สวรรค์ของคนรักเหล้าบ๊วยและเหล้าผลไม้อยู่นี่แล้ว ‘Umeshuthai Sukhumvit 45’
.
ร้านอาหารญี่ปุ่นกึ่งบาร์ย่านสุขุมวิทที่รวบรวมเหล้าบ๊วยไว้เยอะที่สุดตั้งแต่เคยเจอมาเลย สายชิลที่ชอบรสชาติความหวานอมเปรี้ยวและกลิ่นหอมของบ๊วยต้องไม่พลาดร้านนี้
ร้านจะอยู่ริมถนนระหว่างซอยสุขุมวิท 45-47 สามารถจอดรถได้ในซอย 47 หรือในโครงการ Rain Hill ค่ะ
.
ใครขับรถผ่านไปมาเส้นสุขุมวิทช่วงกลางคืนต้องเคยเห็นร้านผ่านตาแน่ๆ เพราะไฟสีขาวสว่างเด่นแต่ไกล แถมมีตั้ง 3 ชั้น
เกริ่นกันก่อน~ ว่าด้วยเรื่องชื่อร้าน ‘Umeshuthai’ ที่ใช้ชื่อนี้เพราะก่อนจะมาเปิดเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น เจ้าของร้านขายเหล้าบ๊วยกับเหล้าผลไม้มาก่อน พอได้มาเปิดเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสุขุมวิทก็เลยเอาเหล้าบ๊วยที่ขายมาแต่งร้านด้วย แล้วก็ยังขายอยู่เหมือนเดิม
.
ร้านมี 3 ชั้นก็คือวางเรียงเป็นร้อยขวดทั้ง 3 ชั้นเลย แค่เหล้าบ๊วยอย่างเดียวน่าจะเกิน 100 ชนิดแล้ว
บรรยากาศภายในร้านจะตกแต่งเป็นแนวญี่ปุ่นที่เก็บรายละเอียดตามจุดต่างๆ อย่างดี ทั้งกำแพงร้าน เพดานร้าน รูปภาพตามผนัง บางจุดจะมีวางดาบซามูไรไว้ด้วย
.
ชั้น 1-2 ไฟจะออกสลัวๆ เหมาะสำหรับนั่งจิบ นั่งชิลกับเพื่อน หรือมาเดทกับแฟน เพราะ Vibe ของทั้ง 2 ชั้นนี้แอบมีความโรแมนติคอยู่ค่ะ แต่ที่จะต่างคือชั้น 2 จะมีความส่วนตัวมากกว่า แต่ชั้นล่างจะได้บรรยากาศของบาร์ เห็นการเคลื่อนไหวไปมา การโชว์สเต็ปของบาร์เทนเดอร์แบบเพลินๆ
ส่วนชั้น 3 จะใช้ไฟสว่าง Mood ของชั้นนี้จะให้ความอบอุ่นมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มาเป็นกลุ่มใหญ่หรือมาเป็นครอบครัวเพื่อทานอาหาร
ตามที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่าร้านนี้คือสวรรค์ของคนรักเหล้าบ๊วย เมนูแนะนำที่อยากให้ลองสั่งมาจิบคู่กับอาหารเลยต้องเป็น 2 ตัวนี้ค่ะ
.
Kotsuzumi Plumtonic Baishin (248.-) เป็นเหล้าบ๊วยยอดนิยมที่คนชอบกินกันมากที่สุด รสชาติค่อนข้างเข้ม กลิ่นบ๊วยหอมชัดค่ะ เสิร์ฟมาคู่กันกับบ๊วยเลย
.
Prucia Plum Liqueur De France (348.-) แนะนำสำหรับสาวๆ เพราะส่วนตัวเราชอบแก้วนี้มากกว่า กลิ่นหอมหวานแตกต่างจากตัวแรก มีความเป็นเชอร์รี รสชาติละมุนและกินง่ายกว่า
ส่วนใครที่ไม่ได้เป็นสายบ๊วย อยากลองเป็นเมนู Cocktail อื่นๆ ที่ร้านก็มีนะ
.
ความประทับใจของเราเลยคือ Cocktail ทั้ง 2 แก้วที่ได้ลองกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ รสชาติชัดแบบที่ไม่หวือหวา ทำให้กินง่าย อย่างตัว ‘Okinawa’ (280.-) แก้วสีเขียวก็จะมีส่วนผสมของเมล่อนและแอปเปิ้ลเขียว กลิ่นออกหอมสดชื่น หวานกลางๆ กินเพลินดีค่ะ ส่วนแก้วที่เป็นดอกกุหลาบคือ ‘Enless love’ (480.-) มีกิมมิคเป็นกลิตเตอร์สวยๆ
ปิดจบความประทับใจให้สายจิบได้ตามไปลองด้วยแก้วนี้เลย ‘Sapporo Dream’ รสชาติออกหวานอมเปรี้ยว ส่วนตัวว่ามีความสดชื่นสุดในบรรดาทุกแก้วที่ลอง ถ้ากินอาหารเสร็จแล้วจบด้วยตัวนี้ก็เหมาะ
.
ที่ชอบสุดคือตัวน้ำแข็งด้านบน มีความเป็นปุยๆ นุ่มๆ อารมณ์เหมือนสเลอปี้รสเหล้า ชอบมาก
ว่าต่อกันด้วยเรื่องของอาหารที่ต้องบอกว่าร้านเลือกใช้วัตถุดิบได้ดีมาก เมนูหลากหลายด้วย ทั้งโอเด้ง ซาซิมิ คูชิยากิ หรือนาเบะเค้าก็มีนะ
เปิดประเดิมด้วยเมนูออเดิร์ฟเบาๆ ‘Tsubugai Wasabi’ (180.-)
.
เป็นเมนูหอยสังข์ญี่ปุ่นที่เป็นหนึ่งในวัตถุดิบพรีเมียม Texture จะออกแน่นหนึบ เด้งหน่อย และไม่มีกลิ่นเลย หอมเป็นตัววาซาบิที่เผ็ดแบบพอดี และรสหวานจากหอยที่เคล้ากัน
ต่อด้วยคูชิยากิที่เหมาะสำหรับกินเป็นแกล้มมากที่สุด วันนี้ลองมาทั้งหมด 4 ไม้
.
Bacon Enoki (เบคอนพันเห็ดเข็มทอง), Pork Asparagus (หมูพันหน่อไม้ฝรั่ง), Sausage (ไส้กรอก) และ Bacon Negi (เบคอนพันต้นหอมญี่ปุ่น) ตัวเบคอนกลิ่นหอมชัดเจนและเนื้อแน่นดีมาก เห็ดย่างมาแบบยังมีความฉ่ำอยู่ ส่วนไส้กรอกเป็นแบบหนังกรอบ เนื้อแน่นๆ มันๆ หน่อย กลิ่นหอมดีเลยค่ะ
อยากกินแบบอิ่มท้องหน่อยแต่ไม่หนักไปต้องสั่งเมนูนี้ ‘Oden’
.
เราสั่งมาเป็นแบบ 6 ชิ้น 288.- เสิร์ฟมาให้พร้อมมัสตาร์ดและยูซุ ตัวซุปรสชาติดั้งเดิมก่อนปรุงจะหอมกลมกล่อมอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากลองรสชาติแบบที่มีความสดชื่นขึ้นให้ลองผสมยูซุเข้าด้วยกัน จะทำให้ได้กลิ่นสดชื่นๆ ของยูซุก็จะอร่อยไปอีกแบบค่ะ
.
ส่วนตัวเต้าหู้ ลูกชิ้น และเครื่องโอเด้งทำออกมาได้ดีเลย มีความหนึบแน่น อร่อยมาก
Salmon sashimi (280.-)
.
แซลมอนเนื้อหวาน หั่นมาขนาดใหญ่แต่ความหนาพอดี ความพิเศษของเมนูนี้นอกจากความสดของแซลมอนแล้วคือวาซาบิเค้าจะไม่เหมือนใคร มีความเผ็ดแสบมากกว่าที่อื่น แต่ขึ้นจมูกน้อยกว่า ทำให้กินง่ายกว่าค่ะ
จบมื้อก็ต้องกินของหวาน ‘Rare Cheesecake’ (248.-)
.
ถ้าพูดถึงรสชาติของชีสเค้กและเนื้อเค้กอาจจะไม่ต่างจากร้านทั่วไปมาก ชิ้นมาค่อนข้างใหญ่ เนื้อชีสเค้กเนียนละมุน รสชาติออกไปทางหวาน . . แต่ความต่างคือซอสที่เสิร์ฟมาคู่กันซึ่งทำจาก ‘เหล้าบ๊วย’ พอราดกินคู่กันแล้วจะมีความเปรี้ยวมาตัดหน่อย
.
เมนูนี้สามารถกินได้ทั้งแบบราดและไม่ราด แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ
สุดท้ายตอนเราเรียกเช็คบิล พนักงานจะมีเมลอนมาเสิร์ฟให้ แนะนำว่ารีบกินตอนเสิร์ฟใหม่ๆ จะฟินมาก เมล่อนมาแบบเย็นๆ หวานฉ่ำสุด
สนนราคารวม 2 คนจะอยู่ที่ 3,159.- ตกคนละประมาณ 1,500.-
.
แต่ถ้าใครไม่ได้ดื่มเยอะแบบเราก็อาจจะถูกกว่าเยอะเลยค่ะ เพราะอันนี้แค่เหล้าบ๊วยกับค็อกเทลก็ปาไป 5-6 แก้วแล้ว
สายชิลที่ชอบกินเหล้าบ๊วยและเหล้าผลไม้ หรือหาร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสุขุมวิทแนะนำว่าต้องมาลอง หรือใครหาร้านพาครอบครัวมากินข้าว พาแฟนมาเดทร้านนี้ก็เหมาะมาก อาหารอร่อย พนักงานใส่ใจ ดูแลบริการดีมาก ร้านมีหลายชั้น ค่อนข้างเป็นส่วนตัวค่ะ
ข้อมูลร้านเพิ่มเติม
📌 Umeshuthai 梅酒タイ
📌 ระหว่างซอยสุขุมวิท 45-47
📌
https://maps.app.goo.gl/aizJ5tNmyyc8BnV1A
⏰ เปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00 - 02.00 น.
🚗 จอดในซอย 47 หรือโครงการ Rain Hill
[CR] ร้านอาหารและบาร์เหล้าบ๊วยสไตล์ญี่ปุ่น 🍸 Umeshuthai Sukhumvit 45
📌 Umeshuthai 梅酒タイ
📌 ระหว่างซอยสุขุมวิท 45-47
📌 https://maps.app.goo.gl/aizJ5tNmyyc8BnV1A
⏰ เปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00 - 02.00 น.
🚗 จอดในซอย 47 หรือโครงการ Rain Hill
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้