สวัดดีค่ะ ขอเกรนก่อนว่าดินฉันอายุ25ปี มีงานประจำที่ทำอยู่ต่างจังหวัด รายได้ต่อเดือน21000++ ค่ากินและที่พักบริษัทรับผิดชอบ100%
มีลูกสาว1คนอายุ5ขวบเข้า6ขวบ ดิฉันแต่งงานตั้งแต่อายุ19ปี หลังจากแต่งงานในอายุที่น้อยนิด ดิฉันท้องและคลอดลูก ไม่ได้เรียนต่อ ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินเก็บ ค่าครองชีพสามีเลยเป็นคนรับผิดชอบ **ค่าครองชีพที่หมายถึงอาหารสามมื้อค่าใช้จ่ายที่จะมีหลังจากคลอดลูก พอแต่งงานก็ย้ายมาอยู่บ้านสามี มาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกเต็มเวลา สามีมีงานประจำพนักงานออฟฟิศทำงานจันทร์-ศุกร์ถ้ามีโอทีก็จะทำวันเสาร์ ดิฉันเป็นคนดูและครอบครัวสามีโดยสามีจะให้เงินใช้จ่ายในส่วนอาหารการกินต่อสัปดาห์ละประมาณ1000บาท ดูแลบ้านดูและครอบครัว กวดบ้านถูล้างจานทำอาหาร3มื้อต่อวันให้ครอบครัวเล็กๆที่มีสมาชิก6-7คน ซักผ้ารีดผ้าให้สามีเลี้ยงลูก24ช.มต่อวัน ไม่มีใครช่วยเลี้ยง มีปัญหามากมายเกินขึ้นระหว่างลูกคลอด-จนก่อนลูกเข้าเรียน ปัญหาที่มักพบเจอคือ เราเลี้ยงลูกคนเดี๋ยวทุกวันตลอดเวลาจะได้พักก็ต่อเมื่อลูกหลับ ถ้ามีเสื้อผ้าให้ต้องรีดต้องซักก็จะไม่ได้พัก เลี้ยงลูกอยู่3ปีเป็นอาชีพที่ไม่ได้รับรายได้ รายได้ที่ได้รับจากสามีจะให้ไว้ใช้จ่ายอย่างเดียวคืนอาหารการกินในแต่ละมื้อ ถ้าใช้จ่ายเยอะเงินหมดไว้ก็จะถูกดุ ดิฉันเหนื่อยในบ้างครั้งจึงไม่เตรียมอาหารในหลายๆมื้อจึงทำให้มีสายตาที่ไม่พอใจ คำพูดที่ไม่พอใจที่พูกกระซิบกันในห้องครัว นอกบ้าน หรือในบ้าน แต่ดิฉันก็ไม่แคร์ **ไม่แคร์ที่แปลว่าเก็บมาคิดเสมอ** ดิฉันเป็นคนชอบให้คนรอบตัวได้กินดีอยู่สบายค่ะ ***ทั้งที่ตัวเองไม่มีเงินสักกระบาท ชอบทำทุกอย่างที่คิดว่าคนอื่น(คนในครอบครัวสามี)ชอบ ชอบทำมากประเคนหามาให้กิน ได้ยินคนในครอบครัวพูดพูดว่าอยากกินอะไรก็จะไปสันหามาให้และสุดท้ายก็เป็นคนเก็บกวดเสมอ ตลอดระยะเวลา3ปีเเรกเราไม่เคยซื้อเสื้อผ้า รองเท้า แป้งทาหน้า เครื่องสำอางสิ่งที่ได้ซื้อเป็นของใช้ส่วนตัวคือผ้าอนามัยทางครอบครัวของเราพี่ๆของเราไม่พอใจในเรื่องที่สามีไม่ได้ให้เงินเราใช้ส่วนตัวแต่เราดันคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ปกติจนพี่ๆสงสาร ปกติจน3ปีจะ4ปี พี่ๆของเราจะหยิบยื่นเงินให้เราใช้ส่วนตัวบ้างในบางครั้ง ครั้งละ2000-3000 ซื้อเสื้อผ้าสวยๆให้บ้าง2-3ชุด ( จริงเราก็เสียใจนะว่าทำไมสามีเราไม่ให้เงินสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัวให้เราบ้างแต่เราไม่กล้าถาม เพราะเคยถามแล้วเขาทำสีหน้าไม่ค่อยดีให้เรา เราเลยไม่ถามอีกแต่จะเปลี่ยนเป็นของเงินใช้ส่วนตัวทีละ100-200 แทน เราเคยเก็บเงินเหรียญที่เหลือจากค่าใช้จ่ายซื้ออาหาร มาเก็บออมไว้ ได้ประมาณ4-5 ร้อยแล้วเราเอาไปฝากที่บัญชีของลูกแต่เราถูกสามีด่าและพาเราไปพูดให้เพื่อนร่วมงานฟังตอนนั้นรู้สึกอายมาก ) เครียดมากปัญหาในบ้านสามีรุมเร้า หลายคนหลายปากหลายท้องหลายปัญหา ***เราลืมบอกไปสามีเราเป็นคนชอบเล่นดนตรีชอบร้องเพลง มักจะรับงานบ่อยๆและเราจะทะเลาะกันทุกครั้งเพราะเราไม่ชอบและไม่อยากให้สามีเรารับงาน ลำพังเลี้ยงลูกคนเดียวกวดบ้านถูบ้านล้างจานทำอาหารสามมื้อก็เหนื่อยพอแล้ว ยังไม่มาช่วยเลี้ยงลูกแล้วยังไปรับงานร้องดึกๆอีก เครียดมากค่ะแกล้งขอไปด้วยหอบลูกไปด้วยตั้งแต่6เดือน ไปเป็นภาระให้สามีเหนื่อยจได้เลิกไป สุดท้ายเราเหนื่อยลูกเหนื่อยเลยเลิกไป แต่กว่าเราจะเหนื่อยเเละเลิกไปกับสามีก็ปาไปลูก4ขวบกว่าแล้ว**** ต่อจาก เครียดมากปัญหาในบ้านสามีรุมเร้าเลยของสามีไปทำงานในบริษัทแห่งนึ่งไปเป็นแม่บ้านนะคะ เงินเดือนหักประกันสังคมเหลือประมาณ6400บาทค่ะ งานแม่บ้านกวดบ้านบริษัทแห่งนี้ทำทุกอย่างค่ะกวด ถู ล้างห้องน้ำ ตัดหญ้า กวดหญ้า ตัดแต่งกิ่งต้นไม้ งานรับเเขกบริษัทน้ำชากาแฟต้องพร้อมตลอดเวลา ทำงานได้ปีกว่าเริ่มไม่ไหว เลยขอสามีลาออกมาดูลูก จังหวะนั้นลูกเข้าเตรียมอนุบาลพอดี ****ลืมบอกไปตอนที่ทำงานแม่บ้านลูกดิฉันให้แม่สามีช่วยเลี้ยงค่ะ ตอนเช้าเราต้องเตรียมอาหารให้คนในครอบครับบ้าง ตอนกลางวันต้องกับมาปอนข้าวลูกเอง และตอนเย็นต้องเตรียมอาหารให้คนในครอบครับเหมือนเดิม ถ้าเหนื่อยมากๆจะของให้สามีเป็นคนเตรียม สามียอมทำบ้างเป็นบ้างครั้ง พ่อแม่สามีเลยไม่ชอบใจเท่าไหร่*** ต่อจาก ลูกเข้าเตรียมอนุบาลดิฉันก็ออกงานมาดูแลลูกและสามีเหมือนเดิมทุกประการ ดูแลลูกจนลูกเข้าอนุบาล2 ลูกเรียนได้ประมาณ3 เดือน ตอนนี้สามีของดิฉันได้ซื้อรถยนต 1คัน จะมีค่าใช้จ่ายหนักคือต้องผ่อนรถทุกงวด เรามีรายได้ทางเดียวจากสามี เงินเดือนชนเดือนสุดๆ บ้างเดือนพึ่งจะวันที่2ของเดือนสามียื่นเงินจำนวน4000บาทให้และบอกกับดิฉันว่านี่คือค่าใช้จ่ายตลอดทั้งเดือนของเราดิฉันน้ำตาแทบล่วง ไม่นานหลังจากนั้นดิฉันก็หางานใหม่ได้แต่เป็นงานต่างจังหวัดรายได้ดีประมาณ21000++ไม่รวมค่ากินค่าอยู่ ดิฉันเลยตัดสินใจให้ลูกอยู่เรียนหนังสื้อกับสามีเพราะสามีทำงานใกล้บ้านและลูกก็เรียนใกล้บ้านอีกอย่างลูก4ขวบจะ5ขวบแล้วโตพอที่บางอย่างเราให้เขาทำเขาทำเองได้แล้ว เราเลยตัดสินใจมาทำงานทั้งๆที่มาเงินมาทำงานต่างจังหวัดแค่2พัน ก่อนมาทำงานเราได้ยืมเงินพี่สาวเพื่อซื้อรถมอไซต์ราคา45000++ เพราะเราไม่มีรถเลยต้องยืมเงินพี่เราซื้อรถ ตอนนี้ทำงานได้7เดือนแล้วพึ่งจะใช้หนี้พี่สาวเสร็จแล้ว เอาเงินตัวเองผ่อนงวดรถให้สามีไปอีก2งวด งวดรถที่สามีต้องจ่ายอีกประมาณ30+งวด เรามีเงินเก็บหมื่อนกว่าบาท ตอนนี้สามีบอกว่าดูแลลูกไม่ไหวอยากให้เรากลับไปดูแลลูกอยู่บ้านเหมือนเดิม + ให้ปล่อยท้องและคลอดลูกคนที่สองให้สามี ไปไข่ดาววันละฟองเหมือนเดิม เครียดมาก แค่คิดก็เหนื่อยแล้วค่ะเพื่อนๆ ใครมีประสบการณ์คล้ายๆกันมีแนวทางแนะนำได้ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ
เรื่องเศร้าที่ผู้หญิงต้องเจอ
มีลูกสาว1คนอายุ5ขวบเข้า6ขวบ ดิฉันแต่งงานตั้งแต่อายุ19ปี หลังจากแต่งงานในอายุที่น้อยนิด ดิฉันท้องและคลอดลูก ไม่ได้เรียนต่อ ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินเก็บ ค่าครองชีพสามีเลยเป็นคนรับผิดชอบ **ค่าครองชีพที่หมายถึงอาหารสามมื้อค่าใช้จ่ายที่จะมีหลังจากคลอดลูก พอแต่งงานก็ย้ายมาอยู่บ้านสามี มาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกเต็มเวลา สามีมีงานประจำพนักงานออฟฟิศทำงานจันทร์-ศุกร์ถ้ามีโอทีก็จะทำวันเสาร์ ดิฉันเป็นคนดูและครอบครัวสามีโดยสามีจะให้เงินใช้จ่ายในส่วนอาหารการกินต่อสัปดาห์ละประมาณ1000บาท ดูแลบ้านดูและครอบครัว กวดบ้านถูล้างจานทำอาหาร3มื้อต่อวันให้ครอบครัวเล็กๆที่มีสมาชิก6-7คน ซักผ้ารีดผ้าให้สามีเลี้ยงลูก24ช.มต่อวัน ไม่มีใครช่วยเลี้ยง มีปัญหามากมายเกินขึ้นระหว่างลูกคลอด-จนก่อนลูกเข้าเรียน ปัญหาที่มักพบเจอคือ เราเลี้ยงลูกคนเดี๋ยวทุกวันตลอดเวลาจะได้พักก็ต่อเมื่อลูกหลับ ถ้ามีเสื้อผ้าให้ต้องรีดต้องซักก็จะไม่ได้พัก เลี้ยงลูกอยู่3ปีเป็นอาชีพที่ไม่ได้รับรายได้ รายได้ที่ได้รับจากสามีจะให้ไว้ใช้จ่ายอย่างเดียวคืนอาหารการกินในแต่ละมื้อ ถ้าใช้จ่ายเยอะเงินหมดไว้ก็จะถูกดุ ดิฉันเหนื่อยในบ้างครั้งจึงไม่เตรียมอาหารในหลายๆมื้อจึงทำให้มีสายตาที่ไม่พอใจ คำพูดที่ไม่พอใจที่พูกกระซิบกันในห้องครัว นอกบ้าน หรือในบ้าน แต่ดิฉันก็ไม่แคร์ **ไม่แคร์ที่แปลว่าเก็บมาคิดเสมอ** ดิฉันเป็นคนชอบให้คนรอบตัวได้กินดีอยู่สบายค่ะ ***ทั้งที่ตัวเองไม่มีเงินสักกระบาท ชอบทำทุกอย่างที่คิดว่าคนอื่น(คนในครอบครัวสามี)ชอบ ชอบทำมากประเคนหามาให้กิน ได้ยินคนในครอบครัวพูดพูดว่าอยากกินอะไรก็จะไปสันหามาให้และสุดท้ายก็เป็นคนเก็บกวดเสมอ ตลอดระยะเวลา3ปีเเรกเราไม่เคยซื้อเสื้อผ้า รองเท้า แป้งทาหน้า เครื่องสำอางสิ่งที่ได้ซื้อเป็นของใช้ส่วนตัวคือผ้าอนามัยทางครอบครัวของเราพี่ๆของเราไม่พอใจในเรื่องที่สามีไม่ได้ให้เงินเราใช้ส่วนตัวแต่เราดันคิดว่าเป็นเรื่องปกติ ปกติจนพี่ๆสงสาร ปกติจน3ปีจะ4ปี พี่ๆของเราจะหยิบยื่นเงินให้เราใช้ส่วนตัวบ้างในบางครั้ง ครั้งละ2000-3000 ซื้อเสื้อผ้าสวยๆให้บ้าง2-3ชุด ( จริงเราก็เสียใจนะว่าทำไมสามีเราไม่ให้เงินสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัวให้เราบ้างแต่เราไม่กล้าถาม เพราะเคยถามแล้วเขาทำสีหน้าไม่ค่อยดีให้เรา เราเลยไม่ถามอีกแต่จะเปลี่ยนเป็นของเงินใช้ส่วนตัวทีละ100-200 แทน เราเคยเก็บเงินเหรียญที่เหลือจากค่าใช้จ่ายซื้ออาหาร มาเก็บออมไว้ ได้ประมาณ4-5 ร้อยแล้วเราเอาไปฝากที่บัญชีของลูกแต่เราถูกสามีด่าและพาเราไปพูดให้เพื่อนร่วมงานฟังตอนนั้นรู้สึกอายมาก ) เครียดมากปัญหาในบ้านสามีรุมเร้า หลายคนหลายปากหลายท้องหลายปัญหา ***เราลืมบอกไปสามีเราเป็นคนชอบเล่นดนตรีชอบร้องเพลง มักจะรับงานบ่อยๆและเราจะทะเลาะกันทุกครั้งเพราะเราไม่ชอบและไม่อยากให้สามีเรารับงาน ลำพังเลี้ยงลูกคนเดียวกวดบ้านถูบ้านล้างจานทำอาหารสามมื้อก็เหนื่อยพอแล้ว ยังไม่มาช่วยเลี้ยงลูกแล้วยังไปรับงานร้องดึกๆอีก เครียดมากค่ะแกล้งขอไปด้วยหอบลูกไปด้วยตั้งแต่6เดือน ไปเป็นภาระให้สามีเหนื่อยจได้เลิกไป สุดท้ายเราเหนื่อยลูกเหนื่อยเลยเลิกไป แต่กว่าเราจะเหนื่อยเเละเลิกไปกับสามีก็ปาไปลูก4ขวบกว่าแล้ว**** ต่อจาก เครียดมากปัญหาในบ้านสามีรุมเร้าเลยของสามีไปทำงานในบริษัทแห่งนึ่งไปเป็นแม่บ้านนะคะ เงินเดือนหักประกันสังคมเหลือประมาณ6400บาทค่ะ งานแม่บ้านกวดบ้านบริษัทแห่งนี้ทำทุกอย่างค่ะกวด ถู ล้างห้องน้ำ ตัดหญ้า กวดหญ้า ตัดแต่งกิ่งต้นไม้ งานรับเเขกบริษัทน้ำชากาแฟต้องพร้อมตลอดเวลา ทำงานได้ปีกว่าเริ่มไม่ไหว เลยขอสามีลาออกมาดูลูก จังหวะนั้นลูกเข้าเตรียมอนุบาลพอดี ****ลืมบอกไปตอนที่ทำงานแม่บ้านลูกดิฉันให้แม่สามีช่วยเลี้ยงค่ะ ตอนเช้าเราต้องเตรียมอาหารให้คนในครอบครับบ้าง ตอนกลางวันต้องกับมาปอนข้าวลูกเอง และตอนเย็นต้องเตรียมอาหารให้คนในครอบครับเหมือนเดิม ถ้าเหนื่อยมากๆจะของให้สามีเป็นคนเตรียม สามียอมทำบ้างเป็นบ้างครั้ง พ่อแม่สามีเลยไม่ชอบใจเท่าไหร่*** ต่อจาก ลูกเข้าเตรียมอนุบาลดิฉันก็ออกงานมาดูแลลูกและสามีเหมือนเดิมทุกประการ ดูแลลูกจนลูกเข้าอนุบาล2 ลูกเรียนได้ประมาณ3 เดือน ตอนนี้สามีของดิฉันได้ซื้อรถยนต 1คัน จะมีค่าใช้จ่ายหนักคือต้องผ่อนรถทุกงวด เรามีรายได้ทางเดียวจากสามี เงินเดือนชนเดือนสุดๆ บ้างเดือนพึ่งจะวันที่2ของเดือนสามียื่นเงินจำนวน4000บาทให้และบอกกับดิฉันว่านี่คือค่าใช้จ่ายตลอดทั้งเดือนของเราดิฉันน้ำตาแทบล่วง ไม่นานหลังจากนั้นดิฉันก็หางานใหม่ได้แต่เป็นงานต่างจังหวัดรายได้ดีประมาณ21000++ไม่รวมค่ากินค่าอยู่ ดิฉันเลยตัดสินใจให้ลูกอยู่เรียนหนังสื้อกับสามีเพราะสามีทำงานใกล้บ้านและลูกก็เรียนใกล้บ้านอีกอย่างลูก4ขวบจะ5ขวบแล้วโตพอที่บางอย่างเราให้เขาทำเขาทำเองได้แล้ว เราเลยตัดสินใจมาทำงานทั้งๆที่มาเงินมาทำงานต่างจังหวัดแค่2พัน ก่อนมาทำงานเราได้ยืมเงินพี่สาวเพื่อซื้อรถมอไซต์ราคา45000++ เพราะเราไม่มีรถเลยต้องยืมเงินพี่เราซื้อรถ ตอนนี้ทำงานได้7เดือนแล้วพึ่งจะใช้หนี้พี่สาวเสร็จแล้ว เอาเงินตัวเองผ่อนงวดรถให้สามีไปอีก2งวด งวดรถที่สามีต้องจ่ายอีกประมาณ30+งวด เรามีเงินเก็บหมื่อนกว่าบาท ตอนนี้สามีบอกว่าดูแลลูกไม่ไหวอยากให้เรากลับไปดูแลลูกอยู่บ้านเหมือนเดิม + ให้ปล่อยท้องและคลอดลูกคนที่สองให้สามี ไปไข่ดาววันละฟองเหมือนเดิม เครียดมาก แค่คิดก็เหนื่อยแล้วค่ะเพื่อนๆ ใครมีประสบการณ์คล้ายๆกันมีแนวทางแนะนำได้ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ