ขอแชร์ประสบการณ์ รถชนจน คืนทุนประกันภัย และยังติดไฟแนนซ์อยู่

มาเริ่มเลย .... จะมาพูดถึงไฟแนนซ์และประกันภัย และศูนย์บริการรถ ที่ใช้บริการช่วงที่ดำเนินการหลังเกิดอุบัติเหตุ  รู้สึกคิดไม่ผิดเลยที่ได้ใช้บริการ  ต้องขอขอบคุณการทำงานของ 
       1. ไฟแนนซ์ธนาคารทหารไทยธนชาต  
       2. ประกันภัยรถยนต์ ไทยวิวัฒน์   (รถเราปี 2018 ทุนประกัน 350,000  ชั้น 1 ซ่อมศูนย์)
       3. ศูนย์ Mazda นที ราชพฤกษ์
ไม่ได้โฆษณาแต่อย่างใด  แค่ประทับใจในบริการ และความรวดเร็ว

** ตั้งแต่เกิดเหตุ  จนถึงได้เงินคืนทุนประกันภัย  ใช้เวลา 2 เดือน  ตั้งแต่วันที่ 26/11/66 – 17/1/67  **

             มาแชร์ประสบการณ์ไว้  เผื่อใครเจอแบบนี้ จะได้จัดสรรเวลาถูก  ทั้งนี้ความเร็ว หรือช้า เกี่ยวเนื่องกันตั้งแต่ศูนย์หรือ อู่รถในการเสนอค่าซ่อมไปยังประกันด้วยนะ   เสนอเสร็จ ประกันจะลงมาดูสภาพรถด้วยว่าสมเหตุผลที่เสนอไปไหม  ถ้าเป็นศูนย์ทางประกันต้องยอมเพราะเปลี่ยนใหม่ ราคามีมาตรฐาน แต่ถ้าเป็นอู่เนี่ยประกันจะคุมราคาไปอีก
        วันที่ 26/11/2566   เวลาประมาณ  17.50 น. รถ Mazda 2 ประสบอุบัติเหตุ เขตหนองแขม ถนนเพชรเกษม หน้าซอย 77  ชนกัน 3 คัน  เราเก๋งคันกลาง บู้หน้า-หลัง  กระบะที่ชนมาเร็วมาก  ออกมาจากแยกสาย 3 เบรคเอี๊ยดดดดดดยาวมาเลย  เราจอดเฉยๆ รอรถกลับรถอยู่ ก็โดนขับชน  และพุ่งไปชนกระบะคันหน้าอีก   สภาพก็ยับ ....  ตามภาพเลย

             - หม้อน้ำแตก ไฟหน้าข้างซ้ายแตก ข้างขวาขาหัก   กระจก  คานรถบีบจนเปิดประตูไม่ค่อยออก ยางฉีก บลาๆ
********************
            ที่แย่สุดคือ  คันที่ชน ไม่มีประกันภัยรถยนต์  หลังจากนั้นก็ทั้ง 3 คัน ไปสน.หนองค้างพลูกัน ถึงสน.ประมาณ 19.00 น.  ไม่สามารถเปรียบเทียบปรับได้ เพราะไม่มีร้อยเวร   ก็ดูกล้องต่างๆนาๆกัน  ในกล้องชี้ชัดว่า คันชนผิดเต็มๆ  ก็ลงบันทึกข้อความ เซ็นรับทราบแยกย้ายไปซ่อม  แล้วพอซ่อมเสร็จ มาคุยเรื่องค่าขาดผลฯ ค่าเสื่อมกันอีกที (ตอนอยู่ สน. ถ้าเจรจากันไม่ได้ ก็เอารถออกมาซ่อมไม่ได้  แต่ของเราลงบันทึก แล้วแยกย้ายซ่อม)

        อาการบาดเจ็บของเราคือ  (ใช้พรบ.รักษาได้  แต่เราใช้ประกันสังคม)
         - ปวดช่วงไหล่และคอมากก เพราะแรงกระแทก
         - เศษกระจกแตกมาบาดแขนขา เล็กน้อย
         - ขาข้างที่เหยียบเบรกไว้ เส้นเอ็นอักเสบ เดินแล้วเจ็บ
         - สภาพจิตใจคือ ตกใจง่าย ถ้าได้ยินเสียงเบรกรถก็กลัว  ไม่กล้าขับรถ กลัว เกร็ง กังวล
         - ร้องไห้คิดถึงรถหนักมาก 5555+  
 
            รถยกมาลากไป Mazda นที ราชพฤกษ์ คืนนั้นเลยมีจนท. ที่ศูนย์รับรถให้  เช้าอีกวันเราก็เข้าไปติดต่อศูนย์ ไปดูรถว่าเสียหายเบื้องต้นยังไง ประมาณวันรับรถหลังซ่อมเสร็จ  และรับใบนัดรับรถมา  ทางศูนย์จะมี line ของฝ่ายซ่อมให้เราไว้สอบถามติดตามตลอด (ดีมากๆ)  หลังจากนั้นศูนย์ใช้ระยะเวลาดูความเสียหาย พร้อมเสนอราคาซ่อมไปที่ประกัน ภายใน 2 สัปดาห์ รถเราค่าซ่อมเกิน 70% ของทุนประกัน สรุปคือ ..... คืนทุนประกันภัย

- ทีนี้รถเรายังติดไฟแนนซ์อยู่ เหลือยอดหนี้หลักหมื่น ก็ต้องทำเอกสาร เดินเรื่องใช้เวลาสักหน่อย -

           หลังจากนั้น ไทยวิวัฒน์ ก็ติดต่อมา ทำเรื่องเอกสารต่างๆนา หลายขั้นตอน พอจบขั้นนี้ ก็จะมีเจ้าหน้าที่อีกขั้นตอนติดต่อมา  ด้วยความที่รถเรายังติดไฟแนนซ์ก็จะมีความยุ่งยาก โดยเอกสารที่จะต้องทำเรื่องมีตามนี้

          เรากับประกันประสานงานผ่าน Line **
ขั้นที่ 1  (ภายใน 1 วัน)
      - บัตรประชาชน  พร้อมเซ็นกับกำยินยอมว่า ขอคืนทุน ไม่ประสงค์จัดซ่อม
      - ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (*หากเปลี่ยน)
ขั้นที่ 2 (ภายใน 1 สัปดาห์ เพราะคุยกันไม่รู้เรื่องด้านเอกสาร)
      - บัตรประชาชน พร้อมเซ็นกำกับว่าเราจะมอบผลประโยชน์ให้ไฟแนนซ์ รับเงินพร้อมถอนกรมธรรม์ และมอบซากรถให้ประกันภัย
      - ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (*หากเปลี่ยน)
      - แบบแสดงตนบุคคลธรรมดา
      - ใบเคลม (ตัวจริง)  ของเราอยู่กับศูนย์ก็แจ้งประกันไป *
      - สำเนากรมธรรม์ประกันภัย
      - สำเนาหน้ารายการจดทะเบียนรถ / ชื่อเจ้าของรถ / หน้าต่อภาษี / หน้ารายการบันทึกเจ้าหน้าที่ 
           
          เมื่อประกันได้เอกสารครบ เขาจะทำเรื่องภายในของเขา เพื่ออนุมัติการจ่ายเงิน  แล้วส่งเรื่องต่อไปยังไฟแนนซ์
(ขั้นตอนนี้ เราเอารถเข้าศุนย์ 27/11/66  ประกันอนุมัติคืนทุนวันที่ 28/12/66 โดยส่ง SMS แจ้งมา)

          วันที่ 29/12/66  ไฟแนนซ์โทรมาหาเราที่เป็นผู้เช่าซื้อ ว่าหลังเปิดงานปีใหม่จะส่งเอกสารทางไปรษณีย์ไปให้เซ็น  ส่งมาแบบไปรษณีย์ลงทะเบียน เราได้รับเอกสาร 6/1/67  ประกันจะฝากเอกสารมาให้เซ็นพร้อมกับไฟแนนซ์ด้วย   

          เรากับไฟแนนซ์ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ **
        - บัตรประชาชน เซ็นกำกับตามที่ไฟแนนซ์แจ้ง 2 ฉบับ
        - ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (*ถ้าเปลี่ยน) 2 ฉบับ
        - ทะเบียนบ้าน 2 ฉบับ
        - บันทึกคดีของสถานีตำรวจ  ต้องมีตำรวจเซ็นรับรองสำเนาด้วย (สำคัญ**)
        - กุญแจสำรองทั้งหมด  ( ถ้ากุญแจหลักอยู่ในซากรถก็แจ้งประกันไปด้วย )
        - หน้า Bookbank ที่จะรับเงินส่วนต่างคืน

        เอกสารของไฟแนนซ์ (แบบฟอร์มเขา)
        - หนังสือสละกรรมสิทธิ์  ( นำสินไหมมาชดใช้หนี้แล้วถ้าเหลือโอนคืนผู้เช่าซื้อ )
        - หนังสือรับรองกรรมสิทธิ์  ( รับรองว่าเป็นเจ้าของรถ และได้รับเงินชดเชยแล้ว จะโอนกรรมสิทธ์รถให้ประกัน )

        เอกสารของประกัน (แบบฟอร์มเขา)
        - สัญญาจ่ายเงินและรับเงินประกันตามกรมธรรม์ประกันภัย  (กล่าวถึงรถเรา สัญญาเลขที่อะไร บลาๆ เกิดเหตุอะไร ...)
        - หนังสือรับรองสิทธิและสละสิทธิ์
        - ใบรับเงิน ผู้รับผลประโยชน์เซ็น (ของเราไฟแนนซ์เซ็น เราไม่ต้อง)
        - กรมธรรม์ประกันภัย (ตัวจริง)  ถ้าหายต้องแจ้งความแนบกับสำเนา

ส่งทั้งหมดเป็นไปรษณีย์ EMS กลับไปยังไฟแนนซ์  
        ส่ง 8/1/67  ไฟแนนซ์ได้รับ 9/1/67  ระหว่างนี้เราโทรสอบถามสถานะทั้งประกัน ทั้งไฟแนนซ์อยู่เรื่อยๆ
        วันที่ 11/1/67 (พฤ.) ประกันออกเช็คและแจ้งไฟแนนซ์ไปรับ
        วันที่ 12/1/67 (ศ.) ไฟแนนซ์ไปรับเช็ค
        วันที่ 16/1/67 (อ.)  ไฟแนนซ์โทรมาแจ้งยอดที่จะคืนเงินให้หลังหักจากยอดหนี้คงค้าง

        * วันที่ 17/1/67 (พ.) ช่วง 12.00 น.  มียอดคืนเงินเข้าบัญชีธนาคาร

** หลังจากนั้น  เราก็นัดทั้ง 3 คัน ไป สน. อีกครั้ง เพื่อคุยค่าขาดผลประโยชน์ / ค่าเสื่อมรถ

รายละเอียด เดี๋ยวจะมาเล่ากระทู้ถัดไป ....

ปล. ภาพความเสียหายแบบชัดๆ  VVV
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

*****************

แชร์ประสบการณ์  ค่าเรียกค่าขาดผลประโยชน์ >>  https://ppantip.com/topic/42480178
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่