ปัจจุบันห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์บางแคประกาศว่าปรับปรุงโฉมเสร็จเรียบร้อยพร้อมเปิดให้บริการแล้วโดยนำทัพเอาภัตตาคารชื่อดังเจ้าต่างๆมาอยู่รวมกันซึ่งแบรนด์ที่เราเฝ้ารอคอยมากที่สุดนั่นก็คือ "Red Panda Yakiniku" อัปเกรดด้านความคุ้มค่าด้วยบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นคอร์สใหม่ชื่อว่า "Art Of Yakiniku" เสิร์ฟเนื้อวัววากิวและวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศคุณภาพระดับพรีเมียมมีให้เลือกเยอะอลังการยิ่งกว่าเดิมรวม 120 อย่างตลอด 90 นาทีในราคาเริ่มต้นเพียงคนละ 469 บาท++ วิธีการเดินทางถ้าเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวกดปักหมุดแล้วขับตามระบบแผนที่บนมือถือจอดฟรีเฉพาะ 4 ชั่วโมงแรกนานเกินกว่านั้นคิดทันทีชั่วโมงละ 20-50 บาท สำหรับขนส่งสาธารณะแนะนำว่านั่ง MRT สายสีน้ำเงินลงสถานีหลักสองบริเวณประตูทางออก 4 เดินต่อบนสะพาน Sky Walk เชื่อมเข้าสู่ตัวอาคารทันทีด้านซ้ายมีลิฟต์กดขึ้นไปยังชั้น 3 ผ่านหน้า Fitness First จะพบจุดสังเกตได้แก่ป้ายไฟรูปการ์ตูนน้อง "แพนด้าแดง" สัญลักษณ์ของแบรนด์มองเห็นชัดเจนตั้งแต่ระยะไกลๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็วควรโทรหรือส่งข้อความจองโต๊ะล่วงหน้าแบ่งเวลาออกเป็น 5 รอบเหมือนเดิมนั่นก็คือ 11:00/13:00/15:00/17:00 และ 19:00น. พิเศษเฉพาะนักเรียนนักศึกษาแค่แสดงบัตรประจำตัวรับสิทธิ์ส่วนลดเหลือแค่คนละ 399 บาท++ ครับผม

บรรยากาศภายในร้าน "Red Panda Yakiniku" สาขาล่าสุดเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์บางแคชั้น 3 แห่งนี้เน้นการตกแต่งสไตล์คล้ายโรงแรมเรียวกังของประเทศญี่ปุ่นเหมือนเดิมเพิ่มเติมนั่นก็คือภาพวาดศิลปะเหล่าน้องแพนด้าแดงซึ่งเป็นการ์ตูนมาสคอตประจำแบรนด์ตามกำแพงถึง 2 รูปขนาดใหญ่สีสันสวยงามโดยสื่อความหมายถึงการเดินทางข้ามทะเลจากฝั่งดินแดนอาทิตย์อุทัยเพื่อเอาวัตถุดิบคัดสรรพิเศษคุณภาพระดับพรีเมียมจัดเสิร์ฟถึงมือลูกค้าทุกท่านและเคาน์เตอร์บาร์จัดเตรียมอาหารสามารถมองเห็นได้ทุกขั้นตอนด้วยแนวคิดใหม่ชื่อ "Art Of Yakiniku" สำหรับโต๊ะต่างๆกระจายหลากหลายมุมเลือกนั่งกันเลยตามใจทั้งริมหน้าต่างกระจกใสด้านหน้า,โซฟาไม้เสริมเก้าอี้เบาะหนังทรงกลม,ฉากกั้นแบ่งเหมือนห้องเล็กๆให้อารมณ์แบบส่วนตัวข้างหลังบ้านรองรับลูกค้าได้ครั้งละประมาณ 4-6 คน ถ้าคุณคิดจะพาสมาชิกเพื่อนฝูงหรือครอบครัวมาฟินเยอะกว่านั้นแนะนำว่าควรโทรสำรองล่วงหน้าตามรอบที่กำหนดเพื่อจองโต๊ะยาวพิเศษสูงสุดถึง 20 คน ราคาบุฟเฟ่ต์ที่เราเห็นทุกๆระดับนั้นยังไม่รวมค่าเครื่องดื่มรีฟิลอีกคนละ 39 บาทบริการตัวเองบริเวณบาร์เติมไม่อั้นตลอด 90 นาทีได้แก่ชาเขียวผงมัทฉะจืด,โค้กออริจินัล,โค้กไร้น้ำตาล,สไปรท์ไม่มีน้ำตาล,แฟนต้าน้ำส้ม,FuzeTea ชามะนาว,โซดาเปล่าพร้อมถังบรรจุน้ำแข็งชนิดก้อนสี่เหลี่ยมเย็นสดชื่นครับผม

จัดการเลือกโต๊ะที่เราอยากนั่งให้เสร็จเรียบร้อยพนักงานก็เดินเข้ามาบริการตามปกติโดยแจ้งก่อนว่าบุฟเฟ่ต์ของทางแบรนด์ "Red Panda Yakiniku" สาขาเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์บางแคชั้น 3 ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 ระดับราคาได้แก่ Standard 469 บาท++ Premium 699 บาท++ กับแพ็กเกจใหม่ล่าสุด Art Of Yakiniku 999 บาท++ ยังไม่รวมเครื่องดื่ม 39 บาท / Vat. 7% และ Service Charge อีก 10% ใช้มือถือสแกน QR Code เพื่อกดรับชมเล่มเมนูฉบับออนไลน์หรือกดเข้าไปตรงลิงก์นี้ > https://citly.me/3FC1D < วิธีออเดอร์ใช้ระบบใบสั่งอาหารแบ่งง่ายๆตามสีสันนั่นก็คือแดง(Art Of Yakiniku) /ทอง(Premium) /ว่างเปล่า(Standard) เขียนจำนวนลงช่องว่างด้านขวามือยกเว้นบางรายการจำกัดเพียง 2 จานต่อรอบเท่านั้นรวมกว่า 120 เมนูตลอด 90 นาที เด็กมีส่วนสูงน้อยกว่า 110 ซม. ทานฟรี 110-130 ซม. คิดแค่ 50% อุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกๆอย่างวางเตรียมเอาไว้ครบถ้วนทั้งจานส่วนตัว/ถ้วยน้ำจิ้ม/ตะเกียบไม้/ที่คีบเหล็ก/กระดาษทิชชู่/แก้วน้ำ/ที่รองแก้ว/หลอดพลาสติก/น้ำจิ้มยากินิคุ/เกลือหิมาลายันสีชมพู/พริกไทยดำบดด้วยมือ สำหรับพริกขี้หนูสด/กระเทียมจีนสับ/ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่นโชยุ/วาซาบิชนิดบดละเอียด/น้ำจิ้มซีฟู้ดตำรับไทยสามารถขอเพิ่มได้ฟรีรอเพียงสักพักอาหารต่างๆก็ทยอยวางเสิร์ฟแล้วครับผม

วันนี้เราเลือกออเดอร์เป็นแพ็กเกจใหม่ล่าสุด "Art Of Yakiniku" ราคาคนละ 999 บาท++ ประเดิมสาขาแรกที่ร้าน "Red Panda Yakiniku" เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์บางแคชั้น 3 แห่งนี้ สั่งได้ไม่อั้นทุกๆอย่างกว่า 120 รายการตลอด 90 นาที เริ่มต้นกันด้วย "Red Panda Moriawase" ประกอบไปด้วยเนื้อวัวพรีเมียมสายพันธุ์ทาจิมะวากิวลูกครึ่งญี่ปุ่นผสมออสเตรเลียซึ่งมีรสชาติเข้มข้นกลิ่นหอมเด่นชัดแทรกไขมันระดับ MBS 8-9 รวมกันถึง 5 ชิ้นส่วนได้แก่ Misuji ใบพาย , Harami กระบังลม , Kata Rosu บริเวณสันไหล่ , Brisket สามชั้นตรงท้อง , Gyu Tan โคนลิ้นสัมผัสเด้งกรุบกรอบเหมือนที่เราเคยทานเพราะอยู่ในหมวด "Premium" 699 บาท++ แต่ถ้าอยากฟินระดับสูงสุดต้องเน้นชุด "Bijutsu No Yakiniku" เกรดชั้นยอดพิเศษผ่านวิธีการคัดสรรมาแล้วว่าย่างเตาถ่านอร่อยสุดๆทั้ง Zabuton เนื้อสันคอใกล้ขาหน้าระหว่างซี่โครงไขมันคล้ายลายหินอ่อนผสานคอลลาเจนละลายเร็วเมื่อโดนความร้อน , Kata Rosu กล้ามเนื้อตั้งแต่คอถึงไหล่เหมือนจานก่อนซึ่งปริมาณ MBS สูงถึงขั้น Prime , Kurimi ช่วงสันไหล่จนถึงขาหน้าเนื้อค่อนข้างสีแดงลีนๆหน่อยเพราะออกกำลังกายมากลักษณะเด่นคือรสชาติดีเคี้ยวสนุก , Tomo Sankaku เนื้อก้อนใหญ่อยู่บริเวณสะโพกหว่างขาฝั่งพับในมองภายนอกดูน่าจะเหนียวแต่นุ่มละมุนเกินคาดเลยครับ

รายการต่อไปเป็น Signature เมื่อมีโอกาสแวะมาถึงร้าน "Red Panda Yakiniku" ต้องออเดอร์ทุกๆครั้งนั่นก็คือ "Negidare Wagyu" เนื้อวัววากิวสายพันธุ์ทาจิมะสันนอก MBS ระดับ 4-5 นำเข้าจากออสเตรเลียมีจุดเด่นอยู่ตรงไขมันแทรกและติดตรงขอบดูสวยงามปิ้งแค่พอสุกด้านเดียวแล้วห่อเนกิดาเระหรือต้นหอมญี่ปุ่นดองเกลือบดพริกไทยดำอีกหน่อยช่วยตัดเลี่ยนน้ำเนื้อกระจายชุ่มฉ่ำเต็มปาก / "Yakisuki Akami" ส่วนเดียวกับจานก่อนสไลซ์แผ่นบางเหมือนชาบูย่างสีอมชมพูอ่อนจิ้มซอสสุกี้ยากี้สูตรเฉพาะชนิดเข้มข้นพิเศษใส่ไข่แดงไก่ยี่ห้อโมริทามะเกรดรับประทานสดปลอดภัยช่วยส่งเสริมรสชาติเค็มอมหวานให้ละมุนกลมกล่อมยิ่งขึ้น / "Gyu-Tan Moriawase" ลิ้นวัวรวมหลายแบบทั้งโรยเกลือหิมาลายันพริกไทยดำธรรมดาๆ,ท็อปปิ้งต้นหอมไทยสด,ต้นหอมขนาดใหญ่ซอยดองเกลือเนกิดาเระ,ซอสไซเคียวชิโระมิโซะสีขาวหอมมันนัวแต่ยังอีกหนึ่งวิธีฟินซึ่งเราอยากแนะนำได้แก่บีบน้ำเลมอนลงไปเพื่อตัดเลี่ยนกลิ่นหอมเปลือกฟุ้งชวนฝัน / "Wagyu Liver" ตับวัววากิวดิบแล่ชิ้นพอดีคำเกรดซาชิมิเหมือนที่เสิร์ฟตามภัตตาคารอิซากายะราคาแพงราดน้ำมันงา,กระเทียมสับ,ต้นหอมช่วยดับคาวกลืนง่ายเคี้ยวเบาๆก็ไหลลื่นลงคออย่างง่ายดายถ้าหากคุณรู้สึกว่าใจยังไม่แข็งพอจับย่างเตาถ่านอีกนิดหน่อยสัมผัสเนียนนุ่มคล้ายฟัวกราส์ฝรั่งเศสเลยครับ

ถ้าคุณเริ่มรู้สึกเบื่อข้าวสวยหรือข้าวผัดกระเทียมธรรมดาซึ่งจัดเสิร์ฟตามภัตตาคารบุฟเฟ่ต์แนวปิ้งย่างทั่วไปทางร้าน "Red Panda Yakiniku" ได้คิดค้นเมนูใหม่ล่าสุดอย่าง "Wagyu Hitsumabushi" ใช้ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์โคชิฮิคาริเมล็ดอ้วนกลมสั้นสัมผัสเหนียวหนึบเคี้ยวสู้ฟันคลุกเคล้าซอสปลาไหลย่างอบหม้อดินสไตล์เอโดะโบราณท็อปปิ้งไขมันวัวเจียวกรุบกรอบ,เนื้อวากิวสไลซ์บาง,ไข่แดงสดโมริทามะโรยงาขาวคั่ว,ต้นหอมซอยละเอียดตักแบ่งใส่ถ้วยขนาดเล็กกลิ่นหอมเด่นชัดฟุ้งกระจายเต็มปากตราตรึงหัวใจ / "Wagyu Yukke" ยำเนื้อวากิวสับหยาบๆใส่ต้นหอมน้ำมันงากับซีอิ๊วโชยุโปะไข่แดงดิบด้านบนช่วยเพิ่มความอร่อยนัวกลมกล่อมแนะนำให้ผสมรวมกันก่อนรับประทาน / "Aburi Wagyu Shiru" ซุปใสสาหร่ายคอมบุปลาแห้งคัตสึโอะต้มๆร้อนวางเนื้อวากิวแทนฝาปิดลนไฟติดกลิ่นไหม้ปลายจมูกเล็กน้อยปล่อยเวลาแช่สักพักให้สุกกำลังพอมีรสชาติอูมามิแทรกซึมเข้าไปชุ่มฉ่ำซดคล่องคออุ่นสบายท้อง / "Wagyu Tsukune" เนื้อวากิวสับปั้นก้อนเสียบเหล็กช่วยนำความร้อนและสุขอนามัยที่ดีขึ้นอีกหนึ่ง Signature เมื่อแวะมาแล้วห้ามพลาดเด็ดขาดย่างแค่พอสุดด้านนอกแต่ข้างในอมชมพูระเบิดน้ำเนื้อ,ไขมันแน่นเต็มปากสุดฟิน / "Wagyu Hamburg Kushiyaki" คล้ายก่อนหน้าโดยเพิ่มหอมหัวใหญ่-เกล็ดขนมปังปิ้งแค่อุ่นก็พร้อมฟินแล้วครับ