“ชัยธวัช” เตือนหากยุบพรรคก้าวไกล สถานการณ์ทางการเมืองหลังจากนี้จะไม่ปกติแน่
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4386583
ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ในรายการมีเรื่องมาเคลียร์ by
ศิโรตม์ ทางยูทูบมติชนทีวี เชื่อว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล หลังจากนี้การเมืองจะไม่ปกติ ประเด็นในเรื่องม.112 และสถาบันพระมหากษัตริย์จะจุดชนวนความขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่
หมออ๋อง โต้เดือด ร่วมม็อบ กปปส. ลั่นถ้ามีหลักฐาน เป่านกหวีด ยินดีลาออก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8060742
หมออ๋อง โต้เดือด โลกออนไลน์ขุดอดีตให้หยุด โดนกล่าวหา ร่วมม็อบ กปปส. ลั่นถ้ามีหลักฐาน เป่านกหวีด ยินดีลาออก แนะให้ไปถามคนในรูป
กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะบรรดาคอการเมือง เมื่อ มีการนำภาพ หมออ๋อง นาย
ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเป็นธรรม และ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ในสมัยการชุมนุมของม็อบ กปปส. มาเผยแพร่ในโลกออนไลน์อีกครั้ง
โดยก่อนหน้านี้ หมอ
อ๋อง เคยชี้แจงแล้วว่า
ไม่เคยร่วมม็อบดังกล่าว เพียงแต่เข้าไปทำกิจกรรมเท่านั้น
โดย หมอ
อ๋อง โพสต์ในเรื่องดังกล่าวว่า
ถ้ามีหลักฐานว่าผมเป็นกปปส. เป่านกหวีด ผมยินดีลาออกครับ
หมอ
อ๋อง นาย
ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเป็นธรรม และ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1
ต่อมามีผู้โพสต์ ใน X ตั้งคำถามกับ หมออ๋อง ว่า
คุณเคยบอกว่ากลุ่มคุณไปร้องเพลงในม็อบ แต่ไปร้องแค่ม็อบ กปปส. นะ และสัญลักษณ์ กปปส. ก็ครบมือทั้งหมด
ใครจะเชื่อก็เชื่อไป แต่ดูยังไงก็แก๊ง กปปส. แล้วไม่ต้องลาออกหรอก ถึงขนาดยอมโดนไล่ออกเพื่อกอดเก้าอี้ไว้ก็คงไม่ออกเพราะเรื่องแค่นี้หรอก
ทำให้ หมอ
อ๋อง โพสต์แจงระบุว่า
ไปถามคนในรูปได้เลยครับ
หนุ่มเมืองจันท์ ชี้ แบงก์ชาติ-แบงก์พาณิชย์ ปมแบงก์กำไรเพิ่มขึ้น ต้องคิดให้ครบ ทำยังไงให้คนกู้ถูกลง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4386499
หนุ่มเมืองจันท์ ชี้ แบงก์ชาติ-แบงก์พาณิชย์ ปมแบงก์กำไรเพิ่มขึ้น ต้องคิดให้ครบ ทำยังไงให้คนกู้ถูกลง
เมื่อวันที่ 21 มกราคม นาย
สรกล อดุลยานนท์ คอลัมนิสต์ชื่อดัง เขียนบทความเกี่ยวกับธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารพาณิชย์ ผ่านคอลัมน์ “
Market-think” ของนสพ.ประชาชาติธุรกิจ ระบุว่า
ตอนที่ผมโพสต์เรื่อง “แบงก์ชาติ-แบงก์พาณิชย์” ในเพจ
ผมเพียงรู้สึกแปร่ง-แปร่งกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แบงก์กำไรเพิ่มขึ้น ทั้งที่เศรษฐกิจไม่ดี, ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ ดอกเบี้ยเงินกู้สูง ส่วนต่างเยอะมาก, รายใหญ่กู้ง่าย ดอกเบี้ยถูก, เอสเอ็มอี ดอกเบี้ยแพง กู้ยาก, คนจะกู้ซื้อบ้าน แบงก์ก็ไม่ปล่อย, ดอกเบี้ยสูง ทำให้คนกู้ซื้อบ้านต้องจ่ายแพงขึ้น หรือเงินที่ผ่อนต่อเดือนตัดเงินต้นน้อยนิด ฯลฯ เป็นความรู้สึกเหมือนน้ำมันราคาแพง แต่บริษัทน้ำมันกำไรเพิ่ม
ตอนที่โพสต์ ผมนึกถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และคนทั่วไป คิดถึง “คน” ที่อยู่ “บรรทัดสุดท้าย” ของเรื่องนี้ ไม่ได้คิดว่าจะกดดันให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยนโยบาย ไม่ได้เสนอให้ปลดผู้ว่าการแบงก์ชาติ ไม่ได้คิดว่า ผู้บริหารแบงก์พาณิชย์ เป็นอาชญากร เพราะเขาทำธุรกิจตามปกติ
เพียงแต่ธุรกิจแบงก์เป็นธุรกิจที่เกี่ยวพันกับคนจำนวนมาก จึงต้องคำนึงถึงอารมณ์ความรู้สึกของสังคมด้วย เพราะปัญหาเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับหลายส่วน อย่างเช่น กำไรที่เกิดขึ้น NIM ของแบงก์พาณิชย์สูงขึ้น พร้อมกับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติ ถ้าแบงก์ชาติส่งสัญญาณว่า ขึ้นจาก 2.6% เป็น 3.2% มากไปแล้วนะ
หรือมีผู้ใหญ่วงการแบงก์คนหนึ่งบอกว่า ต้นทุนแบงก์ที่สูงกว่าปกติ เพราะเหตุผล 3 เรื่อง คือ 1.ประสิทธิภาพของแบงก์เอง 2.ความกลัวของแบงก์ชาติ ยังติดกับฝันร้ายปี 2540 จึงสร้างระบบควบคุมสูงเกินไป ต้นทุนค่าป้องกันจึงถ่ายโอนมาที่ต้นทุนแบงก์พาณิชย์ 3.เรื่องระบบกฎหมายที่ล่าช้า
ปัญหานี้จึงแยกส่วนไม่ได้ ต้องแก้ทั้งระบบ และมองให้ครบทุกองค์ประกอบ
ผมนึกถึงตอนที่ คุณฤทธิ์ ธีระโกเมน เริ่มทำเอ็มเคสุกี้ร้านแรก คุณสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ มีเงื่อนไขในการเปิดร้านเรื่องเดียว คือ ห้ามใช้เตาแก๊ส เพราะกลัวไฟไหม้ เอ็มเคสุกี้ต้องใช้เตาไฟฟ้าเท่านั้น แต่เตาไฟฟ้ามีปัญหา คือ ร้อนช้า ถ้าจำไม่ผิด คุณฤทธิ์บอกว่าต้องใช้เวลา 10 นาที น้ำจึงเดือด ลูกค้ารอไม่ได้ วิธีการแก้ปัญหาก็คือ พยายามทำให้เตาไฟฟ้าแรงขึ้น ก็ยังใช้เวลา 7 นาที ยังนานอยู่ คุณฤทธิ์บอกว่า ตอนเรียนคณะวิศวะ เขาสอนว่าให้มองปัญหาต้องมองให้ครบทุกองค์ประกอบ
เขาจึงตั้งคำถามขึ้นมาง่าย ๆ “น้ำเดือดเพราะอะไร” คำตอบก็คือ ความแรงของเตา และความร้อนของน้ำซุปที่เทลงไป นั่นคือ ที่มาของน้ำซุปร้อน ๆ ที่เทลงในหม้อ ทำให้น้ำซุปเดือดเร็วขึ้น
ครับ มองปัญหาต้องมองให้ครบทุกองค์ประกอบ เช่นเดียวกับเรื่องนี้ ให้มองเห็นหน้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี คนกู้ซื้อบ้าน ชาวบ้านทั่วไป เป็น “บรรทัดสุดท้าย” แล้วตั้งคำถามว่า ทำไมคนกลุ่มนี้จะกู้แบงก์ได้ถูกลง
อย่าเพิ่งเริ่มต้นที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งก่อน
https://www.prachachat.net/opinion-column-2/news-1482830
JJNY : “ชัยธวัช”เตือนหากยุบก้าวไกล│หมออ๋องโต้เดือด ร่วมม็อบกปปส.│หนุ่มเมืองจันท์ชี้ ต้องคิดให้ครบ│เม็กซิโกเกิดเหตุจลาจล
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4386583
ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ในรายการมีเรื่องมาเคลียร์ by ศิโรตม์ ทางยูทูบมติชนทีวี เชื่อว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล หลังจากนี้การเมืองจะไม่ปกติ ประเด็นในเรื่องม.112 และสถาบันพระมหากษัตริย์จะจุดชนวนความขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่
หมออ๋อง โต้เดือด ร่วมม็อบ กปปส. ลั่นถ้ามีหลักฐาน เป่านกหวีด ยินดีลาออก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8060742
หมออ๋อง โต้เดือด โลกออนไลน์ขุดอดีตให้หยุด โดนกล่าวหา ร่วมม็อบ กปปส. ลั่นถ้ามีหลักฐาน เป่านกหวีด ยินดีลาออก แนะให้ไปถามคนในรูป
กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะบรรดาคอการเมือง เมื่อ มีการนำภาพ หมออ๋อง นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเป็นธรรม และ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ในสมัยการชุมนุมของม็อบ กปปส. มาเผยแพร่ในโลกออนไลน์อีกครั้ง
โดยก่อนหน้านี้ หมออ๋อง เคยชี้แจงแล้วว่า ไม่เคยร่วมม็อบดังกล่าว เพียงแต่เข้าไปทำกิจกรรมเท่านั้น
โดย หมออ๋อง โพสต์ในเรื่องดังกล่าวว่า ถ้ามีหลักฐานว่าผมเป็นกปปส. เป่านกหวีด ผมยินดีลาออกครับ
หมออ๋อง นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเป็นธรรม และ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1
ต่อมามีผู้โพสต์ ใน X ตั้งคำถามกับ หมออ๋อง ว่า คุณเคยบอกว่ากลุ่มคุณไปร้องเพลงในม็อบ แต่ไปร้องแค่ม็อบ กปปส. นะ และสัญลักษณ์ กปปส. ก็ครบมือทั้งหมด
ใครจะเชื่อก็เชื่อไป แต่ดูยังไงก็แก๊ง กปปส. แล้วไม่ต้องลาออกหรอก ถึงขนาดยอมโดนไล่ออกเพื่อกอดเก้าอี้ไว้ก็คงไม่ออกเพราะเรื่องแค่นี้หรอก
ทำให้ หมออ๋อง โพสต์แจงระบุว่า ไปถามคนในรูปได้เลยครับ
หนุ่มเมืองจันท์ ชี้ แบงก์ชาติ-แบงก์พาณิชย์ ปมแบงก์กำไรเพิ่มขึ้น ต้องคิดให้ครบ ทำยังไงให้คนกู้ถูกลง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4386499
หนุ่มเมืองจันท์ ชี้ แบงก์ชาติ-แบงก์พาณิชย์ ปมแบงก์กำไรเพิ่มขึ้น ต้องคิดให้ครบ ทำยังไงให้คนกู้ถูกลง
เมื่อวันที่ 21 มกราคม นายสรกล อดุลยานนท์ คอลัมนิสต์ชื่อดัง เขียนบทความเกี่ยวกับธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารพาณิชย์ ผ่านคอลัมน์ “Market-think” ของนสพ.ประชาชาติธุรกิจ ระบุว่า
ตอนที่ผมโพสต์เรื่อง “แบงก์ชาติ-แบงก์พาณิชย์” ในเพจ
ผมเพียงรู้สึกแปร่ง-แปร่งกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แบงก์กำไรเพิ่มขึ้น ทั้งที่เศรษฐกิจไม่ดี, ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ ดอกเบี้ยเงินกู้สูง ส่วนต่างเยอะมาก, รายใหญ่กู้ง่าย ดอกเบี้ยถูก, เอสเอ็มอี ดอกเบี้ยแพง กู้ยาก, คนจะกู้ซื้อบ้าน แบงก์ก็ไม่ปล่อย, ดอกเบี้ยสูง ทำให้คนกู้ซื้อบ้านต้องจ่ายแพงขึ้น หรือเงินที่ผ่อนต่อเดือนตัดเงินต้นน้อยนิด ฯลฯ เป็นความรู้สึกเหมือนน้ำมันราคาแพง แต่บริษัทน้ำมันกำไรเพิ่ม
ตอนที่โพสต์ ผมนึกถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และคนทั่วไป คิดถึง “คน” ที่อยู่ “บรรทัดสุดท้าย” ของเรื่องนี้ ไม่ได้คิดว่าจะกดดันให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยนโยบาย ไม่ได้เสนอให้ปลดผู้ว่าการแบงก์ชาติ ไม่ได้คิดว่า ผู้บริหารแบงก์พาณิชย์ เป็นอาชญากร เพราะเขาทำธุรกิจตามปกติ
เพียงแต่ธุรกิจแบงก์เป็นธุรกิจที่เกี่ยวพันกับคนจำนวนมาก จึงต้องคำนึงถึงอารมณ์ความรู้สึกของสังคมด้วย เพราะปัญหาเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับหลายส่วน อย่างเช่น กำไรที่เกิดขึ้น NIM ของแบงก์พาณิชย์สูงขึ้น พร้อมกับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติ ถ้าแบงก์ชาติส่งสัญญาณว่า ขึ้นจาก 2.6% เป็น 3.2% มากไปแล้วนะ
หรือมีผู้ใหญ่วงการแบงก์คนหนึ่งบอกว่า ต้นทุนแบงก์ที่สูงกว่าปกติ เพราะเหตุผล 3 เรื่อง คือ 1.ประสิทธิภาพของแบงก์เอง 2.ความกลัวของแบงก์ชาติ ยังติดกับฝันร้ายปี 2540 จึงสร้างระบบควบคุมสูงเกินไป ต้นทุนค่าป้องกันจึงถ่ายโอนมาที่ต้นทุนแบงก์พาณิชย์ 3.เรื่องระบบกฎหมายที่ล่าช้า
ปัญหานี้จึงแยกส่วนไม่ได้ ต้องแก้ทั้งระบบ และมองให้ครบทุกองค์ประกอบ
ผมนึกถึงตอนที่ คุณฤทธิ์ ธีระโกเมน เริ่มทำเอ็มเคสุกี้ร้านแรก คุณสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ มีเงื่อนไขในการเปิดร้านเรื่องเดียว คือ ห้ามใช้เตาแก๊ส เพราะกลัวไฟไหม้ เอ็มเคสุกี้ต้องใช้เตาไฟฟ้าเท่านั้น แต่เตาไฟฟ้ามีปัญหา คือ ร้อนช้า ถ้าจำไม่ผิด คุณฤทธิ์บอกว่าต้องใช้เวลา 10 นาที น้ำจึงเดือด ลูกค้ารอไม่ได้ วิธีการแก้ปัญหาก็คือ พยายามทำให้เตาไฟฟ้าแรงขึ้น ก็ยังใช้เวลา 7 นาที ยังนานอยู่ คุณฤทธิ์บอกว่า ตอนเรียนคณะวิศวะ เขาสอนว่าให้มองปัญหาต้องมองให้ครบทุกองค์ประกอบ
เขาจึงตั้งคำถามขึ้นมาง่าย ๆ “น้ำเดือดเพราะอะไร” คำตอบก็คือ ความแรงของเตา และความร้อนของน้ำซุปที่เทลงไป นั่นคือ ที่มาของน้ำซุปร้อน ๆ ที่เทลงในหม้อ ทำให้น้ำซุปเดือดเร็วขึ้น
ครับ มองปัญหาต้องมองให้ครบทุกองค์ประกอบ เช่นเดียวกับเรื่องนี้ ให้มองเห็นหน้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี คนกู้ซื้อบ้าน ชาวบ้านทั่วไป เป็น “บรรทัดสุดท้าย” แล้วตั้งคำถามว่า ทำไมคนกลุ่มนี้จะกู้แบงก์ได้ถูกลง
อย่าเพิ่งเริ่มต้นที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งก่อน
https://www.prachachat.net/opinion-column-2/news-1482830