ตอนที่ 27 ล่อแมวยักษ์ (วันศุกร์)
ทุกคนฟังแผนหัวหน้าฟุตบอล จึงช่วยกันหาอุปกรณ์ในถ้ำตามที่ต้นคิดร้องขอ เช่นเชือก ได้เอาสายเถาวัลย์เป็นเชือกแทน ขณะนี้ทุกคนไม่เห็นแมวยักษ์อยู่ปากทาง แต่ไม่มีใครกล้าออกสำรวจเพราะมันวิ่งเร็วกว่ามนุษย์
อาเมดยืนตรงทางออกด้านบนเหมือนเมื่อวานที่ได้สำรวจไว้ ตนเอาเชือกมัดที่เอวและบอกให้เพื่อนเอาปลายเชือกผูกกับก้อนหินที่แข็งแรง ขณะนี้อาเมดปีนออกจากทางดังกล่าว
“เธอแน่ใจวิธีนี้ได้ผลนะ” ซาร่ารู้สึกเป็นห่วง
“ต้องได้ผลสิ” ชายหนุ่มกล่าวอย่ามั่นใจ
"ขาเธอหายบาดเจ็บแล้วเหรอ" มิสซูชักกังวล
"มันโอเคนะ"
อาเมดปีนออกช่องดังกล่าวแล้วค่อยๆ อ้อมมาอีกด้าน ตนภาวนาขอให้แผนที่วางไว้ประสบความสำเร็จด้วย เมื่อเดินอ้อมได้สักพัก ชายหนุ่มเห็นมันอยู่ด้านล่าง ซึ่งกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้มันเห็นและวิ่งมาที่ตน
“เฮ...แมวเหมียว” อาเมนตะโกนใส่มัน
มันยังคงเดินวนเวียนบริเวณปากทางเข้าถ้ำไม่ห่างและดมกลิ่นตามพื้นดินเหมือนหาอะไรสักอย่าง
“เฮ”
อาเมนตะโกนเท่าไรแต่มันก็ไม่ได้ยิน “เจ้านั้นอยู่ห่างเกินไป” กัปตันครุ่นคิดในใจและนึกถึงคำพูดซาร่า “สัตว์บางตัวดมกลิ่นฉี่ได้ดี” ตนลังเลว่าจะลองดีไหม “เอาว่ะ” หลังจากคิดได้จึงถอดเสื้อที่ใส่เหลือเพียงเสื้อกล้ามและฉี่ใส่เสื้อ
“โอ้...พระเจ้าให้ฉันทำอะไรเนี้ย” หัวหน้าทีมฟุตบอลลองโบกเสื้อที่เปื้อนฉี่สักพัก แล้วพบว่ามันกำลังเดินออกจากพื้นที่เดิมเพื่อวนเวียนตามอะไรบ้างอย่าง
“อืมมมมมม” ตนกำลังคิดจะได้ผลหรือไม่ “ขอให้พระองค์คุ้มครองลูกด้วย” อาเมดตัดสินใจม้วนเสื้อของตนแล้วปาใส่เจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้น
มันเดินเข้ามายังบริเวณที่เสื้อตกอยู่แล้วดมกลิ่นเสื้อ ทันใดนั้นมันกัดเสื้อจนขาดกระจุย แต่เมื่อมันพบว่าไม่ใช่เหยือจึงหันหลังกลับ แล้วค่อยๆ เดินจากไป อาเมดเห็นมันกำลังออกห่าง ด้วยความท้อใจจึงตะโกน “พระเจ้า” ขึ้นฟ้า
เจ้าแมวยักษ์หยุดเดินแล้วหันหลังกลับ อาเมดรู้แล้วเสียงที่ตะโกนได้ยินถึงมัน อาเมนพูดดังๆอีกครั้ง
“ปัง” “ปัง” แมวเหมียวทำท่าฮึดฮัดเหมือนมีอะไรบ้างอย่างสะกิตแผลมัน
มันเงยหน้าและพยายามหันข้างใส่เสียงดังกล่าว เพื่อฟังอีกครั้ง
“ปัง” “ไอ้แมวโง่ ฉันอยู่ทางนี้”
“ปัง” “ปัง”
คราวนี้มันกำลังปีนเขาขึ้นมาตามเสียง
ที่มาภาพจากยูทูป
เมื่อถึงจุดหนึ่งมันได้กลิ่นอาเมดและเดินเข้ามาเร็วขึ้น “มาเลย”
อาเมดคาดหวัง สายตาที่ไม่ดีของมันจะทำให้มันเดินตกเขาที่ลาดชัด
“โอ้พระเจ้า” อาเมดตกใจแสดงแสงส้มออกมา “นายมันตัวอะไร”
ชายหนุ่มเห็นมันเดินปีนเขาได้เหมือนแพะ มันเดินเข้ามาอย่างเร็วเมื่อเทียบกับมนุษย์ ตนจึงไม่รอช้ารีบปีนกลับเข้าถ้ำดีกว่า เมื่อพ้นระยะทางโค้งแล้ว พ้องเพื่อนพบอาเมดกำลังปีนกลับมา ต่างดีใจและ
ตกใจเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดกำลังไต่ตามหน้าผา มันไล่ตามอาเมดอย่างกระชัดชิด
“พี่อาเมดเข้ามาเร็วๆ ครับ” จอร์นตะโกน ร่วมทั้งซาร่าและมิสซู เพื่อนชายของหญิงทั้งสองพยายามปีนเข้ามาจนใกล้ถึงปากทาง ซาร่าเห็นอาเมดกำลังจะถึงแล้ว แต่เจ้ายักษ์ยังไล่ตามอาเมดด้วยระยะห่างไม่เกินสิบเมตรเช่นกัน
“จับมือฉันไว้” ซาร่าตะโกนแล้วยืนมือออก
“มันจะสปาร์ค” อาเมดตะโกน
“ฉันสัญญาจะไม่ปล่อยเธอ” ซาร่าบอกเพื่อน
อดัมพยายามจะช่วยเหลือเหมือนกันแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ เพราะการดึงมือฉุดแบบนี้จะทำให้ตายทั้งคู่ ด้วยความฉุกละหุกตนจึงดึงตัวซาร่าหมายเป็นตัวยึดให้ซาร่าอีกชั้น
“จับมือฉัน” ซาร่าบอกเพื่อนเมื่อเห็นสัตว์ดังกล่าวใกล้เข้ามาไม่เกินห้าเมตร
อาเมดจะยื่นมือจับซาร่าเพราะรู้สึกเริ่มไม่ไหว มันเดินได้เร็วกว่า ปลายมือทั้งสองเกือบใกล้กัน บางครั้งชิดกันประกายไฟเล็กเกิดขึ้นปลายนิ้วเส้นใย
อาเมดนึกขึ้นได้ หากตนเข้าไปด้านในได้ เจ้าแมวยักษ์ต้องเข้ามาได้เช่นเดียวกัน ทั้งเพื่อนและจอร์นต้องตายกันทั้งหมด ชายหนุ่มจึงดึงมือกลับแล้วหันหน้าเข้าหามันและจ้องมองหน้าแมวยักษ์อย่างสงบนิ่ง
เจ้าเหมียวเห็นเหยื่อไม่เคลื่อนไหวจึงย่อหลังขาหลังเป็นสัญญาณว่าตนพร้อมจะกระโดดจู่โจม
อาเมดเห็นท่าทางการจะกระโดดของมัน ตนจึงปล่อยตัวเองให้หล่นลงไปด้านล่าง เจ้ายักษ์เห็นเหยื่อเคลื่อนไหวจึงกระโดดตามเหยื่อและผ่านเหยื่อโดยมือมันสัมผันปลายมือเอเมดจนเกิดประกายไฟ แต่ด้วยน้ำหนักของมันจึงทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อจนตกลงไปด้านล่าง
ขณะนี้อาเมดห้อยอยู่กลางหน้าผา ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อและประกายแสงออร่าจากความหวาดกลัว ตกใจปนดีใจด้วยเช่นกัน
7.5 ตอนที่ 27 เรื่อง Meeting point นิยายดีที่อยากแนะนำ
ทุกคนฟังแผนหัวหน้าฟุตบอล จึงช่วยกันหาอุปกรณ์ในถ้ำตามที่ต้นคิดร้องขอ เช่นเชือก ได้เอาสายเถาวัลย์เป็นเชือกแทน ขณะนี้ทุกคนไม่เห็นแมวยักษ์อยู่ปากทาง แต่ไม่มีใครกล้าออกสำรวจเพราะมันวิ่งเร็วกว่ามนุษย์
อาเมดยืนตรงทางออกด้านบนเหมือนเมื่อวานที่ได้สำรวจไว้ ตนเอาเชือกมัดที่เอวและบอกให้เพื่อนเอาปลายเชือกผูกกับก้อนหินที่แข็งแรง ขณะนี้อาเมดปีนออกจากทางดังกล่าว
“เธอแน่ใจวิธีนี้ได้ผลนะ” ซาร่ารู้สึกเป็นห่วง
“ต้องได้ผลสิ” ชายหนุ่มกล่าวอย่ามั่นใจ
"ขาเธอหายบาดเจ็บแล้วเหรอ" มิสซูชักกังวล
"มันโอเคนะ"
อาเมดปีนออกช่องดังกล่าวแล้วค่อยๆ อ้อมมาอีกด้าน ตนภาวนาขอให้แผนที่วางไว้ประสบความสำเร็จด้วย เมื่อเดินอ้อมได้สักพัก ชายหนุ่มเห็นมันอยู่ด้านล่าง ซึ่งกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้มันเห็นและวิ่งมาที่ตน
“เฮ...แมวเหมียว” อาเมนตะโกนใส่มัน
มันยังคงเดินวนเวียนบริเวณปากทางเข้าถ้ำไม่ห่างและดมกลิ่นตามพื้นดินเหมือนหาอะไรสักอย่าง
“โอ้...พระเจ้าให้ฉันทำอะไรเนี้ย” หัวหน้าทีมฟุตบอลลองโบกเสื้อที่เปื้อนฉี่สักพัก แล้วพบว่ามันกำลังเดินออกจากพื้นที่เดิมเพื่อวนเวียนตามอะไรบ้างอย่าง
“อืมมมมมม” ตนกำลังคิดจะได้ผลหรือไม่ “ขอให้พระองค์คุ้มครองลูกด้วย” อาเมดตัดสินใจม้วนเสื้อของตนแล้วปาใส่เจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้น
เจ้าแมวยักษ์หยุดเดินแล้วหันหลังกลับ อาเมดรู้แล้วเสียงที่ตะโกนได้ยินถึงมัน อาเมนพูดดังๆอีกครั้ง “ปัง” “ปัง” แมวเหมียวทำท่าฮึดฮัดเหมือนมีอะไรบ้างอย่างสะกิตแผลมัน
มันเงยหน้าและพยายามหันข้างใส่เสียงดังกล่าว เพื่อฟังอีกครั้ง
“ปัง” “ไอ้แมวโง่ ฉันอยู่ทางนี้” “ปัง” “ปัง”
“โอ้พระเจ้า” อาเมดตกใจแสดงแสงส้มออกมา “นายมันตัวอะไร”
ชายหนุ่มเห็นมันเดินปีนเขาได้เหมือนแพะ มันเดินเข้ามาอย่างเร็วเมื่อเทียบกับมนุษย์ ตนจึงไม่รอช้ารีบปีนกลับเข้าถ้ำดีกว่า เมื่อพ้นระยะทางโค้งแล้ว พ้องเพื่อนพบอาเมดกำลังปีนกลับมา ต่างดีใจและตกใจเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดกำลังไต่ตามหน้าผา มันไล่ตามอาเมดอย่างกระชัดชิด
“พี่อาเมดเข้ามาเร็วๆ ครับ” จอร์นตะโกน ร่วมทั้งซาร่าและมิสซู เพื่อนชายของหญิงทั้งสองพยายามปีนเข้ามาจนใกล้ถึงปากทาง ซาร่าเห็นอาเมดกำลังจะถึงแล้ว แต่เจ้ายักษ์ยังไล่ตามอาเมดด้วยระยะห่างไม่เกินสิบเมตรเช่นกัน
“จับมือฉันไว้” ซาร่าตะโกนแล้วยืนมือออก
“มันจะสปาร์ค” อาเมดตะโกน
“ฉันสัญญาจะไม่ปล่อยเธอ” ซาร่าบอกเพื่อน
อดัมพยายามจะช่วยเหลือเหมือนกันแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ เพราะการดึงมือฉุดแบบนี้จะทำให้ตายทั้งคู่ ด้วยความฉุกละหุกตนจึงดึงตัวซาร่าหมายเป็นตัวยึดให้ซาร่าอีกชั้น
“จับมือฉัน” ซาร่าบอกเพื่อนเมื่อเห็นสัตว์ดังกล่าวใกล้เข้ามาไม่เกินห้าเมตร
อาเมดจะยื่นมือจับซาร่าเพราะรู้สึกเริ่มไม่ไหว มันเดินได้เร็วกว่า ปลายมือทั้งสองเกือบใกล้กัน บางครั้งชิดกันประกายไฟเล็กเกิดขึ้นปลายนิ้วเส้นใย
อาเมดนึกขึ้นได้ หากตนเข้าไปด้านในได้ เจ้าแมวยักษ์ต้องเข้ามาได้เช่นเดียวกัน ทั้งเพื่อนและจอร์นต้องตายกันทั้งหมด ชายหนุ่มจึงดึงมือกลับแล้วหันหน้าเข้าหามันและจ้องมองหน้าแมวยักษ์อย่างสงบนิ่ง
อาเมดเห็นท่าทางการจะกระโดดของมัน ตนจึงปล่อยตัวเองให้หล่นลงไปด้านล่าง เจ้ายักษ์เห็นเหยื่อเคลื่อนไหวจึงกระโดดตามเหยื่อและผ่านเหยื่อโดยมือมันสัมผันปลายมือเอเมดจนเกิดประกายไฟ แต่ด้วยน้ำหนักของมันจึงทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อจนตกลงไปด้านล่าง
ขณะนี้อาเมดห้อยอยู่กลางหน้าผา ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อและประกายแสงออร่าจากความหวาดกลัว ตกใจปนดีใจด้วยเช่นกัน