ก่อนอื่น ส่วนตัว เป็นคนชอบดูหนังแนววันสิ้นโลก เอาตัวรอดอยู่แล้ว พอเห็นหน้าหนัง ก็เลยคิดว่าน่าสนใจ พร้อมทั้งชื่อหนัง อุ้มลูกฝ่าวิปโยค ต้องมีอุปสรรคให้ฝ่าฝันเอาใจช่วยตลอดแน่ๆ ก็เลยไปดู พร้อมหวัง ว่า อาจจะดีเหมือน 28 Days Later หรือ 28 Weeks Later ที่ฉากหลังเริ่มจากอังกฤษเหมือนกัน
สองเรื่องที่กล่าวถึงนั้น เป็นภัยพิบัติ ทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ แต่ ว่า THE END WE START FROM  เกิดภัยพิบัติ ตามธรรมชาติ ซึ่งในเรื่องนี้คือ น้ำท่วม บรรยากาศ บรรยากาศในหลังช่วงแรกๆ ก็มีฝนตกตลอด แล้วน้ำก็ค่อยๆท่วม บ้านนางเอก  เป็นเหตุให้ต้องอพยพออกจากบ้าน ไป เนื้อเรื่องก็จะทำให้เราสงสัย ใคร่รู้ ว่าจะเป้นอย่างไรต่อ จะเอาตัวรอดยังไง จะรอดไหม ช่วงแรกๆก็ดูสนุกอยู่  แต่พอดูไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าประเด็นหนังที่นำเสนอมันก็ดีนะ แต่น่าจะดีกว่านี้ได้อีก  ดูแล้วอดเปรียบเทียบ กับ walking dead ไม่ได้ ถึงเรื่องนี้จะไม่มีซอมบี้ แต่เวลาวิกฤติ ต้องเจอผู้คน ที่กำลังลำบากเอาตัวรอด มีประเด็นให้เล่นให้ขยี้มากมาย แต่บางทีก็ทำผ่านๆ  ไม่ลึกพอ  บางทีก็มีหลายเรื่องไม่สมเหตุสมผล  ถ้าใครอยากดู ฉากน้ำท่วมเอาตัวรอดลุ้นใจหายใจคว่ำ ก็ไม่มี
ฉากกลียุคผู้คนแก่งแย่งเอาตัวรอด ก็พอมีแตะๆผ่านๆ ไม่ได้รู้สึกหดหู่ว่าทำไมคนเราต้องทำกันขนาดนี้ แค่พอมีกล่าวถึงพูดถึงบ้าง 
แต่ฉากอุ้มลูก มี

ตามชื่อหนังเลยวิปโยคไหมก็ระดับนึง ไม่ถึงขนาด the day after tomorrow  deep impact  2012  
imdb ให้   6.6 คะแนน
rotten tometo ให้ 87% สำหรับ TOMATOMETER ส่วน AUDIENCE SCORE  69%

สรุป ส่วนตัวคิดว่าก็พอดูได้ ถ้าใครเป็นแฟนนักแสดง Jodie Comer ก็ควรเข้าไปดู เพราะเธอแสดงดี สวยทั้งเรื่อง 
แต่ถ้าจะดูเอาเอฟเฟค ฉากวันสิ้นโลก อาจผิดหวังได้  พล๊อตมันดี การแสดงดี แต่มันทำได้ไม่สุด ถ้าเวลาได้ไม่มีเรื่องอะไรดู ก็ลองดูได้ไม่เสียหลาย
แต่ถ้าจะดู เอามันส์ เอาซึ้งใจ ก็อาจมีผิดหวัง