
- ความน่าสนใจไม่ได้อยู่ที่ว่าฆาตกรเป็นใครแต่อยู่ที่วิธีการเล่นเกมส์แมวจับหนูประลองจิตวิทยาระหว่างนางเอกกับฆาตกร โดยมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวด้วยในฐานะกรรมการห้ามมวย สงครามประสาทวิทยาหนนี้ แต่ที่พีคคือฆาตกรดันมีอีกคนด้วยสิ ปมที่ดูจะคลี่คลายในตอนต้นที่คิดว่าจะจบกันที่ศาล แต่เปล่าด้วยความที่นางเอกแค้นมากไม่พอใจในการตัดสินของผู้พิพากษาที่ตัดสินไม่เป็นธรรม แถมสร้างช่องโหว่ให้ปัญหามันยืดเยื้อไปต่อแถมดันมีปัญหาใหม่เข้ามาสำทับอีก ไฟก็เลยจุดติดอย่างไวแล้วลามทุ่งกันไปใหญ่ เพียงเพราะน้ำผึ้งหยดเดียว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องเสียเวลาเดาว่าใครเป็นใคร ชิงบอกไว้ตั้งแต่ต้นเลย มาลุ้นกันต่อหลังจากที่เธอรอเวลา 15 ปีเพื่อเอาคืนตัวฆาตกรที่ฆาตกรรมกับครอบครัวของเธอ ช่วงเวลานี้ว่าเธอใช้ชีวิตยังไงจนกระทั่งฆาตกรได้ถูกปล่อยตัวมา ไม่พอยังมีฆาตกรเพิ่มอีกคนที่มาจากไหนไม่รู้แจ้งมาสวมรอยสร้างสถานการณ์ให้ปมของเธอจุดติดขึ้นมาอีกครั้ง มันเลยกลายเป็น Match ศึกชิงเจ้ายุทธภพ 3 เส้า เรา 3 คนที่เต็มไปด้วยมวลสารของความหดหู่ คับแค้น และเดือดดาล แม้แต่ตำรวจยังต้องปวดกบาลกับสิ่งที่เห็น คดีที่ความวัวไม่ทันจะหายสนิทก็มีความควายเข้ามาแทรกอย่างแนบเนียนอีก ตลอดเวลา 1 ชั่วโมง 48 นาที ตั้งแต่ต้นจนจบ หนังจะเล่า Parts ทั้ง 3 คนที่ว่าสลับหมุนเวียนไปด้วยความว้าวุ่นหัวใจอย่างที่เห็น

- จังหวะการเล่าเรื่องจะออกทรงเนิบ ๆ ช้า ๆ เพื่อกินบรรยากาศข้างทางและสำรวจสภาวะจิตใจของตัวนางเอกเป็นหลักมากกว่าเน้นไปที่ Action ขายฉากสู้ตัวต่อตัวที่ให้มาไม่มากตามที่หวัง แต่บรรยากาศรอบข้างยังคงชวนไม่น่าไว้วางใจสไตล์หนังทริลเลอร์เกาหลีเช่นเคย จะเอือดไปทาง Drama ของนางเอกและให้กลิ่นอายความลึกลับจากการสืบสาวหาคนร้ายอบอวลตลอดทาง ถ้าจะเอาความสนุกจาก Action มันส์ ๆ ยิงโครม ๆ มีไม่มาก แต่มาทีเน้น ๆ เนื้อ ๆ สาแก่ใจไปข้างนึง ขณะเดียวกันตัวหนังก็ใส่ Details แฝงเข้าไปเพื่อเพิ่มความซับซ้อนให้แก่ปมแล้วทำให้เราไขว้เขว้ไปด้วย Trick ต่าง ๆ แล้วค่อย ๆ เผยไต่คลายปมออกทีละนิดอย่างสบายใจ แม้ความสนุกจะไม่ได้สุดขีดเทียบเท่ากับหนังรุ่นพี่ชื่อดังอย่าง Old Boy (2003) , Chaser (2008) หรือ I saw the devil (2010) แต่มองในภาพรวมถือว่าทำได้สนุกตามมาตรฐานของหนังสืบสวนกับทริลเลอร์ของเกาหลีอยู่ครบถ้วน โดย Scene ที่ชอบ คือ การ VS กันระหว่างฆาตกรกับฆาตกรตัวต่อตัว เป็นอะไรที่ไม่ค่อยเห็นในหนังแนวนี้ เพราะความที่ทั้งคู่เป็นฆาตกรเหมือนกันต่างฝ่ายต่างรู้เกมกัน เพราะใช้ Sense ของความเป็นนักฆ่าเชือดเฉือนกันจนผมนี้นั่งลุ้นตามไปด้วยความสนุก ส่วนนางเอกจะเน้นไปทาง Drama ส่วนตัวหน่อยเลยไม่ได้ลงมืออะไรกับเขามากนัก

- ตัวละครหลักที่สังเกตดูจะมี 4 คน คือ นางเอก , ฆาตกร และ ตำรวจ ที่จริงฆาตกรอีกคนเด่นอยู่แต่ก็..นะ ทุกคนมี Character ที่โดดเด่น มี part ของตนเองแล้วผูกโยงกับ Timeline หลักแล้วร้อยเรื่องเป็นเส้นเดียวกันได้เข้มข้นและชัดเจนดี ส่วนที่ไม่ชอบคือตัวตำรวจผมรู้สึกจะรำคาญไปหน่อย มาเพื่อเป็นตัวถ่วงเรื่องไงไม่รู้ แล้วยิ่งช่วงกลางเรื่องรู้สึกว่าเหมือนจะอ่อนแรงลงจนเซไปข้างทางแถมยังน่าเบื่อขึ้นด้วย ยังดีที่ช่วง Part หลังสามารถเริ่มเข้าที่เข้าทางได้อีกครั้ง หลังจากเสียเวลากับปัญหาของนางเอกที่วนเวียนอยู่กับที่จนเวิ้นเว้อเกินไป เริ่มมีการคลี่คลายปมที่เกริ่นทิ้งไว้ทั้งหมด ดูไปดูมาเหมือนตัวร้ายเด่นกว่านางเอกอีก คือ ตัวร้ายมันมีสีสัน มีอะไรท้าทายมากกว่า ต่างกับนางเอกที่มาในโทนซีเรียส หมกหมุ่นกับปมและสะสมความเคียดแค้นมันเลยไม่ได้ไปในจุดที่สูงกว่าที่เป็นแต่ความน่ารักจิ้มลิ้มเลยให้อภัยได้

- มาถึงบทสรุปนี่แหล่ะที่สร้างความตะลึงจนผมสตั๊นท์ไปหลายวิ ไม่คิดว่าจะจบลงแบบนี้ ทั้งที่เราเอาใจช่วยนางเอกตลอดทาง ถึงแม้จะแอบขัดใจแต่ยอมรับว่าสะเทือนจิตใจมาก แล้วยอมรับอีกว่าเป็นบทสรุปที่สร้างมวล Impact ให้เราจำติดตาไปอีกนานและคิดว่านี่คือการล้างแค้นที่ Surprise อย่างเหนือชั้นและสาสมกับในสิ่งที่ฆาตกรได้กระทำกับครอบครัวเธอชนิดที่ว่านรกก็แค่ชื่อน้ำพริกแม่ประนาม

ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like กด Share บทความของผม และ Facebook : EM Pascal เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไป ขอบคุณครับ
[CR] No.80 Missing You : แด่เธอที่ลัก
- ความน่าสนใจไม่ได้อยู่ที่ว่าฆาตกรเป็นใครแต่อยู่ที่วิธีการเล่นเกมส์แมวจับหนูประลองจิตวิทยาระหว่างนางเอกกับฆาตกร โดยมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวด้วยในฐานะกรรมการห้ามมวย สงครามประสาทวิทยาหนนี้ แต่ที่พีคคือฆาตกรดันมีอีกคนด้วยสิ ปมที่ดูจะคลี่คลายในตอนต้นที่คิดว่าจะจบกันที่ศาล แต่เปล่าด้วยความที่นางเอกแค้นมากไม่พอใจในการตัดสินของผู้พิพากษาที่ตัดสินไม่เป็นธรรม แถมสร้างช่องโหว่ให้ปัญหามันยืดเยื้อไปต่อแถมดันมีปัญหาใหม่เข้ามาสำทับอีก ไฟก็เลยจุดติดอย่างไวแล้วลามทุ่งกันไปใหญ่ เพียงเพราะน้ำผึ้งหยดเดียว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องเสียเวลาเดาว่าใครเป็นใคร ชิงบอกไว้ตั้งแต่ต้นเลย มาลุ้นกันต่อหลังจากที่เธอรอเวลา 15 ปีเพื่อเอาคืนตัวฆาตกรที่ฆาตกรรมกับครอบครัวของเธอ ช่วงเวลานี้ว่าเธอใช้ชีวิตยังไงจนกระทั่งฆาตกรได้ถูกปล่อยตัวมา ไม่พอยังมีฆาตกรเพิ่มอีกคนที่มาจากไหนไม่รู้แจ้งมาสวมรอยสร้างสถานการณ์ให้ปมของเธอจุดติดขึ้นมาอีกครั้ง มันเลยกลายเป็น Match ศึกชิงเจ้ายุทธภพ 3 เส้า เรา 3 คนที่เต็มไปด้วยมวลสารของความหดหู่ คับแค้น และเดือดดาล แม้แต่ตำรวจยังต้องปวดกบาลกับสิ่งที่เห็น คดีที่ความวัวไม่ทันจะหายสนิทก็มีความควายเข้ามาแทรกอย่างแนบเนียนอีก ตลอดเวลา 1 ชั่วโมง 48 นาที ตั้งแต่ต้นจนจบ หนังจะเล่า Parts ทั้ง 3 คนที่ว่าสลับหมุนเวียนไปด้วยความว้าวุ่นหัวใจอย่างที่เห็น
- จังหวะการเล่าเรื่องจะออกทรงเนิบ ๆ ช้า ๆ เพื่อกินบรรยากาศข้างทางและสำรวจสภาวะจิตใจของตัวนางเอกเป็นหลักมากกว่าเน้นไปที่ Action ขายฉากสู้ตัวต่อตัวที่ให้มาไม่มากตามที่หวัง แต่บรรยากาศรอบข้างยังคงชวนไม่น่าไว้วางใจสไตล์หนังทริลเลอร์เกาหลีเช่นเคย จะเอือดไปทาง Drama ของนางเอกและให้กลิ่นอายความลึกลับจากการสืบสาวหาคนร้ายอบอวลตลอดทาง ถ้าจะเอาความสนุกจาก Action มันส์ ๆ ยิงโครม ๆ มีไม่มาก แต่มาทีเน้น ๆ เนื้อ ๆ สาแก่ใจไปข้างนึง ขณะเดียวกันตัวหนังก็ใส่ Details แฝงเข้าไปเพื่อเพิ่มความซับซ้อนให้แก่ปมแล้วทำให้เราไขว้เขว้ไปด้วย Trick ต่าง ๆ แล้วค่อย ๆ เผยไต่คลายปมออกทีละนิดอย่างสบายใจ แม้ความสนุกจะไม่ได้สุดขีดเทียบเท่ากับหนังรุ่นพี่ชื่อดังอย่าง Old Boy (2003) , Chaser (2008) หรือ I saw the devil (2010) แต่มองในภาพรวมถือว่าทำได้สนุกตามมาตรฐานของหนังสืบสวนกับทริลเลอร์ของเกาหลีอยู่ครบถ้วน โดย Scene ที่ชอบ คือ การ VS กันระหว่างฆาตกรกับฆาตกรตัวต่อตัว เป็นอะไรที่ไม่ค่อยเห็นในหนังแนวนี้ เพราะความที่ทั้งคู่เป็นฆาตกรเหมือนกันต่างฝ่ายต่างรู้เกมกัน เพราะใช้ Sense ของความเป็นนักฆ่าเชือดเฉือนกันจนผมนี้นั่งลุ้นตามไปด้วยความสนุก ส่วนนางเอกจะเน้นไปทาง Drama ส่วนตัวหน่อยเลยไม่ได้ลงมืออะไรกับเขามากนัก
- ตัวละครหลักที่สังเกตดูจะมี 4 คน คือ นางเอก , ฆาตกร และ ตำรวจ ที่จริงฆาตกรอีกคนเด่นอยู่แต่ก็..นะ ทุกคนมี Character ที่โดดเด่น มี part ของตนเองแล้วผูกโยงกับ Timeline หลักแล้วร้อยเรื่องเป็นเส้นเดียวกันได้เข้มข้นและชัดเจนดี ส่วนที่ไม่ชอบคือตัวตำรวจผมรู้สึกจะรำคาญไปหน่อย มาเพื่อเป็นตัวถ่วงเรื่องไงไม่รู้ แล้วยิ่งช่วงกลางเรื่องรู้สึกว่าเหมือนจะอ่อนแรงลงจนเซไปข้างทางแถมยังน่าเบื่อขึ้นด้วย ยังดีที่ช่วง Part หลังสามารถเริ่มเข้าที่เข้าทางได้อีกครั้ง หลังจากเสียเวลากับปัญหาของนางเอกที่วนเวียนอยู่กับที่จนเวิ้นเว้อเกินไป เริ่มมีการคลี่คลายปมที่เกริ่นทิ้งไว้ทั้งหมด ดูไปดูมาเหมือนตัวร้ายเด่นกว่านางเอกอีก คือ ตัวร้ายมันมีสีสัน มีอะไรท้าทายมากกว่า ต่างกับนางเอกที่มาในโทนซีเรียส หมกหมุ่นกับปมและสะสมความเคียดแค้นมันเลยไม่ได้ไปในจุดที่สูงกว่าที่เป็นแต่ความน่ารักจิ้มลิ้มเลยให้อภัยได้
- มาถึงบทสรุปนี่แหล่ะที่สร้างความตะลึงจนผมสตั๊นท์ไปหลายวิ ไม่คิดว่าจะจบลงแบบนี้ ทั้งที่เราเอาใจช่วยนางเอกตลอดทาง ถึงแม้จะแอบขัดใจแต่ยอมรับว่าสะเทือนจิตใจมาก แล้วยอมรับอีกว่าเป็นบทสรุปที่สร้างมวล Impact ให้เราจำติดตาไปอีกนานและคิดว่านี่คือการล้างแค้นที่ Surprise อย่างเหนือชั้นและสาสมกับในสิ่งที่ฆาตกรได้กระทำกับครอบครัวเธอชนิดที่ว่านรกก็แค่ชื่อน้ำพริกแม่ประนาม
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like กด Share บทความของผม และ Facebook : EM Pascal เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไป ขอบคุณครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้