ประโยชน์ของถั่วลันเตา 🫛
เป็นอาหารจากธรรมชาติ สามารถรับประทานได้ตั้งแต่ฝักยังอ่อน
ถั่วลันเตา ในปริมาณ 100 g มีพลังงานทั้งหมด 80 กิโลแคลอรี่, โปรตีน 5 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม, ไขมัน 0 กรัม
🫛ถั่วลันเตา ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น
ฟลาโวนอยด์ แคโรทีนอยด์ กรดฟีโนลิก โพลีฟีนอล คูเมสทรอล เป็นต้น
ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ในร่างกายถูกทำลาย ลดอาการอักเสบของเซล ชะลอการเกิดริ้วรอยแห่ง และมีวิตามินซี อี และสังกะสี ด้วย
🫛มีโปรตีนสูง และไขมันต่ำ ไฟเบอร์สูง ทำให้รู้สึกอิ่มนาน แก้ท้องผูก ช่วยให้ระบบขับถ่ายปกติ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพราะทำให้น้ำตาลถูกย่อยช้าลง ลดภาวะดื้ออินซูลิน
โปรตีนจากถั่วลันเตานั้นสามารถช่วยลดปริมาณฮอร์โมนเกรลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้สึกหิวได้
🫛ไนอะซิน ที่ช่วยลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน
🫛ช่วยบำรุงหัวใจ เพราะลูทีน และไฟเบอร์ ช่วยลดอัตราการแข็งตัวของหลอดเลือดแดงแข็ง
🫛ไธอะมีน โฟเลต ไรโบฟลาวิน ไนอะซิน และวิตามินบี6 ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
🫛ช่วยบำรุงสายตา ถั่วลันเตาครึ่งถ้วย ได้รับวิตามินเอมากถึง 33 -34 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน
และลูทีน ช่วยปกป้องสายตาจากโรคต้อกระจก
🫛วิตามินเคสูง บำรุงกระดูกถึงและฟัน ช่วยให้กระดูกสะสมแคลเซียมได้มากขึ้น
🫛วิตามินบี ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้
🫛ธาตุเหล็ก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสริมธาตุเหล็กให้กับร่างกาย ในภาวะโลหิตจาง
⭐️ข้อควรระวัง
ถั่วลันเตา มีสาวพิวรีน (Purine) ขัดขวางการขับกรดยูริกในร่างกายออกทางปัสสาวะ ทำให้เกิดโรคเกาต์และนิ่ว เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรกินมากเกินไป ส่วนผู้ที่เป็นโรคเกาต์ และโรคไต ควรหลีกเลี่ยง
ประโยชน์ของถั่วลันเตา 🫛
เป็นอาหารจากธรรมชาติ สามารถรับประทานได้ตั้งแต่ฝักยังอ่อน
ถั่วลันเตา ในปริมาณ 100 g มีพลังงานทั้งหมด 80 กิโลแคลอรี่, โปรตีน 5 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม, ไขมัน 0 กรัม
🫛ถั่วลันเตา ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น
ฟลาโวนอยด์ แคโรทีนอยด์ กรดฟีโนลิก โพลีฟีนอล คูเมสทรอล เป็นต้น
ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ในร่างกายถูกทำลาย ลดอาการอักเสบของเซล ชะลอการเกิดริ้วรอยแห่ง และมีวิตามินซี อี และสังกะสี ด้วย
🫛มีโปรตีนสูง และไขมันต่ำ ไฟเบอร์สูง ทำให้รู้สึกอิ่มนาน แก้ท้องผูก ช่วยให้ระบบขับถ่ายปกติ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพราะทำให้น้ำตาลถูกย่อยช้าลง ลดภาวะดื้ออินซูลิน
โปรตีนจากถั่วลันเตานั้นสามารถช่วยลดปริมาณฮอร์โมนเกรลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้สึกหิวได้
🫛ไนอะซิน ที่ช่วยลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน
🫛ช่วยบำรุงหัวใจ เพราะลูทีน และไฟเบอร์ ช่วยลดอัตราการแข็งตัวของหลอดเลือดแดงแข็ง
🫛ไธอะมีน โฟเลต ไรโบฟลาวิน ไนอะซิน และวิตามินบี6 ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
🫛ช่วยบำรุงสายตา ถั่วลันเตาครึ่งถ้วย ได้รับวิตามินเอมากถึง 33 -34 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน
และลูทีน ช่วยปกป้องสายตาจากโรคต้อกระจก
🫛วิตามินเคสูง บำรุงกระดูกถึงและฟัน ช่วยให้กระดูกสะสมแคลเซียมได้มากขึ้น
🫛วิตามินบี ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้
🫛ธาตุเหล็ก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสริมธาตุเหล็กให้กับร่างกาย ในภาวะโลหิตจาง
⭐️ข้อควรระวัง
ถั่วลันเตา มีสาวพิวรีน (Purine) ขัดขวางการขับกรดยูริกในร่างกายออกทางปัสสาวะ ทำให้เกิดโรคเกาต์และนิ่ว เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรกินมากเกินไป ส่วนผู้ที่เป็นโรคเกาต์ และโรคไต ควรหลีกเลี่ยง