มีเรื่องอยากระบายค่ะ จขกท. ตอนนี้มาเรียนแลกเปลี่ยนกำหนดกลับไทยคือวันที่ 24 มิถุนายน
เมื่อเดือนก่อน แพนได้รับโทรศัพท์จากมี๊ว่า "ตาเข้าโรงพยาบาลนะ หมอบอกว่าอาจไม่รอดแล้วและพบน้ำเหลืองกระจายไปทั่วน่าจะเป็นมะเร็ง"
ตาของแพนล้มป่วยและโรคหัวใจกำเริบเลยต้องไปอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ตรวจไปมาพบมะเร็งที่ปอดด้วย ซึ่งไม่เคยรู้กันมาก่อน
ครอบครัวของแพนอยู่กันที่จังหวัดบุรีรัมย์ เหตุที่ต้องพาไปสุรินทร์เพราะอุปกรณ์ต่างๆ ครบมากกว่าและปกติตาก็เป็นคนไข้ของรพ.สุรินทร์ค่ะ
โรงพยาบาลไม่สามารถนอนค้างได้ ยายของแพนเลยตัดสินใจเช่าหอหน้าโรงพยาบาลอยู่เพราะไม่อยากไปไกลตา
ครอบครัวแพนอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ปกติคือมี
ตา ยาย แพน มี๊ น้าชาย ลูกของน้าชาย น้องสาวของยาย(ปัญหาทางจิต) และพี่สาวของยาย(เป็นอัมพาตช่วงล่างเดินไม่ได้)
ตั้งแต่ยายไม่อยู่บ้าน ยายแดง(น้องสาวยาย) ก็หนีออกจากบ้านมาสี่รอบแล้ว เล่นเอาหากันวุ่นวายทุกรอบ
ยายไม่เป็นอันตรายต่อคนอื่นค่ะ แต่ยายจะคิดฆ่าตัวเองตาย ไม่ก็มีบางอย่างพยายามฆ่ายาย ถ้าไม่ออกจากบ้านมันจะฆ่าทั้งบ้าน
น้าของแพนเป็นคนค่อนข้างขาดความรับผิดชอบ ทั้งต่อตัวเองและต่อลูก ปกติคือมีตากับยายช่วยดูแลตลอด
น้องของแพน 10 ขวบ (ก็ลูกของน้านั่นแหละ) ก็เป็นเด็กที่เสงาะแสงะ มันแปลว่าอะไรดีคำนี้ ทำอะไรเองไม่ได้ ขี้เกียจ รับผิดชอบตัวเองไม่ได้
เพราะฉะนั้นตัดความคาดหวังไปได้เลยกับกลุ่มนี้
ตั้งแต่ตายายไปอยู่ที่สุรินทร์ มี๊จะไปนอนกับยายเกือบจะทุกคืนทิ้งบ้านไว้กับคนที่เหลือ
ตอนเช้ามี๊จะตื่นไปรอเขาเปิดให้เยี่ยมตาได้ตอนเจ็ดโมงประมาณยี่สิบนาที ก่อนจะขับรถกลับบุรีรัมย์ไปสแกนนิ้วมือให้ทันก่อนแปดโมงครึ่ง
ช่วงเย็นก็จะขับรถกลับมาสุรินทร์เพื่อมาเยี่ยมตาและนอนกับยาย เป็นอย่างนี้เกือบทุกวัน
ในแต่ละอาทิตย์จะมีประมาณสองวันที่น้าและน้องเป็นคนไปเยี่ยมตา ซึ่งจะไปตอนเย็นและขับรถกลับ
ไม่สามารถนอนค้างกับยายได้เพราะตอนเช้าน้องจะมาโรงเรียนไม่ทัน แต่ทุกอาทิตย์ที่มากันนั้น
มี๊แพนต้องเป็นคนบอกแกมบังคับให้ไปตลอดเพราะตาถามหา ในฐานะที่น้าเป็นลูก และน้องเป็นหลาน
ทำไมถึงกับต้องสั่งกันเลยหรอถึงจะสละเวลาไปหาตาได้? น้าเอาแต่พูดว่า เออน่าพ่อยังอยู่อีกนาน อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ไม่ใช่หรอ?
ญาติต่างๆ ต่างพากันขับรถมาเยี่ยม บ้างก็นำเงินมาช่วยทั้งค่าหอของยายและอื่นๆ
จนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อยู่ๆ ไตของตาก็วายแต่โชคยังดีที่หมอช่วยไว้ได้ทันอาการตอนนี้ก็เลยทรงตัว
ญาติผู้หญิงคนหนึ่งที่สนิทกัน(ขอเรียกว่าป้า) แกเป็นพยาบาลเลยคอยมาช่วยดูยายบ้างเพราะยายก็ไม่สบายเหมือนกัน
ในระหว่างที่ขับรถกลับบุรีรัมย์ อยู่ๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซต์ขับพุ่งลงมาจากเกาะกลางถนน
ป้าขับรถชนเข้าอย่างจัง เด็กวัยรุ่นชายสองคนเสียชีวิตคาที่ค่ะ ส่วนตำรวจก็บอกว่าป้าผิดเพราะขับรถประมาท
ไม่มีรอยล้อเบรคเลยก่อนถึงจุดเกิดเหตุ แพนก็ไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไงแต่ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานกันอยู่
มี๊แพนก็ได้ไปเจอป้าและบอกว่าป้าเอาแต่ร้องไห้แต่บอกว่าไม่เป็นไรให้กลับไปดูตา
ทั้งนี้ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวฝ่ายของเด็กวัยรุ่นสองคนด้วยนะคะ
(แพนยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ และขอฝากเกี่ยวกับการขับขี่รถบนความไม่ประมาทนะคะจะได้ไม่เกิดเรื่องเศร้า)
ช่วงนี้น้องแพนก็เริ่มหาเรื่องไม่ไปโรงเรียน ซึ่งปกติน้องแพนก็ทำอยู่แล้ว แต่มีตากับยายคอยบังคับ
แต่พอมาตอนนี้ น้าแพนเป็นพวกโดนลูกข่มเพราะกลัวว่าถ้าไปขัดใจลูกจะตัดสินใจไปอยู่กับแม่แทน
เมื่อวานตอนที่มี๊กลับมาบ้านก็ไปเจอน้องนั่งเล่นอยู่บ้าน พอถามว่าทำไม่ไปโรงเรียนก็บอกว่าไม่สบาย พอจะพาไปหาหมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไรดีแล้ว
น้าก็ไม่ได้สนใจจะดูว่าที่น้องพูดเนี่ยจริงหรือไม่จริงเลยบอกว่าไม่ต้องไปโรงเรียน แล้วทิ้งไว้ให้อยู่บ้านกับยายสองคน
เมื่อกี้ได้คุยกับมี๊และยายแล้วอยากกลับบ้านมากเลยตอนนี้ จากที่คุยยายเอาแต่ถามว่าทำไมแล้วก็ดูเศร้ามาก
อย่างน้อยถ้าเรากลับไปยังพอช่วยอะไรมี๊ได้บ้าง มี๊เล่าว่าตาไม่กล้านอนยาวเพราะกลัวตัวเองไม่ตื่น
นอนไปได้สักพักก็สะดุ้งลืมตาโพลงตลอด มี๊ต้องคอยบอกว่าไม่เป็นไรนะพ่อต้องพักผ่อนลูกอยู่ข้างๆ
แล้วก็เปิดเพลงที่ตาชอบให้ฟังหลังจากนั้นก็เป็นธรรมะ อย่างนี้ทุกวัน
แพนเป็นหลานรักของตามาตั้งแต่ต้นแล้ว ทุกคนพูดเหมือนว่าสงสัยตาจะยังรอแพนกลับไปไทยอยู่
ก็หวังว่าจะกลับไปหาตาได้ทัน วันที่แพนจะบินมาที่นี่ตาไม่ยอมกอดแพนด้วยซ้ำเพราะกลัวแพนเห็นว่าตัวเองร้องไห้ เดินหนีเข้าบ้านไปเลย==;;
ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาล แพนได้สไกปคุยกับตาแค่ครั้งเดียวเอง ตาพูดเหมือนตังเองไม่เป็นอะไรทั้งแต่ดูแย่มาก ตาเข้มแข็งมากเลย
มี๊บอกให้แพนทำใจแล้วว่ากลับไปทันก็ทันไม่ทันก็ไม่ทัน "คนเราเกิดมามีเกิดแก่เจ็บตาย
มี๊รู้ว่ายากจะทำใจเมื่อมันเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวแต่เราต้องเข้าใจมันและเลิกถามว่าทำไม การโทษสิ่งต่างๆ มันไม่ใช่คำตอบ
ในตอนนี้มี๊ยังโชคดีที่ได้มีโอกาสดูแลตา ถึงเหนื่อยบ้างแต่ก็สุขใจได้ทำหน้าที่ของลูกที่ดูแลพ่อแม่แล้ว เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอ ตาจะไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้แต่มี๊ทำเต็มที่แล้วมี๊สุขใจแล้ว"
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัวมากๆ นะคะ.
ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก.
เมื่อเดือนก่อน แพนได้รับโทรศัพท์จากมี๊ว่า "ตาเข้าโรงพยาบาลนะ หมอบอกว่าอาจไม่รอดแล้วและพบน้ำเหลืองกระจายไปทั่วน่าจะเป็นมะเร็ง"
ตาของแพนล้มป่วยและโรคหัวใจกำเริบเลยต้องไปอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ตรวจไปมาพบมะเร็งที่ปอดด้วย ซึ่งไม่เคยรู้กันมาก่อน
ครอบครัวของแพนอยู่กันที่จังหวัดบุรีรัมย์ เหตุที่ต้องพาไปสุรินทร์เพราะอุปกรณ์ต่างๆ ครบมากกว่าและปกติตาก็เป็นคนไข้ของรพ.สุรินทร์ค่ะ
โรงพยาบาลไม่สามารถนอนค้างได้ ยายของแพนเลยตัดสินใจเช่าหอหน้าโรงพยาบาลอยู่เพราะไม่อยากไปไกลตา
ครอบครัวแพนอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ปกติคือมี
ตา ยาย แพน มี๊ น้าชาย ลูกของน้าชาย น้องสาวของยาย(ปัญหาทางจิต) และพี่สาวของยาย(เป็นอัมพาตช่วงล่างเดินไม่ได้)
ตั้งแต่ยายไม่อยู่บ้าน ยายแดง(น้องสาวยาย) ก็หนีออกจากบ้านมาสี่รอบแล้ว เล่นเอาหากันวุ่นวายทุกรอบ
ยายไม่เป็นอันตรายต่อคนอื่นค่ะ แต่ยายจะคิดฆ่าตัวเองตาย ไม่ก็มีบางอย่างพยายามฆ่ายาย ถ้าไม่ออกจากบ้านมันจะฆ่าทั้งบ้าน
น้าของแพนเป็นคนค่อนข้างขาดความรับผิดชอบ ทั้งต่อตัวเองและต่อลูก ปกติคือมีตากับยายช่วยดูแลตลอด
น้องของแพน 10 ขวบ (ก็ลูกของน้านั่นแหละ) ก็เป็นเด็กที่เสงาะแสงะ มันแปลว่าอะไรดีคำนี้ ทำอะไรเองไม่ได้ ขี้เกียจ รับผิดชอบตัวเองไม่ได้
เพราะฉะนั้นตัดความคาดหวังไปได้เลยกับกลุ่มนี้
ตั้งแต่ตายายไปอยู่ที่สุรินทร์ มี๊จะไปนอนกับยายเกือบจะทุกคืนทิ้งบ้านไว้กับคนที่เหลือ
ตอนเช้ามี๊จะตื่นไปรอเขาเปิดให้เยี่ยมตาได้ตอนเจ็ดโมงประมาณยี่สิบนาที ก่อนจะขับรถกลับบุรีรัมย์ไปสแกนนิ้วมือให้ทันก่อนแปดโมงครึ่ง
ช่วงเย็นก็จะขับรถกลับมาสุรินทร์เพื่อมาเยี่ยมตาและนอนกับยาย เป็นอย่างนี้เกือบทุกวัน
ในแต่ละอาทิตย์จะมีประมาณสองวันที่น้าและน้องเป็นคนไปเยี่ยมตา ซึ่งจะไปตอนเย็นและขับรถกลับ
ไม่สามารถนอนค้างกับยายได้เพราะตอนเช้าน้องจะมาโรงเรียนไม่ทัน แต่ทุกอาทิตย์ที่มากันนั้น
มี๊แพนต้องเป็นคนบอกแกมบังคับให้ไปตลอดเพราะตาถามหา ในฐานะที่น้าเป็นลูก และน้องเป็นหลาน
ทำไมถึงกับต้องสั่งกันเลยหรอถึงจะสละเวลาไปหาตาได้? น้าเอาแต่พูดว่า เออน่าพ่อยังอยู่อีกนาน อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ไม่ใช่หรอ?
ญาติต่างๆ ต่างพากันขับรถมาเยี่ยม บ้างก็นำเงินมาช่วยทั้งค่าหอของยายและอื่นๆ
จนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อยู่ๆ ไตของตาก็วายแต่โชคยังดีที่หมอช่วยไว้ได้ทันอาการตอนนี้ก็เลยทรงตัว
ญาติผู้หญิงคนหนึ่งที่สนิทกัน(ขอเรียกว่าป้า) แกเป็นพยาบาลเลยคอยมาช่วยดูยายบ้างเพราะยายก็ไม่สบายเหมือนกัน
ในระหว่างที่ขับรถกลับบุรีรัมย์ อยู่ๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซต์ขับพุ่งลงมาจากเกาะกลางถนน
ป้าขับรถชนเข้าอย่างจัง เด็กวัยรุ่นชายสองคนเสียชีวิตคาที่ค่ะ ส่วนตำรวจก็บอกว่าป้าผิดเพราะขับรถประมาท
ไม่มีรอยล้อเบรคเลยก่อนถึงจุดเกิดเหตุ แพนก็ไม่รู้ว่าความจริงเป็นยังไงแต่ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานกันอยู่
มี๊แพนก็ได้ไปเจอป้าและบอกว่าป้าเอาแต่ร้องไห้แต่บอกว่าไม่เป็นไรให้กลับไปดูตา
ทั้งนี้ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวฝ่ายของเด็กวัยรุ่นสองคนด้วยนะคะ
(แพนยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ และขอฝากเกี่ยวกับการขับขี่รถบนความไม่ประมาทนะคะจะได้ไม่เกิดเรื่องเศร้า)
ช่วงนี้น้องแพนก็เริ่มหาเรื่องไม่ไปโรงเรียน ซึ่งปกติน้องแพนก็ทำอยู่แล้ว แต่มีตากับยายคอยบังคับ
แต่พอมาตอนนี้ น้าแพนเป็นพวกโดนลูกข่มเพราะกลัวว่าถ้าไปขัดใจลูกจะตัดสินใจไปอยู่กับแม่แทน
เมื่อวานตอนที่มี๊กลับมาบ้านก็ไปเจอน้องนั่งเล่นอยู่บ้าน พอถามว่าทำไม่ไปโรงเรียนก็บอกว่าไม่สบาย พอจะพาไปหาหมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไรดีแล้ว
น้าก็ไม่ได้สนใจจะดูว่าที่น้องพูดเนี่ยจริงหรือไม่จริงเลยบอกว่าไม่ต้องไปโรงเรียน แล้วทิ้งไว้ให้อยู่บ้านกับยายสองคน
เมื่อกี้ได้คุยกับมี๊และยายแล้วอยากกลับบ้านมากเลยตอนนี้ จากที่คุยยายเอาแต่ถามว่าทำไมแล้วก็ดูเศร้ามาก
อย่างน้อยถ้าเรากลับไปยังพอช่วยอะไรมี๊ได้บ้าง มี๊เล่าว่าตาไม่กล้านอนยาวเพราะกลัวตัวเองไม่ตื่น
นอนไปได้สักพักก็สะดุ้งลืมตาโพลงตลอด มี๊ต้องคอยบอกว่าไม่เป็นไรนะพ่อต้องพักผ่อนลูกอยู่ข้างๆ
แล้วก็เปิดเพลงที่ตาชอบให้ฟังหลังจากนั้นก็เป็นธรรมะ อย่างนี้ทุกวัน
แพนเป็นหลานรักของตามาตั้งแต่ต้นแล้ว ทุกคนพูดเหมือนว่าสงสัยตาจะยังรอแพนกลับไปไทยอยู่
ก็หวังว่าจะกลับไปหาตาได้ทัน วันที่แพนจะบินมาที่นี่ตาไม่ยอมกอดแพนด้วยซ้ำเพราะกลัวแพนเห็นว่าตัวเองร้องไห้ เดินหนีเข้าบ้านไปเลย==;;
ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาล แพนได้สไกปคุยกับตาแค่ครั้งเดียวเอง ตาพูดเหมือนตังเองไม่เป็นอะไรทั้งแต่ดูแย่มาก ตาเข้มแข็งมากเลย
มี๊บอกให้แพนทำใจแล้วว่ากลับไปทันก็ทันไม่ทันก็ไม่ทัน "คนเราเกิดมามีเกิดแก่เจ็บตาย
มี๊รู้ว่ายากจะทำใจเมื่อมันเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวแต่เราต้องเข้าใจมันและเลิกถามว่าทำไม การโทษสิ่งต่างๆ มันไม่ใช่คำตอบ
ในตอนนี้มี๊ยังโชคดีที่ได้มีโอกาสดูแลตา ถึงเหนื่อยบ้างแต่ก็สุขใจได้ทำหน้าที่ของลูกที่ดูแลพ่อแม่แล้ว เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอ ตาจะไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้แต่มี๊ทำเต็มที่แล้วมี๊สุขใจแล้ว"
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัวมากๆ นะคะ.