คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เราว่าแพทยสภาควรเปิดช่องทางให้ผู้ป่วยสามารถร้องเรียนแพทย์ได้โดยที่ไม่ต้องเปิดเผยชื่อนามสกุลผู้ป่วยให้แพทย์คู่กรณีทราบจะดีกว่านะ ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ได้ต้องการมีคดีความกับแพทย์ แต่ผู้ป่วยเพียงแค่ต้องการให้แพทย์ปรับปรุงพฤติการณ์ให้ดีขึ้นเท่านั้น ซึ่งเราว่าวิธีนี้จะสามารถช่วยลดความความขัดแย้งระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์ได้มากขึ้น และช่วยให้แพทยสภาสามารถปรับปรุงพฤติการณ์ของแพทย์ให้มีความเห็นอกเห็นใจผู้ป่วยและมีจรรยาบรรณแพทย์ที่ดีขึ้นมากกว่านี้ได้อีกด้วย
แต่ระบบร้องเรียนของแพทยสภาในปัจจุบันที่กำหนดให้ผู้ป่วยต้องเปิดเผยชื่อนามสกุลให้แพทย์คู่กรณีได้ทราบด้วย มันจึงเหมือนเป็นระบบการ 'เสี้ยม' ให้ผู้ป่วยกับแพทย์ต้องทะเลาะกันเอง หรือเป็นการ 'กดขี่' ผู้ป่วยไว้ไม่ให้กล้ามีปัญหากับแพทย์ เพราะมิเช่นนั้นชื่อนามสกุลจริงของผู้ป่วยจะถูกนำไปเปิดเผยต่อแพทย์คนอื่นๆต่อไป มันจึงกลายเป็นระบบมาเฟียทางการแพทย์ ทำให้แพทย์ไร้จรรยาบรรณมากขึ้นอย่างในปัจจุบัน ซึ่งมันไม่ดีต่อทั้งผู้ป่วยและระบบการพัฒนาพฤติการณ์ของแพทย์นั่นเอง
แต่ระบบร้องเรียนของแพทยสภาในปัจจุบันที่กำหนดให้ผู้ป่วยต้องเปิดเผยชื่อนามสกุลให้แพทย์คู่กรณีได้ทราบด้วย มันจึงเหมือนเป็นระบบการ 'เสี้ยม' ให้ผู้ป่วยกับแพทย์ต้องทะเลาะกันเอง หรือเป็นการ 'กดขี่' ผู้ป่วยไว้ไม่ให้กล้ามีปัญหากับแพทย์ เพราะมิเช่นนั้นชื่อนามสกุลจริงของผู้ป่วยจะถูกนำไปเปิดเผยต่อแพทย์คนอื่นๆต่อไป มันจึงกลายเป็นระบบมาเฟียทางการแพทย์ ทำให้แพทย์ไร้จรรยาบรรณมากขึ้นอย่างในปัจจุบัน ซึ่งมันไม่ดีต่อทั้งผู้ป่วยและระบบการพัฒนาพฤติการณ์ของแพทย์นั่นเอง
แสดงความคิดเห็น
ใครเจอหมอศิริ..รักษาขอไปที? เล่าหน่อย หมอต้องการแต่เคสใกล้ตุย ไม่ถึงตุยบอกให้รีบกลับ ละนั่งว่างๆ คนไข้ทรมานอยากตุย
1 รำคาญรุนแรง
2 ปวดทุกครั้งที่นั่ง ทรมานมาก
3 อาการนี้คนเป็นกันเยอะมาก ทรมานไม่ถึงตาย แต่แทบทุกคนอยากตาย*ให้มันจบๆไป คิดไว้เตรียมการไว้เพราะความปวด เจ็บ
4.ความทรมานคือ นอนไม่หลับ นอนแล้วเจ็บเสียวจะเท้าเกร็ง ต้องทุบขาบริเวณที่เสียวๆ พอเสียวขาเกร็ง มันสุดจริงๆนะ
...
หาหมอ เฉพาะทาง กระดูกสันหลัง ที่ศิริ ออโธปิดิค เจอหมอหนุ่มๆ หมอเช็คแล้วว่า ไม่ใช่หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท บอก "ไม่อันตราย"
ไม่ตรวจอะไรต่อ ไม่บอกว่าเป็นอะไร ไอ้เราก็เล่าความทรมานให้ฟัง ไม่สนใจ
ให้ยา แก้ปวด คลายกลามเนื้อมาจบ .. แล้วหมอก็นั่งว่างๆ วันๆรอแต่เคสใกล้ตายเท่านั้น
ซึ่งแผนกนี้ คนไม่ได้เยอะอะไรมากมาย วันๆนึง หมอก็จ่ายยาแก้ปวด ง่ายๆ เพราะจะรอแต่คนใกล้ตาย
ไม่สนใจความทุกข์ทรมาน ที่คนไข้จำนวนมาก เป็น ไม่คิดส่งไปกายภาพบำบัด หรือ X-Ray Mri เพื่อหาสาเหตุแก้ไข
**เท่าที่ถามคนไข้ที่ออกมาล้วน เจอบอกว่าไม่ถึงตาย ได้ยาคลายกล้ามเนื้อมา
แต่ทุกคน อยากฆ่าตัวตายมาก ไม่มีใครอยากดั้นด้นมาหาหมอ หรอก เสียเวลา หมอ เข้าใจผิดนะ ว่าไม่ถึงตายแล้วไม่เป็นไร
เขาทรมาน จนอยากตายๆไป
............................................................
ใครเป็นหมอ ศิริ ฝากบอกไปถึงผู้อำนวยการโรงบาลด้วย จรรยาบรรณแพทย์ควรมี รักษาใส่ใจผู้ป่วยทุกคน
แล้วการรักษา ก่อนโรคพัฒนาไปรุนแรงถึงขีดสุด ง่ายกว่า ป่ะ ทางการแพทย์เขาก็สอนกันแบบนี้ไม่ใช่? นี่ หมอละเลยมาก
ละไม่ถึงตาย แต่อันตรายนะ แล้วมันนำไปสู่โรคอื่นๆได้มากมาย
ย้ำ ไม่มีใครอยากไปโรงบาล เสียเวลา ที่ไปเพราะเขาสุดจะทน ไม่ใช่เจ็บเล็กๆน้อยๆ แบบที่หมอคิดโว้ย!!!
อันนี้พูดแทนทุกคนจริงๆ
แล้วต้องหาข้อมูลเองว่าเป็นอะไร คือเป็น กล้ามเนื้อหนีบเส้นประสาท!! ที่แสนทรมานและอันตราย คนในพันทิปนี่แหละเป็นเยอะทรมาน
จนอยากตุย มากๆ ในข่าวมีคนป่วยทรมาน จนจบชีวิตหนีความทรมานก็เยอะ
หมอศิริ..ให้ยาก็ไม่หาย ภูมิใจในอาชีพตนมากมั้ย? ไม่ใส่ใจ แย่สุดๆ อ้อ มีสอนท่าก้มยืดกล้ามเนื้อมา2ท่า ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
หมอดูไม่มีใจ ไม่สนใจคนไข้เลย จะว่าทำงานหนักก็ไม่ใช่ขนาดนั้น เท่าที่เห็นที่ไม่ใช่แผนกฉุกเฉินที่okหนัก
หรือถ้าทำงานหนักมาก *ทุกอาชีพน่ะหนักหมด แต่รายได้เขาก็ไม่เยอะขนาดหมอ อาชีพอื่นๆ ทำงานจ่ายภาษีให้รัฐ จนป่วยหงิก ร่างกายพังมากนะ
ไม่ใช่มีแค่หมอที่งานเยอะ เขาใจซะใหม่!
แก้ไขด้วย หมอ ศิริ ทั้งหลาย และหมอทุกคน
คุณทำดีเขาก็ชม คุณ มายเซ็ทผิด เขาก็วิจารณ์
และต่อให้คนไข้เยอะ ก็ไม่ควร จบงานชุ่ยๆ แบบรีบๆจบ เพราะ คนไข้เสียเวลาปล่าว ไม่เกิดผลการรักษาเลย ไม่รู้แม้แต่ว่าเป็นอะไรจริงๆด้วยซ้ำ
หมอ ไม่ใช่โรงงานจีนเทา สินค้าต่อแถวมา ก็โยนๆออก จบๆ ไม่เน้นคุณภาพ แบบนี้ไม่ได้นะ คิดใหม่เถอะ ถ้ายังเป็นหมอ
ซึ่งปัจจุบัน คุณหมอ กำลังทำแบบนี้อยู่