ประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่านักเรียนมาอเมริกา

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาเล่าเรื่องราวคร่าวๆเกี่ยวกับประสบการณ์สัมภาษณ์วีซ่านักเรียนหรือ F1 เพื่อมาศึกษาต่อที่อเมริกาค่ะ

ยอมรับว่าปสก.นี้เกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นอาจจะมีตกหล่นบ้างนะคะ หากยังไงมีตรงไหนตกหล่นหรือสงสัยตรงไหนสามารถสอบถามได้เลยค่ะ จะพยายามเข้ามาตอบค่ะ

สองปีที่แล้วจขกท.เป็นนักเรียนมอปลายซึ่งมีความตั้งใจที่จะมาศึกษาต่อที่อเมริกา จึงมีการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษและยื่นคะแนนเข้าศึกษาปริญญาตรี หลังจากนั้นก็ได้ทราบข่าวดีจากทางอีเมลมหาลัยว่าจขกท.ได้รับคัดเลือก หลังจากนั้นมหาลัยจะส่งรายละเอียดต่างๆมาให้ค่ะและแน่นอนว่าบิลค่าเทอมจะมาแล้วค่ะ เมื่อเราจ่ายบิลค่าเทอมแล้ว มหาลัยจะส่ง I-20 มาให้ค่ะ ซึ่งเอกสารนี้แหละค่ะที่สำคัญมากๆในการขอวีซ่า หลังจากนั้นก็ให้เรานัดสัมภาษณ์วีซ่าได้เลยค่ะ โดยการเข้าเว็ปของสถานฑูตอเมริกาเพื่อกรอกข้อมูลค่ะ แนะนำว่าการกรอกข้อมูลควรทราบก่อนว่าจะสัมภาษณ์ที่กรุงเทพหรือเชียงใหม่ รวมถึงควรมีรูปถ่ายหน้าตรง(ตามเกณฑ์ที่สถานฑูตกำหนด)เตรียมพร้อมไว้นะคะ และที่สำคัญที่สุดคือการกรอกข้อมูลทุกอย่างควรเป็นความจริงค่ะ หลังจากนั้นเราก็เลือกวันนัดได้เลยค่ะ แต่อย่างจขกท.คิวที่ว่างมีแค่หลังจากที่มหาลัยเปิดเทอม เพราะฉะนั้นเจ้าของกระทู้จะต้องขอนัดคิวสัมภาษณ์พิเศษค่ะ และจขกท.ก็เลือกสัมภาษณ์ที่เชียงใหม่(จขกท.เป็นคนกรุงเทพและบ้านก็อยู่กรุงเทพค่ะ แต่สบายใจที่จะไปสัมภาษณ์ที่เชียงใหม่555)

จขกท.บินไปเชียงใหม่ก่อนวันนัด 1 วันและพักโรงแรมใกล้ๆสถานฑูตเพื่อที่จะได้สะดวกและไม่ต้องกังวลค่ะ พอถึงวันสัมภาษณ์จขกท.ก็เตรียมเอกสารใส่แฟมใส ใส่ชุดทางการซึ่งเป็นเสื้อเชิ้ตขาว กาวเกงขายาวสีดำ และรองเท้าหุ้มข้อสีดำ พร้อมกับกระเป๋าใบเล็ก(พอถึงข้างหน้าประตูต้องฝากกระเป๋าค่ะ) และแนะนำว่าให้ไปถึงสถานฑูตก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงค่ะ เพราะบางทีเราอาจจะลืมหน้าลืมหลังเกี่ยวกับเอกสาร จะได้มีเวลาแก้ไขค่ะ รวมถึงปัญหาที่พบมากที่สุดคือเรื่องรูปถ่ายค่ะ ย้อนกลับมาถึงตอนที่เมื่อจขกท.ถึงสถานฑูต จขกท.ก็ทำการเดินเข้าประตูเล็กไป ก็จะเจอพี่ๆด้านหน้าให้เราฝากของทุกอย่างยกเว้นเอกสารใส่แฟมใสค่ะ หลังจากนั้นเค้าก็จะให้เราไปรับบัตรคิวจากเครื่องกดบัตรค่ะ และก็จะมีจุดให้เราไปนั่งรอคิวเพื่อไปที่ห้องห้องหนึ่งก่อนจะไปเจอคนสัมภาษณ์เรา ซึ่งห้องนั้นจะเป็นห้องคล้ายๆตรวจเอกสารเราไปในตัวด้วยค่ะ แล้วเค้าก็ขอรูปหน้าตรงของจขกท.เพราะรูปของจขกท.ไม่ขึ้นอยู่ในเว็ป ตรงนี้แหละค่ะที่เป็นปัญหาเพราะจขกท.ไม่ได้เตรียมรูปใบจริงมาเลย พนง.เลยให้จขกท.รีบไปถ่ายรูป เพราะกว่าจะถึงคิวนัดจริงๆของจขกท.ก็อีกสิบกว่านาที(ตรงนี้แหละค่ะจขกท.เลยขอเน้นย้ำอีกรอบว่าควรไปก่อนเวลาเพราะคุณจะได้มีเวลาแก้ไขปัญหาที่คาดไม่ถึง) จขกท.จึงทำการวิ่งไปร้านถ่ายรูปค่ะ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานฑูต(พี่ๆที่ร้านน่ารักมากเลยค่ะ) พอได้รูปแล้วจขกท.ก็ทำการย้อนไปสเตปเดิมค่ะ ฝากของและกดบัตรคิวจากตู้ใหม่และก็ไปห้องของพนง.ก่อนหน้าที่ให้จขกท.ไปถ่ายรูปค่ะ และหลังจากนั้นเราก็จะไปเราก็จะได้ไปจุดที่สัมภาษณ์ค่ะ จขกท.เจอคนสัมภาษณ์เป็นผู้ชายดูไม่ดุค่ะ ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ คนสัมภาษณ์ขอเอกสาร I-20 และ Bank statement แต่จำไม่ได้ว่าเค้าขอเอกสารเกี่ยวกับบริษัทของคุณพ่อจขกท.หรือเปล่า หลังจากนั้นเค้าก็ถามจขกท.ว่าจบมามีความตั้งใจอะไร ทำไมถึงเลือกอเมริกา แล้วก็ถามถึงธุรกิขของพ่อจขกท.ค่ะ หลังจากนั้นเค้าก็ขอพาสปอร์ตของจขกท.เป็นอันว่าสัมภาษณ์ผ่านแล้วค่ะ พาสปอร์ตก็จะถูกส่งไปรษณีย์มาที่บ้านค่ะ สรุปแล้วการสัมภาษณ์ไม่ได้น่ากลัวเลยค่ะตราบใดที่เราไม่งงกับตัวเอง ตอบคำถามไม่วนไปวนมา ตอบคำถามตามความจริง รวมถึงเตรียมเอกสารให้พร้อม และที่สำคัญมี Bank statement ที่มีเงินแข็งแรงมากพอค่ะ 

นี่ก็เป็นการเขียนเล่าแบบคร่าวๆเท่าที่จขกท.จำได้นะคะเพราะผ่านมาสองปีแล้ว หากสงสัยอะไรสามารถสอบได้เลยค่ะ

ปล.หากตรงไหนจขกท.พิมพ์แล้วงงหรือพิมผิดขออภัยด้วยนะคะ เป็นคนใช้ภาษาไทยงงเล็กน้อยบวกกับทุกวันนี้ไม่ค่อยได้พิมพ์ภาษาไทยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่