หลังจากกระทู้ที่แล้ว รถชนจนคืนทุน >>
https://ppantip.com/topic/42476508
** ถ้าทั้ง 3 คันมีประกัน เราสามารถเรียกร้องค่าขาดผลฯ จากประกันคู่กรณีได้เอง แต่ในเคสของเราคือ คนชนไม่มีประกัน ต้องมาคุยกัน สถานีตำรวจ
หลังจากจบขั้นตอนการคืนทุนประกัน และอีกคันซ่อมเสร็จแล้ว เราก็นัดทั้ง 3 คันมาเจรจา
" สิ่งที่รู้สึกคือ ตำรวจ ไม่ค่อยช่วยเหลือ หรือให้คำแนะนำมากเท่าไหร่ เนื่องจากมันเป็นคดีแพ่ง " ก็แค่ลงบันทึกคดีประจำวันแค่นั้นเลย วันเรียกมาคุยยังไม่ค่อยจะอยากมารับฟัง เราเป็นคนดำเนินการเองเกือบหมด ตอนนัดทั้ง 3 คันเราโทรเองหมด ตำรวจไม่นัดให้ บอกให้เรานัดเอง พอตกลงเสร็จก็บันทึกลงคดีประจำวัน แล้วก็จบ. เหอๆ
( ** คดีแพ่ง เป็นคดีที่ฟ้องเพื่อเรียกเงินระหว่างกัน เป็นเรื่องส่วนบุคคลของ 2 ฝ่าย ใช้สิทธิของศาลเรียกร้อง )
เราคิดยอดรวมไปที่ 94,333 บาท โดยมีค่าใช้รถเดินทาง ค่าอุปกรณ์ที่เสียหาย และค่าทำขวัญ
เราไม่ได้เรียกค่าเสื่อมรถ เพราะ รถเราคืนทุนประกัน
แต่เราไม่ได้ยอดเงินตามที่เราร้องขอไปนะ ~
คันเรา MAZDA // ประกันเรา ชั้น 1 ซ่อมศูนย์
เราทำงานประจำ และต้องใช้เดินทางระหว่างกรุงเทพ และปริมณฑลอยู่ตลอด
เอกสารที่เราทำ
1. ค่าเดินทางระหว่างวัน ยอดรวมค่าเดินทางเราคิด
60,844 บาท
อิงจากราคาใน App LINEMAN TAXI แต่คิดไม่ต่ำกว่าวันละ 500 บาท ( หากใครเช่ารถก็คิดราคาเช่ารถ ) วันทำงานราคานึง / วันหยุด และนักขัตฤกษ์อีกราคานึง จำนวน 56 วัน (ตั้งแต่วันชน จนถึงวันรับรถคันใหม่)
2. ค่าทรัพย์สินที่เสียหาย และสูญหาย ยอดรวมค่าทรัพย์สิน
18,489 บาท
( นอกเหนือจากที่ประกันรับผิดชอบ )
2.1 ค่าคาร์ซีท
2.2 ค่ากล้องหน้า-หลังรถ ( กล้องหลังหาย เพราะชนแรงมากกกระเด็นไปไหนไม่รู้ )
2.3 ยางรถยนต์ ( พึ่งเปลี่ยนมาแค่ 2 ปี อายุยาง 4 ปี ขาดผลการใช้ 2 ปี ประกันรับผิดชอบแค่เส้นที่ฉีก / อีก 3 เส้น เราเก็บกับคนชน เราเรียกเพราะรถคืนทุน ยางก็ไปกับรถ เปลี่ยนมาไม่ได้ใช้งาน )
3. ค่าทำขวัญจากการประสบอุบัติเหตุ ยอด
15,000 บาท
รวมทั้งหมดก็ 94,333 บาท
--------------------------------------------------------
คุยไป คุยมา คนชนเขาก็ไม่ได้มีเงินก้อนมากมาย แต่เขายินดีจะรับผิดชอบ โดยขอลดหย่อนอีกนิด และขอเป็นผ่อนชำระ
เราเลยยื่นข้อเสนอไปที่ 28,000 บาทถ้วน.
คัน TOYOTA ผู้เสียหายอีกคัน // ประกันคันนี้ ชั้น 2+ ซ่อมอู่
คันนี้ทำงานค้าขาย ต้องใช้รถทุกวันเหมือนกัน
เขาไม่ได้ทำเอกสารมาก มีแค่ใบส่งซ่อมและใบรับรถเสียหายเพราะเป็นคันหน้าสุด Mazda โดนชนและพุ่งไปมุดท้ายเขา ความเสียหายคือ > ตัวท้ายรถบุบ กันชนหลังบุบฉีก และ ท่อไอเสียงอ เท่าที่คุยคือ รถเขาก็จะมีรอยเชื่อมตัวถังด้วยถ้าซ่อมเสร็จ ส่วนกันชนท้าย กับท่อไอเสียเบิกใหม่
เราไม่ทราบค่าใช้จ่าย แต่เรียกเขาค่าเสียหายแบบเห็นอกเห็นใจกัน
รวมทั้งหมด 15,000 บาท
--------------------------------------------------------
โดยทั้ง 2 คัน ตกลงให้ ผ่อนชำระ จำนวน 6 เดือน ผ่อนชำระทุกสิ้นเดือน โดยเอาเลขบัญชีให้ และ Add LINE เพื่อไว้ส่งสลิป
- ผ่อนให้ Mazda เดือนละ 4,667 บาท
- ผ่อนให้ Toyota เดือนละ 2,500 บาท
โดยคนชนแจ้งจะจ่ายวันที่ 31/1/67 นี้เป็นงวดแรก
นั่งคุยกันโต๊ะม้าหินบริเวณ สน. โดยที่ตำรวจเจ้าของคดีที่รับแจ้ง ยืนฟังอยู่ด้วย พอตกลงได้ก็ใบลงบันทึกคดีประจำวันอีกครั้ง แยกสำเนาเก็บกันคนละใบ ** จริงๆถ้าส่วนนี้ตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องไปฟ้องศาลแพ่งต่อ โดยที่เราจะคิดค่าธรรมเนียมศาล ค่าดอกเบี้ยต่อปีเข้าไปด้วย ฟ้องสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ หรืออาญัติเงินเดือนอะไรก็ว่าไป ...
*** หลังจากนี้ก็รอลุ้นในทุกๆเดือนว่า เราจะได้รับจนครบหรือไม่ เพราะอะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ~ ***
เอาจริงๆแล้ว เราอยากเรียกเยอะๆแหละ อยากได้เป็นเงินก้อนด้วยซ้ำ เพราะฟังมาเยอะ คนหนีก็เยอะ เพราะเราก็เสียเวลา เสียทรัพย์สิน เจ็บตัว ต้องบริหารการเงินใหม่ เราก็มีลูกเล็ก ก็ต้องใช้เงิน ใช้รถ แต่พอได้มาคุย มาเจอสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ผู้เสียหายทั้ง 2 คัน และคู่กรณี ก็คุยกันด้วยดีไม่ได้มีท่าทีแข็งกร้าว ก็ดูพยายามจะรับผิดชอบ ไม่ได้ปากเสียใจร้าย ไล่ไปฟ้อง อะไรประมาณนั้น ~
ก็ถือว่าช่วยๆกันไป แต่ถ้าจะให้คนผิดเขาไม่เสียอะไรเลย มันก็ไม่ใช่ คนทำผิด ต้องมีบทเรียนไว้บ้าง จะมากน้อยก็ต้องมี
แต่ถ้าเกิดเขาไม่ชำระจนครบ 6 เดือน ก็เดี๋ยวจะมาแชร์ประสบการณ์ใหม่ค่ะ 555555555+
ปล. แอบเซ็ง.. รถเราพังทั้งคัน แต่ได้มาแค่ 28,000 -. ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ครบไหม ลุ้นไปพร้อมกันค่ะ (คิดซะว่า ไม่ตายก็บุญแล้ว TT)
---------------------
มาแจ้งหลังครบกำหนดสัญญา ***
Mazda เราได้รับค่าขาดผลประโยชน์ในการใช้รถ ครบตามจำนวนที่ตกลง ส่วน Toyota เราไม่ได้ถามไถ่ แต่คิดว่าน่าจะได้รับครบเช่นกัน
งวดแรก เดือน ม.ค - งวดสุดท้าย เดือน มิ.ย
--------------------
แชร์ประสบการณ์ การเรียกร้องค่าขาดผลประโยชน์ในการใช้รถ และ ค่าเสื่อม ชนกัน 3 คัน คันชนไม่มีประกัน
เราทำงานประจำ และต้องใช้เดินทางระหว่างกรุงเทพ และปริมณฑลอยู่ตลอด
เอกสารที่เราทำ
1. ค่าเดินทางระหว่างวัน ยอดรวมค่าเดินทางเราคิด 60,844 บาท
อิงจากราคาใน App LINEMAN TAXI แต่คิดไม่ต่ำกว่าวันละ 500 บาท ( หากใครเช่ารถก็คิดราคาเช่ารถ ) วันทำงานราคานึง / วันหยุด และนักขัตฤกษ์อีกราคานึง จำนวน 56 วัน (ตั้งแต่วันชน จนถึงวันรับรถคันใหม่)
2. ค่าทรัพย์สินที่เสียหาย และสูญหาย ยอดรวมค่าทรัพย์สิน 18,489 บาท
( นอกเหนือจากที่ประกันรับผิดชอบ )
2.1 ค่าคาร์ซีท
2.2 ค่ากล้องหน้า-หลังรถ ( กล้องหลังหาย เพราะชนแรงมากกกระเด็นไปไหนไม่รู้ )
2.3 ยางรถยนต์ ( พึ่งเปลี่ยนมาแค่ 2 ปี อายุยาง 4 ปี ขาดผลการใช้ 2 ปี ประกันรับผิดชอบแค่เส้นที่ฉีก / อีก 3 เส้น เราเก็บกับคนชน เราเรียกเพราะรถคืนทุน ยางก็ไปกับรถ เปลี่ยนมาไม่ได้ใช้งาน )
3. ค่าทำขวัญจากการประสบอุบัติเหตุ ยอด 15,000 บาท
คันนี้ทำงานค้าขาย ต้องใช้รถทุกวันเหมือนกัน
เขาไม่ได้ทำเอกสารมาก มีแค่ใบส่งซ่อมและใบรับรถเสียหายเพราะเป็นคันหน้าสุด Mazda โดนชนและพุ่งไปมุดท้ายเขา ความเสียหายคือ > ตัวท้ายรถบุบ กันชนหลังบุบฉีก และ ท่อไอเสียงอ เท่าที่คุยคือ รถเขาก็จะมีรอยเชื่อมตัวถังด้วยถ้าซ่อมเสร็จ ส่วนกันชนท้าย กับท่อไอเสียเบิกใหม่
ก็ถือว่าช่วยๆกันไป แต่ถ้าจะให้คนผิดเขาไม่เสียอะไรเลย มันก็ไม่ใช่ คนทำผิด ต้องมีบทเรียนไว้บ้าง จะมากน้อยก็ต้องมี
---------------------
งวดแรก เดือน ม.ค - งวดสุดท้าย เดือน มิ.ย