ผมได้อ่านจาก เพจ "บันทึกหมอโหด" และเห็นว่าหมอหลายๆท่านไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษา และตำหนิว่าผู้พิพากษาไม่มีองค์ความรู้ในเรื่องการแพทย์เลยทำให้ใช้ดุลยพินิจไม่ถูกต้อง
ในกระทู้นี้ผมจะไม่บอกว่าใครจะผิด หรือใครจะถูกแต่อยากให้ทุกท่านลองอ่านประสบการณ์จริงของตัวผมดู เกี่ยวกับการรักษาของผมเมื่อหลายปีก่อน แล้วคุณหมอที่ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลอาจจะเริ่มเข้าใจความรู้สึกของคนไข้บ้าง ไม่มากก็น้อย
มีอยู่ครั้งนึง ผมปวดหลังมากๆ ลามไปถึงบริเวณขาหนีบ ผมไปหา รพ.เอกชนที่ดีที่สุดแถวบ้าน (พระราม 2 ) พอไปถึงพยาบาลถามเสร็จ ก็ส่งผมไปหาหมอ หมอวินิจฉัยว่าเป็น "กล้ามเนื้ออักเสบ" ให้ยาคลายเส้น และยาทา อาการปวดดีขึ้นนิดหน่อย แต่พอฤทธิ์ยาหายไปก็ปวดอีก และหนักขึ้นเรื่อยจนไม่สามารถนอนได้ ..... วันรุ่งขึ้นผมฝืนสังขารไปทำงาน แต่พอไปถึงที่ทำงานก็ ปวดจนทนไม่ไหว จึงไปเข้าโรงบาลเอกชนอีกแห่งนึงบริเวณนั้น ก็วินิจฉัยเช่นเดิมอีก ผมกับมาบ้านก็ยังคงปวดเช่นเดิม สุดท้ายเลยเปิด กูเกิลดูว่าอาการแบบนี้น่าจะเป็นอะไร โชคดีเจอคนที่มีอาการคล้ายๆกัน ซึ่งเค้าเป็น นิ่วบริเวณกรวยไต ดังนั้งผมจึงตัดสินใจไปเข้า รพของรัฐแห่งนึง(ใช้สิทธิ 30 บาท เพราะคิดว่าถ้าเป็นนิ่วจริงอาจจะต้องผ่าตัด) หลังจากพบหมอแล้ว ก็ยังถูกวินิจฉัยว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบอยู่ดี ระหว่างหมอกำลังจะเขียนใบสั่งยา ผมเลยบอกหมอว่า ผมอ่านจากในกูเกิลว่า อาการแบบนี้น่าจะเป็นนิ่วก็ได้ หมอลองตรวจอีกหน่อยได้มั้ยคับ หมอจึงยอมตรวจปัสสาวะ และพาไป x-ray ผลออกมาว่ามีเลือดปนกับปัสสาวะ จึงอาจจะเป็นนิ่วได้จริง แต่ผลการ x-ray ไม่เจอก้อนนิ่วใหญ่ จึงไม่จำเป็นต้องผ่าตัด หมอจึงให้ยาขับปัสสาวะ และยาแก้ปวด และให้กลับบ้าน(ต้องรอนิ่วหลุดออกมาเอง) หลังจากกลับบ้านกินยาได้ สองวัน ก็ยังปวดทรมานอยู่มากๆ กินยาก็ไม่ไหว จึงไปเข้า รพ.เอกชนอีกแห่งนึง ผมแจ้งการตรวจรักษาจาก รพ.ที่ไปมาล่าสุดให้หมอ รพ.ใหม่ทราบ คุณหมอเลยทำการ สวนปัสสาวะให้(ดันเม็ดนิวเข้าไปใหม่เพราะมันอาจจะไปติดอยู่เลยทำให้ปวด) หลังจากสวนแล้ว ก็ปวดน้อยลง หลังจากจะกลับบ้าน ผมแวะเข้าห้องน้ำของ รพ.เพื่อปัสสาวะ นิ่วก็ดันหลุดออกมาเองเฉยเลย หลังจากนั้นก็ไม่มีอาการปวดใดๆอีกเลย จนปัจจุบัน
ผมขอสรุปง่ายๆนะคับ ถ้าผมเป็นโรคที่ร้ายแรงกว่านี้ ผมก็คงจะตาย จากความไม่รอบคอบของ หมอที่วินิจฉัยแต่เพียงว่า "กล้ามเนื้ออักเสบ" ผมว่าที่คนไข้ส่วนใหญ่อยากจะฟ้องหมอ ก็เพราะเจอหมอแบบนี่แหละคับ (ที่ดีๆก็ยังมีนะคับ)
ทำไมคนไข้ถึงอยากฟ้องหมอ (จากข่าวศาลฎีกาตัดสินให้แพทย์ผิด)
ในกระทู้นี้ผมจะไม่บอกว่าใครจะผิด หรือใครจะถูกแต่อยากให้ทุกท่านลองอ่านประสบการณ์จริงของตัวผมดู เกี่ยวกับการรักษาของผมเมื่อหลายปีก่อน แล้วคุณหมอที่ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลอาจจะเริ่มเข้าใจความรู้สึกของคนไข้บ้าง ไม่มากก็น้อย
มีอยู่ครั้งนึง ผมปวดหลังมากๆ ลามไปถึงบริเวณขาหนีบ ผมไปหา รพ.เอกชนที่ดีที่สุดแถวบ้าน (พระราม 2 ) พอไปถึงพยาบาลถามเสร็จ ก็ส่งผมไปหาหมอ หมอวินิจฉัยว่าเป็น "กล้ามเนื้ออักเสบ" ให้ยาคลายเส้น และยาทา อาการปวดดีขึ้นนิดหน่อย แต่พอฤทธิ์ยาหายไปก็ปวดอีก และหนักขึ้นเรื่อยจนไม่สามารถนอนได้ ..... วันรุ่งขึ้นผมฝืนสังขารไปทำงาน แต่พอไปถึงที่ทำงานก็ ปวดจนทนไม่ไหว จึงไปเข้าโรงบาลเอกชนอีกแห่งนึงบริเวณนั้น ก็วินิจฉัยเช่นเดิมอีก ผมกับมาบ้านก็ยังคงปวดเช่นเดิม สุดท้ายเลยเปิด กูเกิลดูว่าอาการแบบนี้น่าจะเป็นอะไร โชคดีเจอคนที่มีอาการคล้ายๆกัน ซึ่งเค้าเป็น นิ่วบริเวณกรวยไต ดังนั้งผมจึงตัดสินใจไปเข้า รพของรัฐแห่งนึง(ใช้สิทธิ 30 บาท เพราะคิดว่าถ้าเป็นนิ่วจริงอาจจะต้องผ่าตัด) หลังจากพบหมอแล้ว ก็ยังถูกวินิจฉัยว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบอยู่ดี ระหว่างหมอกำลังจะเขียนใบสั่งยา ผมเลยบอกหมอว่า ผมอ่านจากในกูเกิลว่า อาการแบบนี้น่าจะเป็นนิ่วก็ได้ หมอลองตรวจอีกหน่อยได้มั้ยคับ หมอจึงยอมตรวจปัสสาวะ และพาไป x-ray ผลออกมาว่ามีเลือดปนกับปัสสาวะ จึงอาจจะเป็นนิ่วได้จริง แต่ผลการ x-ray ไม่เจอก้อนนิ่วใหญ่ จึงไม่จำเป็นต้องผ่าตัด หมอจึงให้ยาขับปัสสาวะ และยาแก้ปวด และให้กลับบ้าน(ต้องรอนิ่วหลุดออกมาเอง) หลังจากกลับบ้านกินยาได้ สองวัน ก็ยังปวดทรมานอยู่มากๆ กินยาก็ไม่ไหว จึงไปเข้า รพ.เอกชนอีกแห่งนึง ผมแจ้งการตรวจรักษาจาก รพ.ที่ไปมาล่าสุดให้หมอ รพ.ใหม่ทราบ คุณหมอเลยทำการ สวนปัสสาวะให้(ดันเม็ดนิวเข้าไปใหม่เพราะมันอาจจะไปติดอยู่เลยทำให้ปวด) หลังจากสวนแล้ว ก็ปวดน้อยลง หลังจากจะกลับบ้าน ผมแวะเข้าห้องน้ำของ รพ.เพื่อปัสสาวะ นิ่วก็ดันหลุดออกมาเองเฉยเลย หลังจากนั้นก็ไม่มีอาการปวดใดๆอีกเลย จนปัจจุบัน
ผมขอสรุปง่ายๆนะคับ ถ้าผมเป็นโรคที่ร้ายแรงกว่านี้ ผมก็คงจะตาย จากความไม่รอบคอบของ หมอที่วินิจฉัยแต่เพียงว่า "กล้ามเนื้ออักเสบ" ผมว่าที่คนไข้ส่วนใหญ่อยากจะฟ้องหมอ ก็เพราะเจอหมอแบบนี่แหละคับ (ที่ดีๆก็ยังมีนะคับ)