มีใครหนึ่ง ซึ่งคอย ร้อยกลอนส่ง
ฝากคำลง ท้ายวอน ฉะอ้อนหา
แต่บัดนี้ คลับคล้าย ได้เลือนลา
ศิลป์ภาษา ลับหาย ไม่เห็นมี
ใครคนหนึ่ง คนนั้น ฉันสุดปลื้ม
ไม่เคยลืม น้ำคำ พร่ำกล่าวชี้
ด้วยกลอนกานท์ ผ่านพจน์ บทกวี
ทุกวลี ล้วนสดับประทับลง
ร้อยอักษร สัมผัส เรียงชัดถ้อย
ผสานสร้อย สำนวน ชวนลุ่มหลง
หวานคลอเคล้า เย้ายวน ชพะวง
เคยส่งตรง มาถึง ยังซึ้งใจ
เป็นผลงาน ขานขับ ประทับจิต
จึงผูกมิตร ไมตรี มีมอบไว้
ด้วยศรัทธา ภาษาศิลป์ จินต์วิไล
ชื่นชอบใน บทกลอน เหมือนซ่อนคม
หรือหน่ายแล้ว คำอ้อน กลอนคนเหงา
คงเบื่อแล้ว กลอนเศร้า เฝ้าขื่นขม
ไปแอบชื่น กลอนกานท์ หวานภิรมย์
กลอนโศกซม เศร้าไฉน ไร้อาวรณ์
ก็คงมี แต่เรา เศร้าอย่างนี้
ดวงฤดี อ่อนไหว เกินถ่ายถอน
อักษรศิลป์ จินตนา ภาษากลอน
เหลือรอย ร้าวรอน อักษรคำ
เขาคนนั้น นั่นหนา จะรู้ไหม
ว่ามีใคร คนหนึ่ง พึงเพ้อพร่ำ
บทกลอนกานท์ สานถ้อย ร้อยลำนำ
ตราตรึงติด ทุกคำ ฉ่ำฤดี
ไม่ได้ซึ้ง เกินไกล ในถ้อยขาน
ใจผสาน เลอค่า กวีศรี
เพียงเคยคบ พบกัน ผ่านกวี
แต่วลี ทุกถ้อย ดั่งร้อยใจ.....
“สุนันท์ยา”
...ตรึงใจ...