ตามหัวข้อเลย
เราเป็นคนที่ไม่รู้ผ่านมันมาได้ไง
ตอนสับสนไม่รู้ว่าจะเอาไงกับพ่อดี
“ไม่เลี้ยงดูกับเลี้ยงดู” เพราะให้เท่าไรเขาก็เรียกร้องมากกว่านั้น
-ตั้งแต่เกิดมาเราก็พึ่งเคยได้ยินว่าจากคนในครอบครัวแม่ว่าพ่อไม่เอาเราตั้งแต่คลอดได้ไม่กี่เดือนจะโยนเราลงมาจากชั้น 2 “เพราะร้อง”
-โตได้เราจำเหตุการณ์นี้ได้ คือ พ่อตีแม่เหตุเพราะแม่ไม่ได้กลับบ้านเองมีคนมาส่งพ่อไปตีกันในห้องน้ำแม่ร้องเสียงดังมาก
-พ่อขายยาและเล่นยาหนักจนตำรวจเข้าเป็นเหตุให้ครอบครัวเราแยกย้ายช่วง อนุบาล พ่อเรามาอยู่ นครปฐม เรา แม่ อยู่ ลพบุรี
-พอช่วงอนุบาลแม่พาเราไปอยู่กับพ่อเหมือนเดิม แต่มีน้าคนเล็กมาอยู่ด้วยแต่ช่วงนึงแม่เข้ากะเราพ่อให้เราอยู่กับป้าแล้วพ่อข่มขืนน้า เลยเป็นเหตุให้ครอบครัวแตกแยกอีกครั้ง น้า แม่ และ เรา กลับไปอยู่ลพบุรี
-ช่วงอายุ ป.3-ป.6 เราต้องอยู่กับแม่ลพบุรี พ่อเราอยู่นครปฐม แม่ได้ข่าวว่าพ่อมีกิ๊ก แม่เลยต้องไปจับกิ๊กพ่อ จนเป็นเหตุให้พ่อและแม่ เลิกกัน ต่างคนต่างมีใหม่ เราต้องไปอยู่กับยาย พ่อไม่เคยส่งอะไรให้เราเลย มีแต่แม่ที่ส่งอาหารแห้งให้เรา ส่งจดหมายมาหาเรา มาเชอร์ไพรส์เราที่โรงเรียน
-ช่วง ม.1-ปวช.2”อยู่กับพ่อ” เราต้องย้ายโรงเรียน เพราะพ่อไปบอกกับยายว่าจะให้เราไปเรียนที่ นครปฐม ซึ่งตรงนี้เราก็ได้ยินมาจากน้าคนกลางว่าพ่ออยากเอาชนะช่วงไม่กี่เดือนนี้ เรียนที่นี้จนถึง ม.3 แต่พ่อไม่เคยไปรับ-ส่ง หรือ ไปประชุม ผู้ปกครองมีแต่แม่ ซึ่งเราเองอยู่กับพ่อ เราอยู่กับพ่อต้องทำเองทุกอย่าง เพราะพ่อมีแต่เมากับเที่ยว ผญ. แม่เอาขนมมาให้เราเหมือนคนอดอยากมีนิสัยชอบชุกของกิน กับข้าวก็กินไข่ ปลากระป๋อง มาม่า (ต้องไปเซ็นเขาไว้) การบ้านก็ต้องทำเอง ไม่เคยมีใครสอน ตั้งแต่ ป.1-ม.3 เงินก็ไม่เคยได้เงินสดได้แต่เงินใน ATM ถ้าซื้อนอกเหนือจากนั้นต้องขอแม่ มันต้องนอกเหนือจากนั้นอยู่แล้ว เพราะว่าเรามีการทำรายงาน เราต้องอยู่ห้องคนเดียวกว่าพ่อจะกลับก็ดึกเลยเที่ยงคืนตลอด
-ช่วง ปวช.2 เราก็อยู่กับพ่อ จนมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดมีโจรขึ้นห้องเช่า เพราะห้องข้างๆไม่ได้ล็อก ดีที่เราไม่โดนไร มันเอาแต่โทรศัพท์กับเงินไปเท่านั้น(ครั้งแรก)เราเลยต้องลงไปอยู่กับป้าที่อยู่ห้องข้างล่างเรา จนเกิดเหตุเราไม่ได้เล่าให้ใครฟังว่าลุง ลวงที่ลับเรา ตอนเราหลับ หลังจากนั้นเราเลยเสี่ยงที่จะนอนห้องคนเดียวจนโจรมารอบ 2 เราก็มีแฟนแล้ว เราเลยโทรหาพ่อๆไม่รับเราเลยโทรหาแฟนที่อยู่ใกล้ให้มาช่วยเราหน่อย เพราะเราใช้เสียงถามมันว่าใคร มันเลยไปแฟนเราก็มาพอดีเลยไม่เกิดเหตุ เขาดีมากไม่ทำไรเราเลย เรากลับดึกจาก วิทยาลัยเขาก็ไปรับเรา และ ช่วงนั้นเราก็เริ่มไม่อยากเรียนแล้วเริ่มติดแฟน บวกกับพ่อมีเมียใหม่ด้วย ผญ. ของพ่อเริ่มมีบทบาท เราเลยหนีไปอยู่กับ ผช.คนนี้ ไม่เรียน โทรศัพท์ก็ไม่สามารถติดต่อได้เ เพราะว่าอยู่ใกล้ภูเขา แต่เราบอกเพื่อนสนิทไว้ เมื่อแม่เรารู้เรื่องนี้ แม่เราตามหาเราจากเพื่อนสนิทของเรา ซึ่งเราได้แชร์ดโลเคชั่นไว้ในเฟส ญาติแม่ออกตามหาเราทุกคน ยกเว้นพ่อเราและญาติทางพ่อเรา พอเรากลับมาแม่ก็คุยกับพ่อและแม่เลี้ยงเรา พ่อและแม่เราก็คุยกับแฟนเราว่ามาทำงานกับพ่อเราไหม แฟนเราบอกว่าไม่ทำ พ่อและแม่เลี้ยงเราก็บอกว่าจะไม่เอาเราแล้วเพราะเราใจแตก ในใจเราคิดว่าเขาอยากตัดปัญหาเรื่องการที่ต้องส่งเราเรียนด้วย ช่วงนั้นอยู่ ปวช.2 ขึ้น ปวช.3 เราเลยต้องย้ายไปอยู่กับแม่ และ พ่อเราก็ย้ายไปอยู่กับแม่เลี้ยงเรา
-ช่วง ปวช.3 เราก็เริ่มทำงาน เสาร์-อาทิตย์ โดยเช่า CD เข้างาน 09.00-21.00 น. ทุกวัน พอช่วงปิดเทอมเราก็ทำงาน กับ เจ้าของร้านเช่า CD เขามีอีกกิจการ คือ ขาย จิวรี่และทำจิวรี่ ด้วย
-ช่วง ปวส.1 เรามีค่าเทอมแต่ขาดหลายพัน เราขอแม่ๆให้มาก็ยังไม่พอ เราเลยไปขอพ่อๆ บอกว่าเงินอยู่กับเมียใหม่ ซึ่งแม่ก็มีพ่อใหม่ทำไมแก่มีให้เราแถมเขายังซักผ้า ทำกลับข้าวให้เรา และ เราต้องเรียนภาคทวิภาคี ทำงานช่วงวันหยุด กับเจ้าของร้านเช่า CD เพราะเราอยากเรียนๆ วันเว้นวัน เข้าเรียน 10 โมง 9 โมง บางครั้ง 11 โมง แต่เลิก 6 โมงเย็น บางครั้ง 5 โมง เย็น บ้านเช่าแม่อยู่ กทม. ไปๆมา ก็ไปพบกับแฟน คนที่ 2 แต่ก็ยังคบกับคนที่ 1 อยู่ จนมาวันนึง แม่รู้ว่าแฟนคนที่ 2 พอดูแลเราได้เขาจึงให้หมั้นกัน เราเลยเลิกกับคนที่ 1 เพราะช่วงนั้นเราฝึกงาน ปวส.2 ปีสุดท้ายแล้ว แฟนคนที่ 2 คือ เวลาเรากลับดึกเขาก็ไปส่งเราที่ กทม. แต่ช่วงเวลานี้เราก็ยังอยู่กับแม่ แต่รายจ่ายมันเยอะเราก็ยังไปขอพ่อแบบนี้เรื่อยๆแต่ไม่เคยได้เงินจากเขาเลย แม้แต่บาทเดียวได้แต่คำตอบว่า ATM อยู่กับเมียใหม่ เราได้แม่ที่ไปประชุม ผู้ปกครอง
-เราขึ้น ป.ตรี ก็ไปอยู่กับแฟนคนที่ 2 เพราะการเดินทางสะดวก เรียน เสาร์-อาทิตย์ แต่เราก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ซึ่งตอนนี้ทำงานที่เข้ากะเป็นพาร์ททาม เราก็ยังไปขอพ่อเหมือนเดิมคำตอบที่ได้ก็เหมือนเดิมเช่นกัน คือ ไม่ได้สักบาท ก็ได้แต่แม่ที่ค่อยดำเนินเรื่องกู้เรียน ไปประชุมผู้ปกครอง จันทร์-ศุกร์ ก็อยู่กับแม่และแม่ก็เลิกกับแฟน ช่วงปี 56 เราก็ต้องเปลี่ยนงานเป็นทำงานเกี่ยวกับจิวรี่จนปี 57 ตอนนั้นเราได้งานที่หยุดเพียงแค่วันอาทิตย์ แต่เราก็ยังไม่จบบวกกับมีปัญหากับทางครอบครัวแฟนด้วยเราเลยอยู่กับแม่ และ ได้ออกกระบะ มอไซค์ บวกกับเราเรียนจบพอดี ปี 57 และเราก็ได้งานใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์รถยี่ห้อนึง แต่ก็ยังต้องใช้หนี้ กยศ. อยู่เราเลยไปขอพ่อ เพราะอยากปิดคำตอบก็เหมือนเดิม จากนั้นเราก็ไม่ติดต่อกับ พ่อเลย จนปี 62 เราก็ใช้หนี้ กยศ.หมดแล้ว พร้อมกับเราได้มอไซค์ อีก 3 คัน แต่กระบะยังไม่หมดแต่มีเงินเก็บอยู่ พร้อมกับ พ่อเกิดอุบัติเหตุ เราก็ได้ใช้เงินเก็บอยู่ ประมาณ 5 หมื่น ที่มีรักษาพ่อจนหมด และก็รู้ว่าพ่อมีน้องที่เกิดกับแม่ใหม่ 2 ตอนที่พ่อเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งที่จำได้ คือ คนที่ 2 อยู่ ป.3 แล้ว จนปี 65 ทางแม่ใหม่เขาก็ไม่เอาพ่อ แต่พ่อก็มีสมบัติ มอไซร์คันนึ่งและตู้เย็นที่เราเอามาให้พ่อตอนพ่อล้ม
-ช่วงปี 57-ปัจจุบัน เราได้งานดี เงินขึ้นทุกปี พร้อมกับมี โบนัสทุกปี แต่เราก็ส่งทุกคน พ่อ 1300 ต่อเดือนและยังส่งเงินเข้าธนาคารเพื่อส่ง ประกันสังคมจนครบอายุ แม่ 3000 ส่งเงินเข้าประกันสังคมทุกเดือนๆละ 500 จนปัจจุบัน ให้ยาย 300 ยังมีแล้วแต่โอกาส ซื้อของให้ทุกคนๆต้องได้เหมือนกันทำจนถึงปัจจุบัน
-มีช่วงนึงแม่ พ่อ และ ยาย ได้ซื้อที่ไว้ พร้อมบ้าน แต่บ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่แต่มีญาติฝั่งแม่ เขามามั่วสุ่มดูดยากัน ทางเราเลยตัดปัญหาขาย บ้านแต่ไม่ได้ขายที่ เงินที่ได้เราแบ่งเราไม่ได้เลยแม้แต่น้อย คนที่ได้ คือ 3 คน แต่เราได้ข่าวมาว่าคนที่จ่ายน้อย คือ พ่อ แต่เขาไม่ยอมเขาจะขายที่ด้วย ซึ่งที่หายากแล้วเราไม่เห็นความจำเป็นว่าต้องขาย ที่ก็แค่ 1 งานแล้วอยู่ต่างจังหวัด แล้วที่ผืนนี้แค่ 6 หมื่นเราเลยคุยกับแม่ ยาย เขาบอกว่าให้มันไป 2 หมืนเราเลยทำ ตามคำแม่ แต่เราไม่จ่ายทั้งหมด เราทยอยจ่ายเพราะเขาจะเอาเงินส่วนนี้ไปให้เมียใหม่ที่เขาไม่เอาพ่อแล้ว และอีกอย่างเขาก็มาอยู่กับป้าซึ่งเราก็ยังส่งปกติ
- ในปี 63 เราก็ยังส่งปกติ จนปัจจุบันเราก็ยังส่งอยู่ พอมาล่าสุด เขาบอกเขาจะไปรักษาทั้งๆที่ ปี 62 ที่เราซื้อยาให้จนเงินเก็บหมดเขาก็กินเหล้า ดูดบุหรี พร้อมกับกินยาที่เราซื้อให้ พอมาอยู่กับป้าปี 65 ก็ไม่ได้กินเหล้า แต่ดูดบุหรี ไม่เปลี่ยน
-ปี 66 เรามี บ้าน มอไซค์ 4 คัน และ มีที่ดิน 3 ไร่ เราทำเอง โดยมีแฟนค่อยช่วยเก็บ(คนที่หมั้น)
-ระหว่างที่อยู่กับป้าเราก็สั่งขนมให้ ปี 65-66 เราก็สั่งขนมให้ทุกเดือน โทรศัพท์ก็ซื้อให้ทั้งพ่อและแม่ จนมาปี 66 ช่วงเมษ พ่อก็ไม่ยอมรับขนมที่เราส่งให้บอกขนส่งว่าไม่อยู่ ทั้งๆที่เราจ่ายเงินแล้วให้แก่รับอย่างเดียว
-ปี 66 ช่าง กย. ได้ข่าวมาว่าคุยกับเมียใหม่อยู่ แต่เรามีแผน คือ จะให้พ่อไปดูแลพื้นที่ๆเราได้ซื้อไว้ กับได้ข่าวแบบนี้เราเลยตกลงกับแก่ว่าจะให้ใครไปอยู่ไม่ได้ แก่กับพิมพ์มาว่า "กูไม่ได้คุยกับมันนานแล้ว" เลยถามเขาไปว่าแล้วพ่อจะขายที่ทำไม "เขาก็บอกว่าเรื่องของกู" แล้วเราก็บอกว่า งั้นก็ไม่ต้องเอาอะไรเลย "เรื่องของเงินไม่ให้กูก็ไม่เอาลูกหัว" ซึ่งเราไม่ได้หมายถึงเงิน เพราะเรารู้ว่าทุกคนต้องกินต้องใช้ และเราก็พิมพ์ยาว "เอาแต่ใจ ขนาดยังไม่ได้อยู่ด้วยกันไม่เคยมีเหตุผลอะไรสักอย่างหาแต่เรื่องให้หนักใจก็แล้วแต่เลยสร้างก็ไม่ช่วยได้แต่ทำลาย" ขนาดที่ๆตัวเองไม่ได้สร้างคนเดียวก็ยังจะขายแล้วน้าของแม่ก็ทำกินอยู่ซึ่งเขาก็เป็นเพื่อนกันมาก่อนด้วย ทั้งๆที่เราก็ให้เหตุผลว่าที่นะมันหายาก เราก็อยากเก็บไว้เผื่อญาติเราหรือว่าป้าจะได้มาอยู่เพราะที่ของป้าก็ยังผ่อนไม่หมดเผื่อเกิดปัญหาจะได้มีที่อยู่เขาก็ไม่ฟังจะขายอย่างเดียว
-ปี 67 ต้นปีก็ไปอยู่กับเพื่อนทั้งที่ครอบครัวเขาก็ขายของ เราก็ต้องตามเอาเงินไปให้เขา แต่พ่อเขาก็บอกว่าจะไปรักษาตัว ซึ่งเรามารู้ทีหลังๆจากที่ไปหาแม่มาว่าแก่ไปอยู่กับเขาตกลงกับเขา ทั้งๆที่เราก็ไม่รู้ พอรักษาจะมาขอเงินเราแล้วบอกกับน้าคนกลางที่ใช้พื้นที่ๆพ่อจะขายว่าเขาๆจะใช้เงินเรารักษาพอหายจะกลับไปหาเมียใหม่ และ เขาก็ไม่ได้เป็นไรมากเดินได้ปกติแต่วิ่งไม่ได้ เพราะเขาไม่ค่อยออกกำลังกาย ตอนนี้เขาก็ 51 แล้วมันก็ตามอายุ หายแล้วจะไปทำงานเลี้ยงลูกชายเขาแต่เราก็ได้ข่าวมาจาก
น้าว่าพ่อไม่ชอบลูก ผญ. เราเลยไม่แปลกใจว่าทำไมแก่ไม่ค่อยสนใจเรา และ ยังมาบอกว่าเงินที่ให้เป็นแค่เศษเงิน
**ทุกคนว่าน่าน้อยใจไหม เขาทิ้งเราให้เราลำบาก ตั้งแต่ ปวช.3-ปัจจุบัน เราอายุ 34 ปี เราก็บอกว่าเราๆอะตอนนี้มีงานทำเราส่งได้ให้เก็บๆไว้บ้างถ้าเราไม่มีงานทำเราก็คงไม่ได้ส่ง เพราะเราก็ต้องสร้างครอบครัว เรากลัวเราจะไปไม่มีเหมือนแต่ก่อนเขาก็ไม่ห่วงตรงนี้เลย แต่เราบอกแม่ไว้แล้วว่าเราส่งให้ๆเก็บเขาก็ทำตาม จนเขามีเงิน 3 แสนกว่าแล้ว แต่พ่อผู้ไม่เคยหยิบยืนให้ เราเลยกับขอแต่เราๆว่า สักวันเราก็จะปล่อยแต่ตอนที่เราไม่ได้ทำงานนะ เพราะว่าก็พยุงไม่ไหวเหมือนกันนะ เขามีเงินเขาเอาไปสูบบุหรี่ ซึ่งเราก็ย้ำว่าให้เก็บไว้บ้าง แต่เราก็ย้ำเขาแล้วว่าถ้าพ่อถ้าอายุครบ 55 พ่อไปเบิกเงินประกันสังคมได้เลยนะ เพราะว่าหนูได้ฝากไว้จนพ่อครบอายุนั้นแหละ ห้ามขาดห้ามเกินนะเดียวจะไม่ได้ ทุกคนที่เรากำหนดงบไว้ระหว่างนั้นเราก็จ่ายมากกว่าให้รายเดือนสะอีก
ขอบคุณที่อ่านคะ
พ่อผู้ให้ชีวิต
เราเป็นคนที่ไม่รู้ผ่านมันมาได้ไง
ตอนสับสนไม่รู้ว่าจะเอาไงกับพ่อดี
“ไม่เลี้ยงดูกับเลี้ยงดู” เพราะให้เท่าไรเขาก็เรียกร้องมากกว่านั้น
-ตั้งแต่เกิดมาเราก็พึ่งเคยได้ยินว่าจากคนในครอบครัวแม่ว่าพ่อไม่เอาเราตั้งแต่คลอดได้ไม่กี่เดือนจะโยนเราลงมาจากชั้น 2 “เพราะร้อง”
-โตได้เราจำเหตุการณ์นี้ได้ คือ พ่อตีแม่เหตุเพราะแม่ไม่ได้กลับบ้านเองมีคนมาส่งพ่อไปตีกันในห้องน้ำแม่ร้องเสียงดังมาก
-พ่อขายยาและเล่นยาหนักจนตำรวจเข้าเป็นเหตุให้ครอบครัวเราแยกย้ายช่วง อนุบาล พ่อเรามาอยู่ นครปฐม เรา แม่ อยู่ ลพบุรี
-พอช่วงอนุบาลแม่พาเราไปอยู่กับพ่อเหมือนเดิม แต่มีน้าคนเล็กมาอยู่ด้วยแต่ช่วงนึงแม่เข้ากะเราพ่อให้เราอยู่กับป้าแล้วพ่อข่มขืนน้า เลยเป็นเหตุให้ครอบครัวแตกแยกอีกครั้ง น้า แม่ และ เรา กลับไปอยู่ลพบุรี
-ช่วงอายุ ป.3-ป.6 เราต้องอยู่กับแม่ลพบุรี พ่อเราอยู่นครปฐม แม่ได้ข่าวว่าพ่อมีกิ๊ก แม่เลยต้องไปจับกิ๊กพ่อ จนเป็นเหตุให้พ่อและแม่ เลิกกัน ต่างคนต่างมีใหม่ เราต้องไปอยู่กับยาย พ่อไม่เคยส่งอะไรให้เราเลย มีแต่แม่ที่ส่งอาหารแห้งให้เรา ส่งจดหมายมาหาเรา มาเชอร์ไพรส์เราที่โรงเรียน
-ช่วง ม.1-ปวช.2”อยู่กับพ่อ” เราต้องย้ายโรงเรียน เพราะพ่อไปบอกกับยายว่าจะให้เราไปเรียนที่ นครปฐม ซึ่งตรงนี้เราก็ได้ยินมาจากน้าคนกลางว่าพ่ออยากเอาชนะช่วงไม่กี่เดือนนี้ เรียนที่นี้จนถึง ม.3 แต่พ่อไม่เคยไปรับ-ส่ง หรือ ไปประชุม ผู้ปกครองมีแต่แม่ ซึ่งเราเองอยู่กับพ่อ เราอยู่กับพ่อต้องทำเองทุกอย่าง เพราะพ่อมีแต่เมากับเที่ยว ผญ. แม่เอาขนมมาให้เราเหมือนคนอดอยากมีนิสัยชอบชุกของกิน กับข้าวก็กินไข่ ปลากระป๋อง มาม่า (ต้องไปเซ็นเขาไว้) การบ้านก็ต้องทำเอง ไม่เคยมีใครสอน ตั้งแต่ ป.1-ม.3 เงินก็ไม่เคยได้เงินสดได้แต่เงินใน ATM ถ้าซื้อนอกเหนือจากนั้นต้องขอแม่ มันต้องนอกเหนือจากนั้นอยู่แล้ว เพราะว่าเรามีการทำรายงาน เราต้องอยู่ห้องคนเดียวกว่าพ่อจะกลับก็ดึกเลยเที่ยงคืนตลอด
-ช่วง ปวช.2 เราก็อยู่กับพ่อ จนมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดมีโจรขึ้นห้องเช่า เพราะห้องข้างๆไม่ได้ล็อก ดีที่เราไม่โดนไร มันเอาแต่โทรศัพท์กับเงินไปเท่านั้น(ครั้งแรก)เราเลยต้องลงไปอยู่กับป้าที่อยู่ห้องข้างล่างเรา จนเกิดเหตุเราไม่ได้เล่าให้ใครฟังว่าลุง ลวงที่ลับเรา ตอนเราหลับ หลังจากนั้นเราเลยเสี่ยงที่จะนอนห้องคนเดียวจนโจรมารอบ 2 เราก็มีแฟนแล้ว เราเลยโทรหาพ่อๆไม่รับเราเลยโทรหาแฟนที่อยู่ใกล้ให้มาช่วยเราหน่อย เพราะเราใช้เสียงถามมันว่าใคร มันเลยไปแฟนเราก็มาพอดีเลยไม่เกิดเหตุ เขาดีมากไม่ทำไรเราเลย เรากลับดึกจาก วิทยาลัยเขาก็ไปรับเรา และ ช่วงนั้นเราก็เริ่มไม่อยากเรียนแล้วเริ่มติดแฟน บวกกับพ่อมีเมียใหม่ด้วย ผญ. ของพ่อเริ่มมีบทบาท เราเลยหนีไปอยู่กับ ผช.คนนี้ ไม่เรียน โทรศัพท์ก็ไม่สามารถติดต่อได้เ เพราะว่าอยู่ใกล้ภูเขา แต่เราบอกเพื่อนสนิทไว้ เมื่อแม่เรารู้เรื่องนี้ แม่เราตามหาเราจากเพื่อนสนิทของเรา ซึ่งเราได้แชร์ดโลเคชั่นไว้ในเฟส ญาติแม่ออกตามหาเราทุกคน ยกเว้นพ่อเราและญาติทางพ่อเรา พอเรากลับมาแม่ก็คุยกับพ่อและแม่เลี้ยงเรา พ่อและแม่เราก็คุยกับแฟนเราว่ามาทำงานกับพ่อเราไหม แฟนเราบอกว่าไม่ทำ พ่อและแม่เลี้ยงเราก็บอกว่าจะไม่เอาเราแล้วเพราะเราใจแตก ในใจเราคิดว่าเขาอยากตัดปัญหาเรื่องการที่ต้องส่งเราเรียนด้วย ช่วงนั้นอยู่ ปวช.2 ขึ้น ปวช.3 เราเลยต้องย้ายไปอยู่กับแม่ และ พ่อเราก็ย้ายไปอยู่กับแม่เลี้ยงเรา
-ช่วง ปวช.3 เราก็เริ่มทำงาน เสาร์-อาทิตย์ โดยเช่า CD เข้างาน 09.00-21.00 น. ทุกวัน พอช่วงปิดเทอมเราก็ทำงาน กับ เจ้าของร้านเช่า CD เขามีอีกกิจการ คือ ขาย จิวรี่และทำจิวรี่ ด้วย
-ช่วง ปวส.1 เรามีค่าเทอมแต่ขาดหลายพัน เราขอแม่ๆให้มาก็ยังไม่พอ เราเลยไปขอพ่อๆ บอกว่าเงินอยู่กับเมียใหม่ ซึ่งแม่ก็มีพ่อใหม่ทำไมแก่มีให้เราแถมเขายังซักผ้า ทำกลับข้าวให้เรา และ เราต้องเรียนภาคทวิภาคี ทำงานช่วงวันหยุด กับเจ้าของร้านเช่า CD เพราะเราอยากเรียนๆ วันเว้นวัน เข้าเรียน 10 โมง 9 โมง บางครั้ง 11 โมง แต่เลิก 6 โมงเย็น บางครั้ง 5 โมง เย็น บ้านเช่าแม่อยู่ กทม. ไปๆมา ก็ไปพบกับแฟน คนที่ 2 แต่ก็ยังคบกับคนที่ 1 อยู่ จนมาวันนึง แม่รู้ว่าแฟนคนที่ 2 พอดูแลเราได้เขาจึงให้หมั้นกัน เราเลยเลิกกับคนที่ 1 เพราะช่วงนั้นเราฝึกงาน ปวส.2 ปีสุดท้ายแล้ว แฟนคนที่ 2 คือ เวลาเรากลับดึกเขาก็ไปส่งเราที่ กทม. แต่ช่วงเวลานี้เราก็ยังอยู่กับแม่ แต่รายจ่ายมันเยอะเราก็ยังไปขอพ่อแบบนี้เรื่อยๆแต่ไม่เคยได้เงินจากเขาเลย แม้แต่บาทเดียวได้แต่คำตอบว่า ATM อยู่กับเมียใหม่ เราได้แม่ที่ไปประชุม ผู้ปกครอง
-เราขึ้น ป.ตรี ก็ไปอยู่กับแฟนคนที่ 2 เพราะการเดินทางสะดวก เรียน เสาร์-อาทิตย์ แต่เราก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ซึ่งตอนนี้ทำงานที่เข้ากะเป็นพาร์ททาม เราก็ยังไปขอพ่อเหมือนเดิมคำตอบที่ได้ก็เหมือนเดิมเช่นกัน คือ ไม่ได้สักบาท ก็ได้แต่แม่ที่ค่อยดำเนินเรื่องกู้เรียน ไปประชุมผู้ปกครอง จันทร์-ศุกร์ ก็อยู่กับแม่และแม่ก็เลิกกับแฟน ช่วงปี 56 เราก็ต้องเปลี่ยนงานเป็นทำงานเกี่ยวกับจิวรี่จนปี 57 ตอนนั้นเราได้งานที่หยุดเพียงแค่วันอาทิตย์ แต่เราก็ยังไม่จบบวกกับมีปัญหากับทางครอบครัวแฟนด้วยเราเลยอยู่กับแม่ และ ได้ออกกระบะ มอไซค์ บวกกับเราเรียนจบพอดี ปี 57 และเราก็ได้งานใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์รถยี่ห้อนึง แต่ก็ยังต้องใช้หนี้ กยศ. อยู่เราเลยไปขอพ่อ เพราะอยากปิดคำตอบก็เหมือนเดิม จากนั้นเราก็ไม่ติดต่อกับ พ่อเลย จนปี 62 เราก็ใช้หนี้ กยศ.หมดแล้ว พร้อมกับเราได้มอไซค์ อีก 3 คัน แต่กระบะยังไม่หมดแต่มีเงินเก็บอยู่ พร้อมกับ พ่อเกิดอุบัติเหตุ เราก็ได้ใช้เงินเก็บอยู่ ประมาณ 5 หมื่น ที่มีรักษาพ่อจนหมด และก็รู้ว่าพ่อมีน้องที่เกิดกับแม่ใหม่ 2 ตอนที่พ่อเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งที่จำได้ คือ คนที่ 2 อยู่ ป.3 แล้ว จนปี 65 ทางแม่ใหม่เขาก็ไม่เอาพ่อ แต่พ่อก็มีสมบัติ มอไซร์คันนึ่งและตู้เย็นที่เราเอามาให้พ่อตอนพ่อล้ม
-ช่วงปี 57-ปัจจุบัน เราได้งานดี เงินขึ้นทุกปี พร้อมกับมี โบนัสทุกปี แต่เราก็ส่งทุกคน พ่อ 1300 ต่อเดือนและยังส่งเงินเข้าธนาคารเพื่อส่ง ประกันสังคมจนครบอายุ แม่ 3000 ส่งเงินเข้าประกันสังคมทุกเดือนๆละ 500 จนปัจจุบัน ให้ยาย 300 ยังมีแล้วแต่โอกาส ซื้อของให้ทุกคนๆต้องได้เหมือนกันทำจนถึงปัจจุบัน
-มีช่วงนึงแม่ พ่อ และ ยาย ได้ซื้อที่ไว้ พร้อมบ้าน แต่บ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่แต่มีญาติฝั่งแม่ เขามามั่วสุ่มดูดยากัน ทางเราเลยตัดปัญหาขาย บ้านแต่ไม่ได้ขายที่ เงินที่ได้เราแบ่งเราไม่ได้เลยแม้แต่น้อย คนที่ได้ คือ 3 คน แต่เราได้ข่าวมาว่าคนที่จ่ายน้อย คือ พ่อ แต่เขาไม่ยอมเขาจะขายที่ด้วย ซึ่งที่หายากแล้วเราไม่เห็นความจำเป็นว่าต้องขาย ที่ก็แค่ 1 งานแล้วอยู่ต่างจังหวัด แล้วที่ผืนนี้แค่ 6 หมื่นเราเลยคุยกับแม่ ยาย เขาบอกว่าให้มันไป 2 หมืนเราเลยทำ ตามคำแม่ แต่เราไม่จ่ายทั้งหมด เราทยอยจ่ายเพราะเขาจะเอาเงินส่วนนี้ไปให้เมียใหม่ที่เขาไม่เอาพ่อแล้ว และอีกอย่างเขาก็มาอยู่กับป้าซึ่งเราก็ยังส่งปกติ
- ในปี 63 เราก็ยังส่งปกติ จนปัจจุบันเราก็ยังส่งอยู่ พอมาล่าสุด เขาบอกเขาจะไปรักษาทั้งๆที่ ปี 62 ที่เราซื้อยาให้จนเงินเก็บหมดเขาก็กินเหล้า ดูดบุหรี พร้อมกับกินยาที่เราซื้อให้ พอมาอยู่กับป้าปี 65 ก็ไม่ได้กินเหล้า แต่ดูดบุหรี ไม่เปลี่ยน
-ปี 66 เรามี บ้าน มอไซค์ 4 คัน และ มีที่ดิน 3 ไร่ เราทำเอง โดยมีแฟนค่อยช่วยเก็บ(คนที่หมั้น)
-ระหว่างที่อยู่กับป้าเราก็สั่งขนมให้ ปี 65-66 เราก็สั่งขนมให้ทุกเดือน โทรศัพท์ก็ซื้อให้ทั้งพ่อและแม่ จนมาปี 66 ช่วงเมษ พ่อก็ไม่ยอมรับขนมที่เราส่งให้บอกขนส่งว่าไม่อยู่ ทั้งๆที่เราจ่ายเงินแล้วให้แก่รับอย่างเดียว
-ปี 66 ช่าง กย. ได้ข่าวมาว่าคุยกับเมียใหม่อยู่ แต่เรามีแผน คือ จะให้พ่อไปดูแลพื้นที่ๆเราได้ซื้อไว้ กับได้ข่าวแบบนี้เราเลยตกลงกับแก่ว่าจะให้ใครไปอยู่ไม่ได้ แก่กับพิมพ์มาว่า "กูไม่ได้คุยกับมันนานแล้ว" เลยถามเขาไปว่าแล้วพ่อจะขายที่ทำไม "เขาก็บอกว่าเรื่องของกู" แล้วเราก็บอกว่า งั้นก็ไม่ต้องเอาอะไรเลย "เรื่องของเงินไม่ให้กูก็ไม่เอาลูกหัว" ซึ่งเราไม่ได้หมายถึงเงิน เพราะเรารู้ว่าทุกคนต้องกินต้องใช้ และเราก็พิมพ์ยาว "เอาแต่ใจ ขนาดยังไม่ได้อยู่ด้วยกันไม่เคยมีเหตุผลอะไรสักอย่างหาแต่เรื่องให้หนักใจก็แล้วแต่เลยสร้างก็ไม่ช่วยได้แต่ทำลาย" ขนาดที่ๆตัวเองไม่ได้สร้างคนเดียวก็ยังจะขายแล้วน้าของแม่ก็ทำกินอยู่ซึ่งเขาก็เป็นเพื่อนกันมาก่อนด้วย ทั้งๆที่เราก็ให้เหตุผลว่าที่นะมันหายาก เราก็อยากเก็บไว้เผื่อญาติเราหรือว่าป้าจะได้มาอยู่เพราะที่ของป้าก็ยังผ่อนไม่หมดเผื่อเกิดปัญหาจะได้มีที่อยู่เขาก็ไม่ฟังจะขายอย่างเดียว
-ปี 67 ต้นปีก็ไปอยู่กับเพื่อนทั้งที่ครอบครัวเขาก็ขายของ เราก็ต้องตามเอาเงินไปให้เขา แต่พ่อเขาก็บอกว่าจะไปรักษาตัว ซึ่งเรามารู้ทีหลังๆจากที่ไปหาแม่มาว่าแก่ไปอยู่กับเขาตกลงกับเขา ทั้งๆที่เราก็ไม่รู้ พอรักษาจะมาขอเงินเราแล้วบอกกับน้าคนกลางที่ใช้พื้นที่ๆพ่อจะขายว่าเขาๆจะใช้เงินเรารักษาพอหายจะกลับไปหาเมียใหม่ และ เขาก็ไม่ได้เป็นไรมากเดินได้ปกติแต่วิ่งไม่ได้ เพราะเขาไม่ค่อยออกกำลังกาย ตอนนี้เขาก็ 51 แล้วมันก็ตามอายุ หายแล้วจะไปทำงานเลี้ยงลูกชายเขาแต่เราก็ได้ข่าวมาจาก
น้าว่าพ่อไม่ชอบลูก ผญ. เราเลยไม่แปลกใจว่าทำไมแก่ไม่ค่อยสนใจเรา และ ยังมาบอกว่าเงินที่ให้เป็นแค่เศษเงิน
**ทุกคนว่าน่าน้อยใจไหม เขาทิ้งเราให้เราลำบาก ตั้งแต่ ปวช.3-ปัจจุบัน เราอายุ 34 ปี เราก็บอกว่าเราๆอะตอนนี้มีงานทำเราส่งได้ให้เก็บๆไว้บ้างถ้าเราไม่มีงานทำเราก็คงไม่ได้ส่ง เพราะเราก็ต้องสร้างครอบครัว เรากลัวเราจะไปไม่มีเหมือนแต่ก่อนเขาก็ไม่ห่วงตรงนี้เลย แต่เราบอกแม่ไว้แล้วว่าเราส่งให้ๆเก็บเขาก็ทำตาม จนเขามีเงิน 3 แสนกว่าแล้ว แต่พ่อผู้ไม่เคยหยิบยืนให้ เราเลยกับขอแต่เราๆว่า สักวันเราก็จะปล่อยแต่ตอนที่เราไม่ได้ทำงานนะ เพราะว่าก็พยุงไม่ไหวเหมือนกันนะ เขามีเงินเขาเอาไปสูบบุหรี่ ซึ่งเราก็ย้ำว่าให้เก็บไว้บ้าง แต่เราก็ย้ำเขาแล้วว่าถ้าพ่อถ้าอายุครบ 55 พ่อไปเบิกเงินประกันสังคมได้เลยนะ เพราะว่าหนูได้ฝากไว้จนพ่อครบอายุนั้นแหละ ห้ามขาดห้ามเกินนะเดียวจะไม่ได้ ทุกคนที่เรากำหนดงบไว้ระหว่างนั้นเราก็จ่ายมากกว่าให้รายเดือนสะอีก
ขอบคุณที่อ่านคะ