เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในเพจเฟซบุ๊ก “พวกเราคือผู้บริโภค” ที่เปิดเผยเรื่องราวของคุณ “อิงอร” หลังจากผ่านประสบการณ์ทำงานในกทม. แบบไม่คาดฝันโดยระบุว่า “…อยากเล่าประสบการณ์เจอมากับตัว #พระราม2 เราลงมาจากภาคเหนือ มาทำงานตามประกาศหาคนทำงาน คิดว่าจะมาเริ่มต้นชีวิตใหม่และก็ได้เจอเรื่องไม่คาดคิด ไม่คาดฝัน ทุกอย่างที่คิดคือ ไม่เป็นอย่างนั้นเลย เราได้ทำงานหลังบ้าน ร้านเฉาก๊วยย่านเทียนทะเล ทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า ยันสี่ทุ่ม 15-16-17 ชม. หาข้าวกินเอง น้ำกินไม่มีหากินเอง วันไหนเขาทำกับข้าว หัก 50 บาท ค่าแรงแจ้งในประกาศ 350 ปกติคนงานเบิก 150 วันแรกของการทำงาน ได้ 100 บาท วันต่อมาบอกเจ้านาย ขอย้ายไปขายของ เจ้านาย(ผู้หญิง) บอกหน้าตาอย่าเรา ขายของไม่ได้หรอก
คนขายของ (เฉาก๊วย) ได้แก้วละ 5 บาท เพื่อนไปทำได้ 22 แก้ว ขายไม่ดี ค่าที่ 160 โดนหักได้เงินแค่ 45 บาท บางคนค่าน้ำมันเติมเอง คนขายรถเร่ ได้วันละ 200 นิด ๆ ต่อวัน มีคนหนีบ้าง ออกไปบ้างทุกวัน แต่บางคนที่เขามาไกล เขาไม่มีทุน เลยจำต้องอยู่ทำงานได้เงิน 100 หรือไม่ถึง 100 ต่อวัน และวันนี้วันที่ 3 ของการทำงาน เราแจ้งเขาว่า เราจะทำงานเอาเงินกลับบ้าน โดนแกล้งเลยค่ะ ให้ทำคนเดียว ผสมคนเดียว ยกคนเดียว มีคนงานพม่าเขามาช่วยบ้าง หลังๆ บอกไม่ให้ช่วย เพื่อบีบให้เราออก
ถึงเที่ยง ไปชื้อมาม่ามากินกับพี่บนที่พัก 1 ชม. กลับลงไปทำงาน เจอเจ้าของ(ผู้หญิง) เขาบอกให้เรา ไปเก็บข้าวของออกจากที่นั่นเลยทันที ได้เงินเมื่อวาน หักเบิกไป 100 เหลือ 250 + (50) ที่ทำมาวันนี้ตั้งแต่เช้า ใช่ค่ะ เขาให้แค่ 300 บาท กลับบ้าน เรามาจากเหนือมาไกล เก็บเงินมาทำงานหมดไปกับค่าเงินทาง ไม่มีเงินเลย เขาไล่เราทันที จุกในอกที่สุด กับค่าจ้าง 300 บาท 3 วัน 2 คืน เป็นบทเรียนราคาแพงมาก โชคดีมีคนทางบ้านช่วยเหลือ เลยรอดมาได้ ออกมาพร้อมกับคนงานลาว ที่มาทำงานใหม่วันนี้ พอเขารู้ที่มาที่ไปทั้งหมด ทุกคนเก็บกระเป๋ากลับทันที
สถานประกอบการนี้ ไม่ได้มีใบอนุญาต ที่โพสต์ประกาศไม่เป็นไปตามนั้นเลย และการทำงานหลังบ้านไม่ได้มาตรฐานสะอาดถูกหลักเลย อยากให้หน่วยงานเข้าไปดู และอยากให้เป็นอุทาหรณ์ แจ้งบอกกล่าว ไม่ให้หลงมาเป็นเหยื่อนรกบนดินแบบนี้ มีภาพแนบมานะคะ ใครเคยกินอย่ากินเลยค่ะ แนะนำจากคนได้ทำของพวกนี้ พนักงานที่ออกไปขายของ ไปทำงาน น่าสงสารทุกคนค่ะ มีพ่อค้าแม่ค้าช่วยซื้อ แต่คนที่เป็นเจ้านาย เค้าไม่ได้ดีกับคนแบบพวกเรา #งานโพสต์ประกาศ #พระราม2 #หลอกมาทำงาน #ทำนาบนหลังคนตอนนี้รอดแล้วค่ะกำลังกลับบ้าน
ทั้งนี้ หลังจากมีการเผยแพร่เรื่องราวกังกล่าวออกไปทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปในวงกว้าง ส่วนใหญ่ต้องการให้ “อิงอร” นำเรื่องไปแจ้งกับ “กรมแรงงาน” ถึงความไม่ถูกต้องและการเอารัดเอาเปรียบของนายจ้าง เพื่อไม่ให้นายจ้างไปทำเช่นนี้กับลูกจ้าง รายอื่น ๆ อีก รวมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบพิสูจน์ว่า แหล่งผลิต “เฉาก๊วย” ถูกสุขลักษณะอนามัยหรือไม่อย่างไร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภค.
Cr.
https://www.dailynews.co.th/news/3145075/
‘สาวเหนือ’ สุดทน! แฉนายจ้าง ‘เฉาก๊วยดัง’ เอาเปรียบค่าแรง แถมแหล่งผลิตชวนอ๊วกแตก
คนขายของ (เฉาก๊วย) ได้แก้วละ 5 บาท เพื่อนไปทำได้ 22 แก้ว ขายไม่ดี ค่าที่ 160 โดนหักได้เงินแค่ 45 บาท บางคนค่าน้ำมันเติมเอง คนขายรถเร่ ได้วันละ 200 นิด ๆ ต่อวัน มีคนหนีบ้าง ออกไปบ้างทุกวัน แต่บางคนที่เขามาไกล เขาไม่มีทุน เลยจำต้องอยู่ทำงานได้เงิน 100 หรือไม่ถึง 100 ต่อวัน และวันนี้วันที่ 3 ของการทำงาน เราแจ้งเขาว่า เราจะทำงานเอาเงินกลับบ้าน โดนแกล้งเลยค่ะ ให้ทำคนเดียว ผสมคนเดียว ยกคนเดียว มีคนงานพม่าเขามาช่วยบ้าง หลังๆ บอกไม่ให้ช่วย เพื่อบีบให้เราออก
ถึงเที่ยง ไปชื้อมาม่ามากินกับพี่บนที่พัก 1 ชม. กลับลงไปทำงาน เจอเจ้าของ(ผู้หญิง) เขาบอกให้เรา ไปเก็บข้าวของออกจากที่นั่นเลยทันที ได้เงินเมื่อวาน หักเบิกไป 100 เหลือ 250 + (50) ที่ทำมาวันนี้ตั้งแต่เช้า ใช่ค่ะ เขาให้แค่ 300 บาท กลับบ้าน เรามาจากเหนือมาไกล เก็บเงินมาทำงานหมดไปกับค่าเงินทาง ไม่มีเงินเลย เขาไล่เราทันที จุกในอกที่สุด กับค่าจ้าง 300 บาท 3 วัน 2 คืน เป็นบทเรียนราคาแพงมาก โชคดีมีคนทางบ้านช่วยเหลือ เลยรอดมาได้ ออกมาพร้อมกับคนงานลาว ที่มาทำงานใหม่วันนี้ พอเขารู้ที่มาที่ไปทั้งหมด ทุกคนเก็บกระเป๋ากลับทันที
สถานประกอบการนี้ ไม่ได้มีใบอนุญาต ที่โพสต์ประกาศไม่เป็นไปตามนั้นเลย และการทำงานหลังบ้านไม่ได้มาตรฐานสะอาดถูกหลักเลย อยากให้หน่วยงานเข้าไปดู และอยากให้เป็นอุทาหรณ์ แจ้งบอกกล่าว ไม่ให้หลงมาเป็นเหยื่อนรกบนดินแบบนี้ มีภาพแนบมานะคะ ใครเคยกินอย่ากินเลยค่ะ แนะนำจากคนได้ทำของพวกนี้ พนักงานที่ออกไปขายของ ไปทำงาน น่าสงสารทุกคนค่ะ มีพ่อค้าแม่ค้าช่วยซื้อ แต่คนที่เป็นเจ้านาย เค้าไม่ได้ดีกับคนแบบพวกเรา #งานโพสต์ประกาศ #พระราม2 #หลอกมาทำงาน #ทำนาบนหลังคนตอนนี้รอดแล้วค่ะกำลังกลับบ้าน
ทั้งนี้ หลังจากมีการเผยแพร่เรื่องราวกังกล่าวออกไปทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปในวงกว้าง ส่วนใหญ่ต้องการให้ “อิงอร” นำเรื่องไปแจ้งกับ “กรมแรงงาน” ถึงความไม่ถูกต้องและการเอารัดเอาเปรียบของนายจ้าง เพื่อไม่ให้นายจ้างไปทำเช่นนี้กับลูกจ้าง รายอื่น ๆ อีก รวมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบพิสูจน์ว่า แหล่งผลิต “เฉาก๊วย” ถูกสุขลักษณะอนามัยหรือไม่อย่างไร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภค.
Cr. https://www.dailynews.co.th/news/3145075/