ขอเล่าปูมหลังก่อนนะคะ เราเปิดร้านเสริมสวย พวกทำเล็บ สักคิ้ว มาก่อนค่ะ แล้วอยู่มาจนกระทั่ง ช่วงปี 2563 ทางกทม.สั่งปิดร้าน เดือนแรกก็ยังชิวได้ พอต่อๆไป เริ่มไม่มีจะกิน เราและหุ้นส่วนตัดสินใจเปิดร้านขนมเปี๊ยะ เพื่อเลี้ยงปากท้องตัวเองและลูกน้องอีกหลายชีวิต (ก่อนที่จะเปิด ทดลองสูตรซะอ้วนกันทั้งร้าน ) แล้วก็สำเร็จ อร่อย ขายได้
ตอนแรกที่ออกขาย ขายเองตามตลาดนัดตามตึก ตลาดนัดกรมศุลกากร บอกเลยว่าอาย ไม่เคยขายของตลาดนัด แล้วเป็นอะไรไม่รู้ชอบเจอคนรู้จัก
เค้าก็ช่วยซื้อกัน ต้องขอบคุณเพื่อนๆที่เจอและอุดหนุนจึงอยู่รอดมา และปากต่อปาก ก็ขายดีขึ้น เลยมีเงินจ่ายลูกน้องที่ร้านเสริมสวยให้มาขายด้วย
แต่เรารู้เหมือนกันว่าลูกน้องก็อายแต่ยังอุตส่าห์มาช่วยกันประคับประคองร้านของพวกเรา เพื่อรอเปิดร้านเสริมสวยอีกครั้ง แต่โควิดก็ยังไม่จบสักที ร้านเสริมสวยปิดต่ออีก 3 เดือน เราก็ทำนู้นนี้มาขายเพิ่มค่ะ พวกขนมเปี๊ยะนั้นแหละค่ะ ก็จะมี เปี๊ยะลาวา เปี๊ยะเจ ต่างๆ ตามเทศกาล ขนมกลับพลิกให้เรามีเงินขึ้นมาอีกครั้ง
ขายดีมาก รายได้วันละ 20,000 - 70,000 บาท พวกเราก็โหมทำไม่ได้หลับได้นอน ซื้ออุปกรณ์ทำขนมเพิ่มอีกหลายอย่าง กะว่ารวยแน่คร่าวนี้ เด็กๆที่ร้านที่เป็นช่างทำเล็บ ทำคิ้ว ทำผม ต่อขนตา เราให้มาช่วยขายของหมด โดยที่ไม่ได้ถามความสมัครใจ และไม่ได้ประชุมชี้แจง คือ จริงๆ เค้าน่าจะไม่ชอบขายของ การขายดีครั้งนี้เราไม่ได้เฉลียวใจคิดเลยว่าในช่วงนี้มี โครงการคนละครึ่ง ซึ่งน่าจะทำให้เราขายดีในช่วงนั้น ลืมบอกไปว่าเราออกขายตามบูธตามห้างค่ะ
พอคนละครึ่งหมดกันละเท่านั้นรู้เรื่องค่ะ จากขายได้ดีๆ เหลือไม่ถึง 15,000 บาท/วัน ค่าเช่าบูธแต่ละที่ก็วันละ 3,000 - 7,500 บาทค่ะ ที่นี่ล่ะดวงตาเห็นธรรมค่ะ ความจริงคือ ถ้าราคาเต็มจริงๆ เราขายไม่ได้ จากออกบูธหลายที่ เหลือแค่ 2 ที่พอ คือ ที่ ไอคอนสยาม และ เซนทรัลพระราม 2 ที่อยู่ใกล้ร้านเสริมสวยเพื่อความสะดวกในการดูแลค่ะ (ค่าเช่าที่ไอคอน วันละ 3,000 บาท , ค่าเช่าที่เซนทรัล พระราม2 วันละ 2,800 บาท , ค่าแรงน้องขายของวันละ 1,000 บาท) ขี้แตกสิคะ ขายได้ 2 ที่รวมกันวันละ 20,000 บาท ยังไม่รวมค่าทุนขนม แถมขายไม่หมดก็ต้องทิ้งขนมอีก ประสบการณ์ที่ได้คือ การคำนวณราคาต้นทุนจริงๆ ไม่อยากให้เอาเปรียบผู้บริโภคนะคะ แต่การคิดราคาขายของขนมควรจะมีกำไรอย่างน้อย 60 เปอร์เซนต์ค่ะ เพราะค่าแป้งค่าน้ำมันพืช ราคาขึ้นเรื่อยๆ แล้วเราจะมาคิดราคาขนมเพิ่มเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ ค่าลูกน้อง และอย่าลืมค่าแรงตัวเอง
เอาเป็นว่าเข้าเนื้อได้ 3 เดือน ร้านขนมเปี๊ยะเจี๊ยะเพลินก็ตัดใจปิดกิจการลงอย่างสงบศพสีชมพู แต่ได้ทิ้งรอยแผลไว้มากมาย คือ อุปกรณ์ทำขนมที่ยังโคตะระใหม่ ใช้ไปได้ไม่ถึง 2 ปีค่ะ พร้อมสูตรทำขนมที่เป็นภาษาพม่าอยู่ แต่สูตรภาษาไทยหายไปไหนไม่รู้ ถ้าใครสนใจสูตรหรืออุปกรณ์หลังไมค์ได้นะคะ 555555
หลังจากที่กลับมาทำร้านเสริมสวย เชื่อไหมคะ ว่าช่างฝีมือดีๆ ของเราออกไป 3 คน เนื่องจากการบังคับเค้าไปขายขนมค่ะ ต้องมาหาลูกน้องใหม่อีก เพราะฉะนั้นการทำอะไรไม่ว่าร้านหรือธุรกิจคุณจะเป็นองค์กรใหญ่หรือเล็กๆ อย่างลืมสื่อสารกันนะคะ
สรุป ตอนนี้ร้าน Smith & John Beauty Center เปิดทำการเป็นปกติแล้วนะคะ ถ้าใครผ่านไปผ่านมาแถวนี้ มาใช้บริการได้ค่ะ
แชร์ประสบการณ์ เปิดร้านทำขนมเปี๊ยะ แล้วไปไม่รอดค่ะ