ขอพื้นที่ระบายค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าเราถ่ายเหลวมา2-3แต่ไม่ปวดท้องนะคะและรู้สึกอ่อนเพลียมากจึงไป รพ.วันที่24 ได้รับยาคาร์บอนฆ่าเชื้อและเกลือแร่มา กินไปได้3-4มื้อ อาการถ่ายเหลวดีขึ้น แต่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนหนักมากถึงกับกินอะไรก็จะอาเจียนสวนออกมาตลอดและหน้ามืดบ้านหมุน จึงไป รพ. อีกทีวันที่25ตอนเย็น หมอฉีดยาแก้อาเจียนให้
(ไม่มีการตรวจเลือดปัสสาวะหรืออะไรใดเลย)และนอนดูอาการหลังฉีดมาประมาณ15-20นาทีแล้วหมอแจ้งว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาที่กินไป ตอนนั้นเรารู้สึกดีขึ้นหยุดอาเจียนและเวียนหัวน้อยลงจึงกลับบ้าน เย็นวันนั้นถึงประมาณตี3ไม่มีอาการอาเจียนเลย แต่พอตื่นขึ้นมาช่วงเช้ารู้สึกเวียนหัวใจสั่นตัวสั่นอาเจียนเยอะมากจนมีแต่น้ำสีเขียวๆขมๆออกมา แฟนจึงตัดสินใจไปพามาหาหมออีกทีในช่วงสายวันที่26 ถึง รพ.พยาบาลจัดการวัดไข้ ความดันและชีพจร ไข้37.8 ความดัน146/90 ชีพจร90-92 พยาบาลเรียกรถวิลแชร์มาให้พาไปห้องตรวจ นั่งรอสักพักพยาบาลก็เรียกเข้าพบแพทย์ คำแรกที่แพทย์พูดคือคุณต้องการอะไร ยาผมก็ให้ทั้งทานทั้งฉีดแล้ว นี่คุณมาหาหมอ3วันติด แบบนี้คือไม่อยากทำงานแล้วหรอ เอาไหมผมเขียนให้ว่าคุณไม่สามารถทำงานอะไรได้แล้ว พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า ไม่ดีขึ้นสักนิดเลยหรอแบบนี้ก็เหลือแต่นอนโรงพยาบาลแล้วล่ะอยากนอนไหม
เรา:ตอบไปว่าก็ไม่ได้อยากนอนค่ะ
(ถามหน่อยใครจะอยากนอน รพ.ถ้าไม่เป็นคำสั่งแพทย์จริงๆ)
แต่ที่มาคือคิดว่าถ้าได้น้ำเกลืออาการหน้ามืดอ่อนเพลียก็น่าจะดีค่ะ เพราะรู้สึกเพลียมากทานอะไรไม่ได้แม้แต่น้ำเกลือแร่ยังอาเจียนออกมา
หมอ:อ้าวแล้วแบบนี้คุณต้องการอะไรใบแพทย์ใช่มั้ยผมเขียนให้หลายๆวันเลยเอามั้ยห้ะ
เรา:ต้องการหายค่ะ
เราเครียดมากตอนนั้นเพราะหมอพูดแบบนี้ และตอนนั้นเราก็เครียดอยู่แล้วที่ต้องเป็นภาระให้แฟนพามาหาหมอบ่อยๆแต่หมอไม่มีการตรวจเลือดหาสาเหตุหรืออะไรเลย จนหมอคนนั้นส่งไปแพทย์เฉพาะทาง
ระหว่างรอคิวหมอเฉพาะทางเราก็อาเจียนเรื่อยๆ
เมื่อถึงคิวเราแฟนไม่อยู่ไม่มีคนเข็นวีลแชร์ให้เราเลยลุกเดินไปเอง
หมอ:อ้าวก็เดินได้นินั่งวีลแชร์ทำไมคิดว่าตัวเองพิการหรอ
เรานี่พูดอะไรต่อไม่ถูกเลยทั้งเครียดทั้งเสียใจรู้สึกแย่มากๆ จนหมอคนนี้ก็ตรวจถามอาการบลาๆๆสรุปอาการให้ฟังคือส่วนนึงเป็นเพราะความเครียดและเรานอนไม่หลับแล้วพอมากินข้าวไม่ได้อีกจึงอ่อนเพลียและเหนื่อยหอบ หมอจ่ายยาและแจ้งกลับบ้านได้ ระหว่างนั้นรอแฟนไปรับยา เราอาเจียนตลอดเหงื่อออกจนตัวเปียก พยาบาลเห็นจึงพาไปห้องฉุกเฉินให้ดมแอมโมเนีย และตอนนั้นเราหน้ามืดหัวทิ่มทั้งที่นั่งอยู่บนวิลแชร์ พยาบาลเข้าช่วยปลดเสื้อผ้า หาอะไรมาพัดให้ เอาเตียงมาให้นอน และตามหมอมา แต่ครั้งนี้เป็นหมอ ผญ สอบถามอาการละเอียดมากและสั่งฉีดยาฆ่าเชื้อแก้อาเจียนเวียนศีรษะให้ แล้วสั่งแอดมิดทันที
มีขอตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะเพิ่ม ล่าสุดหมอแจ้งว่าติดเชื้อทางเดินอาหารและมีอาการแพนิคร่วมด้วย
#เราเสียความรู้สึกกับนายแพทย์2คนนั้นมาก สมควรแล้วหรอค่ะที่คนเป็นหมอจะพูดตัดกำลังใจคนไข้แบบนี้เราถึงขั้นคิดว่าถ้าไม่หายหมอยังไม่อยากรักษาอาการแย่ขึ้นแล้วต้องเป็นภาระให้คนอื่นแบบนี้สู้ตายไปเลยดีกว่า😭หรือเป็นปกติของหมอไม่รู้จริงๆค่ะไม่ค่อยได้มา รพ.บ่อยมากนัก
ใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้บ้างคะ
(ไม่มีการตรวจเลือดปัสสาวะหรืออะไรใดเลย)และนอนดูอาการหลังฉีดมาประมาณ15-20นาทีแล้วหมอแจ้งว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาที่กินไป ตอนนั้นเรารู้สึกดีขึ้นหยุดอาเจียนและเวียนหัวน้อยลงจึงกลับบ้าน เย็นวันนั้นถึงประมาณตี3ไม่มีอาการอาเจียนเลย แต่พอตื่นขึ้นมาช่วงเช้ารู้สึกเวียนหัวใจสั่นตัวสั่นอาเจียนเยอะมากจนมีแต่น้ำสีเขียวๆขมๆออกมา แฟนจึงตัดสินใจไปพามาหาหมออีกทีในช่วงสายวันที่26 ถึง รพ.พยาบาลจัดการวัดไข้ ความดันและชีพจร ไข้37.8 ความดัน146/90 ชีพจร90-92 พยาบาลเรียกรถวิลแชร์มาให้พาไปห้องตรวจ นั่งรอสักพักพยาบาลก็เรียกเข้าพบแพทย์ คำแรกที่แพทย์พูดคือคุณต้องการอะไร ยาผมก็ให้ทั้งทานทั้งฉีดแล้ว นี่คุณมาหาหมอ3วันติด แบบนี้คือไม่อยากทำงานแล้วหรอ เอาไหมผมเขียนให้ว่าคุณไม่สามารถทำงานอะไรได้แล้ว พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า ไม่ดีขึ้นสักนิดเลยหรอแบบนี้ก็เหลือแต่นอนโรงพยาบาลแล้วล่ะอยากนอนไหม
เรา:ตอบไปว่าก็ไม่ได้อยากนอนค่ะ
(ถามหน่อยใครจะอยากนอน รพ.ถ้าไม่เป็นคำสั่งแพทย์จริงๆ)
แต่ที่มาคือคิดว่าถ้าได้น้ำเกลืออาการหน้ามืดอ่อนเพลียก็น่าจะดีค่ะ เพราะรู้สึกเพลียมากทานอะไรไม่ได้แม้แต่น้ำเกลือแร่ยังอาเจียนออกมา
หมอ:อ้าวแล้วแบบนี้คุณต้องการอะไรใบแพทย์ใช่มั้ยผมเขียนให้หลายๆวันเลยเอามั้ยห้ะ
เรา:ต้องการหายค่ะ
เราเครียดมากตอนนั้นเพราะหมอพูดแบบนี้ และตอนนั้นเราก็เครียดอยู่แล้วที่ต้องเป็นภาระให้แฟนพามาหาหมอบ่อยๆแต่หมอไม่มีการตรวจเลือดหาสาเหตุหรืออะไรเลย จนหมอคนนั้นส่งไปแพทย์เฉพาะทาง
ระหว่างรอคิวหมอเฉพาะทางเราก็อาเจียนเรื่อยๆ
เมื่อถึงคิวเราแฟนไม่อยู่ไม่มีคนเข็นวีลแชร์ให้เราเลยลุกเดินไปเอง
หมอ:อ้าวก็เดินได้นินั่งวีลแชร์ทำไมคิดว่าตัวเองพิการหรอ
เรานี่พูดอะไรต่อไม่ถูกเลยทั้งเครียดทั้งเสียใจรู้สึกแย่มากๆ จนหมอคนนี้ก็ตรวจถามอาการบลาๆๆสรุปอาการให้ฟังคือส่วนนึงเป็นเพราะความเครียดและเรานอนไม่หลับแล้วพอมากินข้าวไม่ได้อีกจึงอ่อนเพลียและเหนื่อยหอบ หมอจ่ายยาและแจ้งกลับบ้านได้ ระหว่างนั้นรอแฟนไปรับยา เราอาเจียนตลอดเหงื่อออกจนตัวเปียก พยาบาลเห็นจึงพาไปห้องฉุกเฉินให้ดมแอมโมเนีย และตอนนั้นเราหน้ามืดหัวทิ่มทั้งที่นั่งอยู่บนวิลแชร์ พยาบาลเข้าช่วยปลดเสื้อผ้า หาอะไรมาพัดให้ เอาเตียงมาให้นอน และตามหมอมา แต่ครั้งนี้เป็นหมอ ผญ สอบถามอาการละเอียดมากและสั่งฉีดยาฆ่าเชื้อแก้อาเจียนเวียนศีรษะให้ แล้วสั่งแอดมิดทันที
มีขอตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะเพิ่ม ล่าสุดหมอแจ้งว่าติดเชื้อทางเดินอาหารและมีอาการแพนิคร่วมด้วย
#เราเสียความรู้สึกกับนายแพทย์2คนนั้นมาก สมควรแล้วหรอค่ะที่คนเป็นหมอจะพูดตัดกำลังใจคนไข้แบบนี้เราถึงขั้นคิดว่าถ้าไม่หายหมอยังไม่อยากรักษาอาการแย่ขึ้นแล้วต้องเป็นภาระให้คนอื่นแบบนี้สู้ตายไปเลยดีกว่า😭หรือเป็นปกติของหมอไม่รู้จริงๆค่ะไม่ค่อยได้มา รพ.บ่อยมากนัก