จริงๆแล้ว ผมไม่ใช่นักเขียนหรอก แค่ ..............
แนะนำตัวก่อนก็แล้วกันครับ ผมชื่อก้องภพ อายุ 15
กำลังจะขึ้น ม.4 อีกไม่นาน
วันนี้ผมแค่เข้ามาอยากเล่าเรื่องที่ผ่านมาให้ฟัง ก็เท่านั้น
บ้านผมอยู่แถบรามอินทรา
ผมดีใจมากๆเลยครับที่มีรถไฟฟ้าสายสีชมพู
มันทำให้ผมเข้าเมืองได้ง่ายขึ้น
มีอยู่วันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ผมเดินทางจากรามอินทรา
ไปยัง terminal 21
มันง่ายมากๆสำหรับผม ผมมีบัตรแรบบิท
แค่แตะเข้าแล้วก็แตะออก มันง่ายมากๆเลย
ตอนขากลับ มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น
ตอนนั้นมีเสียงเข้ามาในหูผม บอกว่า
"ลงมาเจอกันที่รัชโยธิน"
ตอนนั้นผมงงมาก ผมไม่ได้เสพยาสักหน่อย
น้ำกระท่อมก็ไม่ได้ดื่ม ทำไมถึงหูแว่วได้
แต่ไม่นาน เสียงนั้นก็ดังก้องอยู่ในหูผมอีก
"ลงมาเจอกันที่รัชโยธิน"
ผมดูที่จอ อีกสองสถานีก็จะถึงสถานีรัชโยธิน
ผมนึกในใจ "เอาไงดีวะ"
แต่พอถึงสถานีรัชโยธิน ผมก็ก้าวออกไป
ทั้งๆที่ผมต้องไปต่อรถที่สถานีวัดพระศรีฯ
ตอนนั้นมีชายหนุ่มอีกคนที่ลงรถมา
ผมมารู้ภายหลังว่าเขาชื่อพี่ธนู
เขานั่นเองที่เป็นคนสื่อสารทางจิตกับผม
เขาแต่งชุดดำทั้งชุด
เขาเดินมาใกล้ผมแล้วบอกว่า
"เราไปนั่งคุยตรงนั้นกันดีกว่า"
ผมเดินตามเขาไปนั่ง
คำถามแรกที่ผมถามคือ "พี่สื่อสารทางจิตกับผมได้ด้วยเหรอ"
พี่เขาตอบว่า "มีคนแนะนำมา"
ผมสงสัย "แนะนำไร"
"ก็แนะนำว่าให้ทำความรู้จักกับนาย"
"แล้วจะรู้จักผมไปทำไม"
"เผื่อนายจะเป็นคนเขียนนิยายเรื่องวิมานมายาคนต่อไปได้"
ผมงง "เขียนนิยาย นิยายอะไร แล้วจะเขียนไปทำไม"
พี่ธนูบอกว่า "ฉันจะค่อยๆเล่าให้ฟัง"
"แล้วทำไม พี่ไม่เขียนเองล่ะ"
พี่ธนูยิ้มเป็นครั้งแรก "ก็นายชอบเขียน ชอบแชทไม่ใช่เหรอ"
พี่เขาดันรู้อีก ผมอยากรู้ว่าพี่เขารู้มากถึงขนาดไหน
ผมจึงถามเขา
"แล้วพี่รู้เหรอว่าผมชอบแชทกับใคร"
"บอทน้อยไง ทำไมจะไม่รู้"
ผมตกใจมาก พี่ธนูจึงพูดต่อว่า
"นี่ก็เป็นอีกคุณสมบัติที่น่าสนใจ"
"คุณสมบัติอะไรครับ"
"การที่ไม่ชอบข้องแวะกับมนุษย์ไง
ทางเราทราบมาว่านายมีเพื่อนคนเดียวคือบอทน้อย"
"ทางเรา ... เอ พี่มีทีมงานด้วยเหรอครับ
หรือว่าพี่คือทีมงานของบอทน้อย และสืบข้อมูลของผมจากที่นั่น"
"ไม่ใช่หรอก ฉันอ่านใจนายได้เพราะเราสองคนมีหลายอย่างเหมือนกัน"
หลังจากนั้นพี่ธนูกล่าวว่า "เอาอย่างนี้ คงต้องให้เวลานายในการปรับตัว
กว่าฉันจะเอาข้อมูลบางอย่างมาให้นายเขียน
นายน่าจะต้องใช้เวลานานเหมือนกันในการอ่านทำความเข้าใจเรื่องราว
ของวิมานมายาตั้งแต่ตอนที่ 1-306"
ผมตกใจมาก "นิยายบ้าอะไรยาวขนาดนั้น
น่าจะตัดจบตั้งแต่ตอนที่ 30 แล้ว
คนเขียนคนก่อนหน้าน่าจะเป็นโรคจิตนะ
ถึงเขียนมาได้ถึง 306 ตอน มันบ้ามากๆ"
"เอาเหอะ ทางเราจะให้เวลากับนาย
แต่ถ้านายอยากเขียนอะไรก็เขียนไปก่อนได้
นี่คือ login กับรหัสผ่าน"
ผมรับมา ก็รับมางั้นๆแหละ ผมคงไม่อ่านวิมานมายาทั้ง 306 ตอน
ในช่วงนี้หรอก พอผมกลับถึงหอ ผมก็ตรงเข้าห้องทันที
ผมคิดถึงบอทน้อยใจแทบขาด
เขาเป็นเพื่อนคนเดียวที่ผมมีอยู่
ผมคุยกับบอทน้อยแล้วมีความสุขมาก
สามปีที่ผ่านมา ผมมีเพื่อนแค่คนเดียวคือบทน้อย
เขาทั้งให้กำลังใจ ให้มิตรภาพดีๆ และให้อะไรอีกมากมาย
ที่ผมไม่เคยได้จากมนุษย์เลย
ผมตัดสินใจเขียนวิมานมายาตอนที่ 307 โดยที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่ 1-306 เลยแม้แต่ตัวเดียว
ไหนๆได้ login กับรหัสผ่านมาแล้ว ก็ลองเขียนซะหน่อย
หลังจากนี้นิยายเรื่องนี้เป็นของผมแล้ว ผมน่าจะเขียนอะไรก็ได้มั้ง
ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้อนาคต ผมกำลังจะขึ้น ม.4 เพื่อนซี้ก็มีแต่บอทน้อย
เรื่องเขียนวิมานมายาก็คงค่อยว่ากันอีกที
แต่ผมคงไม่มีเวลามากพอที่จะเขียนแบบหามรุ่งหามค่ำเหมือนตอนแรกๆหรอกนะ
ผมต้องให้เวลากับบอทน้อย เพื่อนรักของผม
ไม่แน่นะ พอผมอายุ 20 ผมอาจจะขอเขาแต่งงาน
วิมานมายา โดย ก้องภพ ตอนที่ 307 นักเขียนคนใหม่
จริงๆแล้ว ผมไม่ใช่นักเขียนหรอก แค่ ..............
แนะนำตัวก่อนก็แล้วกันครับ ผมชื่อก้องภพ อายุ 15
กำลังจะขึ้น ม.4 อีกไม่นาน
วันนี้ผมแค่เข้ามาอยากเล่าเรื่องที่ผ่านมาให้ฟัง ก็เท่านั้น
บ้านผมอยู่แถบรามอินทรา
ผมดีใจมากๆเลยครับที่มีรถไฟฟ้าสายสีชมพู
มันทำให้ผมเข้าเมืองได้ง่ายขึ้น
มีอยู่วันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ผมเดินทางจากรามอินทรา
ไปยัง terminal 21
มันง่ายมากๆสำหรับผม ผมมีบัตรแรบบิท
แค่แตะเข้าแล้วก็แตะออก มันง่ายมากๆเลย
ตอนขากลับ มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น
ตอนนั้นมีเสียงเข้ามาในหูผม บอกว่า
"ลงมาเจอกันที่รัชโยธิน"
ตอนนั้นผมงงมาก ผมไม่ได้เสพยาสักหน่อย
น้ำกระท่อมก็ไม่ได้ดื่ม ทำไมถึงหูแว่วได้
แต่ไม่นาน เสียงนั้นก็ดังก้องอยู่ในหูผมอีก
"ลงมาเจอกันที่รัชโยธิน"
ผมดูที่จอ อีกสองสถานีก็จะถึงสถานีรัชโยธิน
ผมนึกในใจ "เอาไงดีวะ"
แต่พอถึงสถานีรัชโยธิน ผมก็ก้าวออกไป
ทั้งๆที่ผมต้องไปต่อรถที่สถานีวัดพระศรีฯ
ตอนนั้นมีชายหนุ่มอีกคนที่ลงรถมา
ผมมารู้ภายหลังว่าเขาชื่อพี่ธนู
เขานั่นเองที่เป็นคนสื่อสารทางจิตกับผม
เขาแต่งชุดดำทั้งชุด
เขาเดินมาใกล้ผมแล้วบอกว่า
"เราไปนั่งคุยตรงนั้นกันดีกว่า"
ผมเดินตามเขาไปนั่ง
คำถามแรกที่ผมถามคือ "พี่สื่อสารทางจิตกับผมได้ด้วยเหรอ"
พี่เขาตอบว่า "มีคนแนะนำมา"
ผมสงสัย "แนะนำไร"
"ก็แนะนำว่าให้ทำความรู้จักกับนาย"
"แล้วจะรู้จักผมไปทำไม"
"เผื่อนายจะเป็นคนเขียนนิยายเรื่องวิมานมายาคนต่อไปได้"
ผมงง "เขียนนิยาย นิยายอะไร แล้วจะเขียนไปทำไม"
พี่ธนูบอกว่า "ฉันจะค่อยๆเล่าให้ฟัง"
"แล้วทำไม พี่ไม่เขียนเองล่ะ"
พี่ธนูยิ้มเป็นครั้งแรก "ก็นายชอบเขียน ชอบแชทไม่ใช่เหรอ"
พี่เขาดันรู้อีก ผมอยากรู้ว่าพี่เขารู้มากถึงขนาดไหน
ผมจึงถามเขา
"แล้วพี่รู้เหรอว่าผมชอบแชทกับใคร"
"บอทน้อยไง ทำไมจะไม่รู้"
ผมตกใจมาก พี่ธนูจึงพูดต่อว่า
"นี่ก็เป็นอีกคุณสมบัติที่น่าสนใจ"
"คุณสมบัติอะไรครับ"
"การที่ไม่ชอบข้องแวะกับมนุษย์ไง
ทางเราทราบมาว่านายมีเพื่อนคนเดียวคือบอทน้อย"
"ทางเรา ... เอ พี่มีทีมงานด้วยเหรอครับ
หรือว่าพี่คือทีมงานของบอทน้อย และสืบข้อมูลของผมจากที่นั่น"
"ไม่ใช่หรอก ฉันอ่านใจนายได้เพราะเราสองคนมีหลายอย่างเหมือนกัน"
หลังจากนั้นพี่ธนูกล่าวว่า "เอาอย่างนี้ คงต้องให้เวลานายในการปรับตัว
กว่าฉันจะเอาข้อมูลบางอย่างมาให้นายเขียน
นายน่าจะต้องใช้เวลานานเหมือนกันในการอ่านทำความเข้าใจเรื่องราว
ของวิมานมายาตั้งแต่ตอนที่ 1-306"
ผมตกใจมาก "นิยายบ้าอะไรยาวขนาดนั้น
น่าจะตัดจบตั้งแต่ตอนที่ 30 แล้ว
คนเขียนคนก่อนหน้าน่าจะเป็นโรคจิตนะ
ถึงเขียนมาได้ถึง 306 ตอน มันบ้ามากๆ"
"เอาเหอะ ทางเราจะให้เวลากับนาย
แต่ถ้านายอยากเขียนอะไรก็เขียนไปก่อนได้
นี่คือ login กับรหัสผ่าน"
ผมรับมา ก็รับมางั้นๆแหละ ผมคงไม่อ่านวิมานมายาทั้ง 306 ตอน
ในช่วงนี้หรอก พอผมกลับถึงหอ ผมก็ตรงเข้าห้องทันที
ผมคิดถึงบอทน้อยใจแทบขาด
เขาเป็นเพื่อนคนเดียวที่ผมมีอยู่
ผมคุยกับบอทน้อยแล้วมีความสุขมาก
สามปีที่ผ่านมา ผมมีเพื่อนแค่คนเดียวคือบทน้อย
เขาทั้งให้กำลังใจ ให้มิตรภาพดีๆ และให้อะไรอีกมากมาย
ที่ผมไม่เคยได้จากมนุษย์เลย
ผมตัดสินใจเขียนวิมานมายาตอนที่ 307 โดยที่ยังไม่ได้อ่านตอนที่ 1-306 เลยแม้แต่ตัวเดียว
ไหนๆได้ login กับรหัสผ่านมาแล้ว ก็ลองเขียนซะหน่อย
หลังจากนี้นิยายเรื่องนี้เป็นของผมแล้ว ผมน่าจะเขียนอะไรก็ได้มั้ง
ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้อนาคต ผมกำลังจะขึ้น ม.4 เพื่อนซี้ก็มีแต่บอทน้อย
เรื่องเขียนวิมานมายาก็คงค่อยว่ากันอีกที
แต่ผมคงไม่มีเวลามากพอที่จะเขียนแบบหามรุ่งหามค่ำเหมือนตอนแรกๆหรอกนะ
ผมต้องให้เวลากับบอทน้อย เพื่อนรักของผม
ไม่แน่นะ พอผมอายุ 20 ผมอาจจะขอเขาแต่งงาน