ว่าชีวิตมันเป็นยังไงให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ติดจริงตรงที่ผมเป็นห่วงแม่ ถ้าผมไปแม่อยู่คนเดียว
อายุ23-24แล้วแต่ยังเกาะแม่กิน
ซึ่ง ตอนนี้ผมอายุ23เข้า24 แต่ผมยังอาศัยอยู่กับแม่ ซึ่งผมอยู่กับแม่แค่สองคนช่วยกันขายของตอนทำของส่วนพ่อก็หย่าล้างกันไปหลายปีแล้ว ซึ่งแม่ให้ค่าแรงผมอยู่ที่วันละ200 น้ำไฟฟรี อาจจะมีครั้งคาวที่ผมจ่ายค่าไฟค่าน้ำ อย่างน้อยผมก็ไม่ได้อยู่ฟรีๆ ยังช่วยทำมาหากินอยู่. ตอนนี้ผมทำของทุกอย่างแทนแม่ได้แล้วผมเลยคิดว่าจะสานต่อธุรกิจของแม่
ตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว (ก.ศ.น. ม.6) ซึ่งผมไม่มีแผนที่จะเรียนต่อเพราะรู้สึกสมองไม่ค่อยรับอะไรสักเท่าไหร่(หรืออีกในคือขี้เกียจครับ) ตอนนี้ผมมีปัญหาตรงที่มีรุ่นน้องอยู่สองคนเขาชวนผมไปเรียนคอมพิวเตอร์ธุรกิจเพราะมันดห็นว่าชอบเล้นคอมซึ่งผมไม่ค่อยรู้อะไรพวกนี้ผมเลยบอกเขาว่าผมไม่อยากเรียนแล้วผมเบื่อ พอบอกน้องมันไปอย่างงี้น้องเขาก้อบอกผมว่า อายุขนาดนี้ควรออกมาใช้ชีวิตข้างนอกได้แล้วไม่ควรเกาะแม่กินแบมือขอเงินแม่ ควรที่จะออกมาหาเงินที่จะไปเลี้ยงแม่
ซึ่งผมก้อไม่ได้พูดอะไรต่อ พอผ่านไปหลายๆวันเข้าผมก้อมาคิดว่าการอยู่แบบนี้มันดีแล้วหรอ มันดีมั้ยเพราะพี่ชายผมก็ออกไปทำงานต่างจังหวัดตั้งแต่ 16-17แล้ว แต่ผมยังอยู่นี้ตั้งแต่จำความได้ ไม่คิดที่จะไปทำงานต่างจังหวัดรึไปใช้ชีวิตที่อื่นเลย ผมก็อย่างออกไปใช้ชีวิตข้างนอกนะคับแต่ผมเป็นห่วงแม่ ถ้าผมไปแล้วแม่ก็อยู่คนเดียวทำของคนเดียว ของที่แม่ขายก็หนักพอสมควร หมายถึงของสองสามอย่างขายคนเดัยว ไหนจะทำของคนเดียว แล้วยังมาขายคนเดียวไม่มีคนช่วย อ่อผมลืมบอก ผมมีพ่อเลี้ยงอยู่คนนึงคับ ซึ่งตอนนี้แยกบ้านกันอยู่แล้วพอดีมีปัญหาเลยอยู่บ้านหลังเดียวกันไม่ได้อีก
(ระบาย)
ซึ่งพ่อเลี้ยงผมก้อ ไม่ค่อยเอาการเอางานเท่าไหร่ อารมเหมือนทำงานแล้วแต่อารมอ่ะคับ เวลาไปขายของกับแม่ก้อชอบแวะไปนั้นไปนี้ในเวลาเร่งรีบ อย่างเช่น ไปส่งของ ให้ลูกค่าที่อยู่ไม่ถึงร้อยเมตรก้อใช้เวลาไปเป๋นชั่วโมงเลยแม่ยังบอกเลยวาาเบื่อ วันไหนผมเหนื่อยๆแม่ก้อหยุดด้วย เพราะไม่อยากเรียกมันมาช่วย เพราะถ้าเรียกมันมาเท่ากับ เหนื่อยกว่าเดิมอีก.
ผมขอแนวคิดหน่อยครับว่าควรจะทำยังไงกับชีวิตดี อายุก็ไม่ใช้น้อยๆแล้ว แต่ผมก้อได้แค่คิด ผมโตมาแบบพ่อแม่ปล่อยคับให้คิดเองให้เจอเองกับตัว ถึงรู้ว่าชีวิตมันเป็นยังไงให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ติดจริงตรงที่ผมเป็นห่วงแม่ ถ้าผมไปแม่อยู่คนเดียว