สวัสดีค่ะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างกวนใจเราพอสมควรค่ะ พ่อเสียได้ 5 เดือนแล้วค่ะและก็กำลังมีปัญหากับเจ้านายของพ่อมาโดยตลอดตั้งแต่พ่อเสีย
เริ่มตั้งแต่วันที่พ่อเสียเจ้านายพ่อโอนเงินมาให้ 10,000 บาทบอกว่า ช่วยค่าทำศพพ่อ แต่ต่อมาเขาบอกว่าเงินส่วนนี้เขาขอคืนนะ จะคืนตอนไหนก็ได้ ซึ่งบ้านเราก็ได้เงินค่าทำศพพ่อมาจากประกันสังคมที่พ่อทำไว้รวม 178,229 เราจัดงานศพพ่อ 4 วันค่ะ ค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปประมาณ 5-6 หมื่นบาท (มีเงินที่เจ้านายเราช่วยด้วย20,000) และเจียดเงินไปซ่อมรถที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวในบ้านเกือบแสน (เป็นรถกระบะรุ่นเก่าจอดทิ้งไว้ 2 ปีเพราะพัง จึงทำให้อะหลั่ยและยางเสื่อมสภาพไปเกือบหมด) ทำให้เงินเราเหลือไม่กี่บาท มาเข้าเรื่องที่เราค่อนข้างหนักใจเลยดีกว่าค่ะ
1.เจ้านายของพ่อมาบอกพวกเราว่าพ่อติดหนี้เขาอยู่เป็นแสน ซึ่งส่วนนี้ทางบ้านเราไม่มีใครรู้เลยสักคนแม้กระทั่งน้องชายที่ไปทำงานกับพ่อทุกครั้ง ย้ำว่าทุกครั้ง เขาบอกว่าเป็นเพราะพ่อเราไปซ่อมรถเขาเสีย เขาจึงต้องเอารถเข้าอู่ ซึ่งส่วนนี้น้องชายเราบอกว่า เขาให้พ่อซ่อมเองไม่ยอมไปทำที่อู่พ่อเรามีอาชีพที่ติดตัวคือช่างซ่อมรถค่ะ แต่ที่ทำงานกับเจ้านายคนนี้คือการขับรถขนส่งสินค้า พ่อขับรถเทรลเลอร์ แต่เจ้านายเขาบอกเองว่าส่วนนี้ผมไม่นับนะ ช่างมัน
2. ก่อนพ่อเสียพ่อก็ได้มีการเบิกเงินกับเฮียที่ทำเป็นลายลักษณ์อักษรในไลน์ซึ่งทำให้รู้ว่าพ่อติดหนี้ส่วนนี้เกือบ 9,000 บาท ซึ่งบ้านเราก็จ่ายไปแล้ว ส่วนนี้จบไปค่ะเพราะเราถือว่าส่วนนี้มีหลักฐานที่ชัดเจน
3. ช่วงระหว่างที่พ่อเสียเราจำเป็นที่จะต้องยืมรถของเจ้านายพ่อมาใช้ก่อน ระหว่างรอรถตัวเองเสร็จ (รถเราจอดในอู่นานมาก จนพ่อเสียได้เงินจากประกันสังคมมาจึงมีเงินจ่ายค่าซ่อมและค่าอะหลั่ยที่เสื่อมไป) พอรถเราเสร็จเราก็เอาไปคืนค่ะ โดยช่วงที่ใช้รถของเค้านั้นเราก็ดูแลให้ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ หม้อน้ำไม่เคยแห้ง ยางก็ดูแลอย่างดีเสมือนรถของตัวเอง นำรถคืนไปเมื่อต้นเดือนกันยายนค่ะโดยที่รถปกติดีทุกอย่าง มาวันนี้เจ้านายพ่อโทรมาบอกว่ารถเสียและเอ่ยถึงจำนวนเงินที่เค้าจ่ายไป 9,000 บาท และตบท้ายด้วยแต่ผมไม่ได้จะเอาเงินนะแค่บอก เราเลยถามว่านานหรือยังคะที่เสีย เขาบอกว่าหลังจากที่เราเอารถไปคืนไม่นาน เราถามว่าบอกเดือนได้ไหมเค้าไม่ยอมตอบค่ะและเพิ่งจะมาพูดกับเราวันนี้เลย (6/2/66)
4.ในระหว่างการซ่อมรถของเราเอง ช่างที่ทำแจ้งว่าเจ้านายพ่อถามตลอดว่ารถจะเสร็จหรือยัง พอรถเสร็จเค้าถามแม่เราว่ารถเป็นชื่อของใคร แม่เราบอกอว่าชื่อแม่เค้าเลยถามกลับมาว่า อ้าวไม่ใช่ชื่อพ่อเราหรอ
5.ขยายความจากข้อที่ 1 ที่บอกว่าพ่อเราติดเงินเขา เขาบอกว่าทั้งค่าซ่อมรถและเงินค่าที่ซื้อของมาซ่อมรถ และเค้าทั้งสองมีแพลนจะเปิดอู่ซ่อมรถร่วมกัน เรื่องนี้บ้านเรายิ่งงงหนักว่าเค้าไปตกลงกันตอนไหน เพราะโดยปกติบ้านพวกเราค่อนข้างจะคุยกันทุกเรื่องและอัพเดทกันตลอด ยิ่งเรื่องใหญ่ขนาดนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่พ่อจะไม่บอกลูกเมีย น้องชายเราที่ไปทำงานกับพ่อตลอดยังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ แต่มีอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ที่น้องชายเราบอกว่าเค้าให้เงินพ่อไปซื้อซึ่งก็มีรอก เครื่องฉีดน้ำ และสว่านที่เป็นของชิ้นใหญ่ ส่วนกุญแจหรืออุปกรณ์การซ่อมอื่น ๆ คือสิ่งที่พ่อเรามีตั้งแต่เราจำความได้แต่เขากลับบอกว่าจะเอาอุปกรณ์นะ เราเลยถามว่าพ่อเอาเงินเฮียซื้อหรอคะ เค้าบอกว่าใช่ ส่วนนี้เราก็เถียงไปค่ะว่าไม่ใช่ค่ะ พ่อหนูซื้อเก็บสะสมไว้ตั้งแต่หนูยังไม่ 5 ขวบด้วยซ้ำ เขาก็เงียบไปค่ะ
อยากถามว่าคิดว่าเจ้านายเก่าพ่อมีจุดประส่งค์อะไรในการโทรมาหาเราเรื่องนี้คะ เงิน10,000บาทที่เค้าบอกจะเอาคืนบ้านเรายังไม่ได้คืนค่ะ และวันที่เราจะคืนเขา เขาบอกว่าเก็บไว้ก่อนผมยังไม่เอา ไว้มาคืนตอนที่มีก็ได้ ซึ่งบ้านเราก็นิ่งนอนใจจริงๆค่ะเรื่องนี้ จนกินระยะเวลามากว่า 4 เดือนพอจนตอนนี้เงินส่วนที่ได้จากปกสค.ของพ่อได้หมดไปแล้วส่วนเงินที่ติดค้างไว้เราก็จะนำไปคืนเค้าภายใน 2 เดือนค่ะ อยากตัดขาดแล้วเพราะพูดตรงๆ ว่ามันบั่นทอนจิตใจค่ะ เรารับมือไม่ได้ค่ะไม่รู้ว่าเขาอยากได้อะไรกันแน่นอกจากเงิน เพราะดูทรงเขาจะเอาของของพ่อไปทั้งหมดเลย ซึ่งบ้านเราไม่ยอมอยู่แล้วแน่ ๆ
พ่อเสียชีวิตและเจ้านายเก่าของพ่อมีจุดประสงค์อะไรที่พูดแบบนี้
เริ่มตั้งแต่วันที่พ่อเสียเจ้านายพ่อโอนเงินมาให้ 10,000 บาทบอกว่า ช่วยค่าทำศพพ่อ แต่ต่อมาเขาบอกว่าเงินส่วนนี้เขาขอคืนนะ จะคืนตอนไหนก็ได้ ซึ่งบ้านเราก็ได้เงินค่าทำศพพ่อมาจากประกันสังคมที่พ่อทำไว้รวม 178,229 เราจัดงานศพพ่อ 4 วันค่ะ ค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปประมาณ 5-6 หมื่นบาท (มีเงินที่เจ้านายเราช่วยด้วย20,000) และเจียดเงินไปซ่อมรถที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวในบ้านเกือบแสน (เป็นรถกระบะรุ่นเก่าจอดทิ้งไว้ 2 ปีเพราะพัง จึงทำให้อะหลั่ยและยางเสื่อมสภาพไปเกือบหมด) ทำให้เงินเราเหลือไม่กี่บาท มาเข้าเรื่องที่เราค่อนข้างหนักใจเลยดีกว่าค่ะ
1.เจ้านายของพ่อมาบอกพวกเราว่าพ่อติดหนี้เขาอยู่เป็นแสน ซึ่งส่วนนี้ทางบ้านเราไม่มีใครรู้เลยสักคนแม้กระทั่งน้องชายที่ไปทำงานกับพ่อทุกครั้ง ย้ำว่าทุกครั้ง เขาบอกว่าเป็นเพราะพ่อเราไปซ่อมรถเขาเสีย เขาจึงต้องเอารถเข้าอู่ ซึ่งส่วนนี้น้องชายเราบอกว่า เขาให้พ่อซ่อมเองไม่ยอมไปทำที่อู่พ่อเรามีอาชีพที่ติดตัวคือช่างซ่อมรถค่ะ แต่ที่ทำงานกับเจ้านายคนนี้คือการขับรถขนส่งสินค้า พ่อขับรถเทรลเลอร์ แต่เจ้านายเขาบอกเองว่าส่วนนี้ผมไม่นับนะ ช่างมัน
2. ก่อนพ่อเสียพ่อก็ได้มีการเบิกเงินกับเฮียที่ทำเป็นลายลักษณ์อักษรในไลน์ซึ่งทำให้รู้ว่าพ่อติดหนี้ส่วนนี้เกือบ 9,000 บาท ซึ่งบ้านเราก็จ่ายไปแล้ว ส่วนนี้จบไปค่ะเพราะเราถือว่าส่วนนี้มีหลักฐานที่ชัดเจน
3. ช่วงระหว่างที่พ่อเสียเราจำเป็นที่จะต้องยืมรถของเจ้านายพ่อมาใช้ก่อน ระหว่างรอรถตัวเองเสร็จ (รถเราจอดในอู่นานมาก จนพ่อเสียได้เงินจากประกันสังคมมาจึงมีเงินจ่ายค่าซ่อมและค่าอะหลั่ยที่เสื่อมไป) พอรถเราเสร็จเราก็เอาไปคืนค่ะ โดยช่วงที่ใช้รถของเค้านั้นเราก็ดูแลให้ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ หม้อน้ำไม่เคยแห้ง ยางก็ดูแลอย่างดีเสมือนรถของตัวเอง นำรถคืนไปเมื่อต้นเดือนกันยายนค่ะโดยที่รถปกติดีทุกอย่าง มาวันนี้เจ้านายพ่อโทรมาบอกว่ารถเสียและเอ่ยถึงจำนวนเงินที่เค้าจ่ายไป 9,000 บาท และตบท้ายด้วยแต่ผมไม่ได้จะเอาเงินนะแค่บอก เราเลยถามว่านานหรือยังคะที่เสีย เขาบอกว่าหลังจากที่เราเอารถไปคืนไม่นาน เราถามว่าบอกเดือนได้ไหมเค้าไม่ยอมตอบค่ะและเพิ่งจะมาพูดกับเราวันนี้เลย (6/2/66)
4.ในระหว่างการซ่อมรถของเราเอง ช่างที่ทำแจ้งว่าเจ้านายพ่อถามตลอดว่ารถจะเสร็จหรือยัง พอรถเสร็จเค้าถามแม่เราว่ารถเป็นชื่อของใคร แม่เราบอกอว่าชื่อแม่เค้าเลยถามกลับมาว่า อ้าวไม่ใช่ชื่อพ่อเราหรอ
5.ขยายความจากข้อที่ 1 ที่บอกว่าพ่อเราติดเงินเขา เขาบอกว่าทั้งค่าซ่อมรถและเงินค่าที่ซื้อของมาซ่อมรถ และเค้าทั้งสองมีแพลนจะเปิดอู่ซ่อมรถร่วมกัน เรื่องนี้บ้านเรายิ่งงงหนักว่าเค้าไปตกลงกันตอนไหน เพราะโดยปกติบ้านพวกเราค่อนข้างจะคุยกันทุกเรื่องและอัพเดทกันตลอด ยิ่งเรื่องใหญ่ขนาดนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่พ่อจะไม่บอกลูกเมีย น้องชายเราที่ไปทำงานกับพ่อตลอดยังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ แต่มีอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ที่น้องชายเราบอกว่าเค้าให้เงินพ่อไปซื้อซึ่งก็มีรอก เครื่องฉีดน้ำ และสว่านที่เป็นของชิ้นใหญ่ ส่วนกุญแจหรืออุปกรณ์การซ่อมอื่น ๆ คือสิ่งที่พ่อเรามีตั้งแต่เราจำความได้แต่เขากลับบอกว่าจะเอาอุปกรณ์นะ เราเลยถามว่าพ่อเอาเงินเฮียซื้อหรอคะ เค้าบอกว่าใช่ ส่วนนี้เราก็เถียงไปค่ะว่าไม่ใช่ค่ะ พ่อหนูซื้อเก็บสะสมไว้ตั้งแต่หนูยังไม่ 5 ขวบด้วยซ้ำ เขาก็เงียบไปค่ะ
อยากถามว่าคิดว่าเจ้านายเก่าพ่อมีจุดประส่งค์อะไรในการโทรมาหาเราเรื่องนี้คะ เงิน10,000บาทที่เค้าบอกจะเอาคืนบ้านเรายังไม่ได้คืนค่ะ และวันที่เราจะคืนเขา เขาบอกว่าเก็บไว้ก่อนผมยังไม่เอา ไว้มาคืนตอนที่มีก็ได้ ซึ่งบ้านเราก็นิ่งนอนใจจริงๆค่ะเรื่องนี้ จนกินระยะเวลามากว่า 4 เดือนพอจนตอนนี้เงินส่วนที่ได้จากปกสค.ของพ่อได้หมดไปแล้วส่วนเงินที่ติดค้างไว้เราก็จะนำไปคืนเค้าภายใน 2 เดือนค่ะ อยากตัดขาดแล้วเพราะพูดตรงๆ ว่ามันบั่นทอนจิตใจค่ะ เรารับมือไม่ได้ค่ะไม่รู้ว่าเขาอยากได้อะไรกันแน่นอกจากเงิน เพราะดูทรงเขาจะเอาของของพ่อไปทั้งหมดเลย ซึ่งบ้านเราไม่ยอมอยู่แล้วแน่ ๆ