เตือนภัย!! ก่อนคิดจะติดตั้งประตูรั้วสแตนเลส จะไม่ได้ไม่เจอผู้รับเหมาหัวร้อน!!!

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแถว เขตสวนหลวง ช่าง บ..ประตูสแตนเลสหัวหมอรับงานเองโดยไม่แจ้งกับผู้รับเหมา
เหตุการณ์นี้เราอยู่ในสายสนทนากับผู้เสียหาย แต่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เราได้แต่ฟังและได้ยินถึงผู้รับเหมาหัวร้อนคนนี้ ได้ใช้น้ำเสียงชวนทะเลาะกับผู้เสียหาย โดยกล่าวหาผู้เสียหายว่าไม่มีมารยาท มาแย่งช่างที่ทำประตูรั้วสแตนเลสแถวบ้าน ซึ่งผู้เสียหายก็ไม่ได้มีเจตนาใดๆทั้งสิ้นและยังไม่เข้าใจว่าเขาเข้ามาต่อว่า ด่าทอทำไม ผู้เสียหายได้พูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ 

แต่ผู้รับเหมาหัวร้อน(หญิง)รายนี้ มุ่งด่าผู้เสียหายอย่างเดียวว่าไม่มีมารยาทและข่มขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ เราผู้อยู่ในสายได้ยินและพยายามจะขอคุยกับผู้รับเหมารายนี้ แต่ผู้เสียหายไม่ได้คุยกับเราแล้วตอนนั้น แต่เราได้ยินทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ผู้รับเหมาหญิงคนนี้บอกให้ผู้เสียหายลบรูปประตูรั้วทั้งหมดออกจากโทรศัพท์ ที่ช่างผู้ทำการเข้ามาวัดขนาดประตูรั้ว ได้มีการส่งแบบมาให้ผู้เสียหายเลือกก่อนหน้านี้ และได้มีการตกลงกันแล้วถ้าผู้เสียหายวางเงินมัดจำครึ่งนึง เพื่อที่ช่างจะได้นำเงินไปซื้ออุปกรณ์แล้วก็จะเข้ามาทำให้ในวันที่สะดวก ผู้เสียหายเห็นว่าเป็นช่างที่ทำประตูรั้วของเพื่อนบ้าน จึงไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าเชื่อถือได้ 

แต่ผู้หญิงผู้เราเหมารายนี้คือ ตอนแรกมาแอบอ้างว่าตนเป็นเจ้าของบ้าน ก่อนที่จะบอกว่าตัวเองมาคุมงาน และระหว่างนั้นก็ได้พูดจาตะคอกและข่มขู่ผู้เสียหาย ให้ลบรูป ผู้เสียหายก็ยินยอมที่จะลบรูป และผู้รับเหมาหญิงรายนี้ได้พยายามกระชากโทรศัพท์ออกจากมือของผู้เสียหาย ซึ่งเราอยู่ในสายโทรศัพท์ได้ยินทั้งหมด แต่ไม่สามารถช่วยเหลือผู้เสียหายได้ เรารู้สึกจุกอกมากๆที่เราไม่สามารถช่วยผู้เสียหายได้ หลังจากนั้นผู้เสียหายจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนบ้านเพื่อให้ช่วยออกมาเป็นพยานในเหตุการณ์ 

ระหว่างทางไปตามเพื่อนบ้าน เราอยู่ในสายได้ขอคุยกับผู้รับเหมาหัวร้อนว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก่อนจะเข้าเรื่องเราก็โมโหมากๆ และบอกกับผู้รับเหมาหัวร้อนว่า คุณไม่มีสิทธิมาละเมิดสิทธิส่วนบุคคล โดยทำการกระชากโทรศัพท์ออกจากมือของผู้เสียหาย และคุณควรพูดจาด้วยเหตุผลไม่ใช่มาถึงก็ด่าฉอดๆ คือไม่ได้มีการสนทนาใดๆเกิดขึ้น นอกจากการเข้ามาด่อท่อและพร้อมที่จะทำร้ายผู้เสียหาย

ขณะที่เราคุยกับนางเราก็รับฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังคุยไม่จบเพราะเพื่อนบ้านมาพอดี นางจึงไม่คุยต่อกับเราทางโทรศัพท์ แต่เราได้ยินว่านางพูดเอาดีเข้าตัวมากๆ โดยใส่ร้ายคู่กรณีว่าไม่ยอมลบรูปที่อยู่ในโทรศัพท์  ซึ่งคู่กรณียินยอมที่จะลบ แต่นางแย่งและพยายามกระชากโทรศัพท์ออกจากมือของผู้เสียหาย เราได้ยินสิ่งที่นางปั้นน้ำเป็นตัวคือนางร้ายมากๆ 

 หลังจากนั้นคนในบ้านเราออกมา นางคิดว่าเป็นเราผู้อยู่ในสายโทรศัพท์ นางก็ใช้คำพูดเดิมๆที่นางมีอยู่ในหัวตัวเอง ตอนนั้นเราขอผู้เสียหายคุยกับนางแต่นางบอกให้โทรกลับ หรือแอดไลน์นางมา แต่เราคิดว่าไม่เสียเวลาคุยดีกว่าค่ะ ก็เลยไม่รู้จะจะแอดไปทำไม

คำถามของเราคือ ถ้านางคุยด้วยเหตุผล นางจะได้ลูกค้าเพิ่ม? แต่นางเลือกใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล
สิ่งที่นางควรคิดได้และสะท้อมถึงตัวเอง คือช่างของตัวเองแอบรับงานโดนไม่ประสานงาน ควรจะพิจารณาตัวเองไหมว่าเป็นหัวหน้าที่ดีไหม?
และคนที่ควรจะเข้าไปเคลียร์หรือใส่อารมณ์ด้วยน้าจะเป็นช่างตัวเองไหม? ไม่ใช่ลูกค้า?
การทำธุรกิจโดยใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลแบบนี้ เราไม่มีคอมเม้นแต่ส่วนใหญ่ไปไม่รอดสักราย

สรุปเราแค่ให้ข้อคิดกับคนที่คิดจะหาช่างว่าควรหาข้อมูลดีๆค่ะ เพราะเราเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์และผู้เสียหายเองก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปขโมยช่างของเขาอย่างใด 
และเราก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนค่ะ ว่านางเข้ามาจู่โจมผู้เสียหายทำไม และเราก็เป็นผู้บริโภคที่มีสิทธิ์ที่จะเลือกช่างดีเช่นกันค่ะ ก็เลยยังไม่ข้อสรุปจากนางผู้หญิงหัวร้อนคนนี้ว่าทำแบบนี้ไปทำไม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่