เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ40กว่าปีที่แล้วเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่โดนทำของใส่
เข้าเรื่องเลยนะครับซึ่งคนที่มาเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัชื่อ ยายลี่ ยายแกเล่าว่า แกมีน้องสาวอยู่หนึ่งคน
ซึ่งก็ไม่ใช่น้องแท้ๆนะครับเป็นญาติที่บ้านอยู่ใกล้ๆกันเด็กคนนั้นชื่อแพรลี่กับแพรสนิทกันมากเพราะ
อายุที่ไล่เลี่ยกันและเล่นด้วยกันมาตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งแพรจะมีพี่ชายอยู่คนหนึ่งครับซึ่งเขาจะเป็นคน
ที่ออกแนวนักเลงหัวร้อนง่ายไม่ค่อยกลัวใครแกชื่อไผ่แกไปเรียนอยู่ที่ขอนแก่นซึ่งนานๆทีแกจะกลับ
ยายลี่เล่าว่ามีอยู่วันหนึ่งแกต้องไปสอบที่โรงเรียนแกจึงต้องไปเช้ากว่าที่เคยและปกติที่แกไปสอบ
ก็จะมีคนไปส่ง ซึ่งวันนี้ไม่มีใครว่างที่จะไปส่งแกเลยจึงทำให้แกต้องถีบจักรยานไปเอง แต่แกไม่ได้
ไปคนเดียวนะครับเพราะมีแพรที่ซ้อนท้ายไปด้วย ต้องบอกก่อนนะครับว่าทางที่จะไปโรงเรียนนั้น
ต้องผ่านทางเล็กๆ ที่ข้างทางมีแต่ป่าบวกสลับกับทุ่งนา ตอนนั้นที่แกบอกเวลาน่าจะประมาณตี5กว่าๆ
เกือบๆ6โมงเช้าแล้วครับแต่ด้วยที่แถวนั้นไม่มีไฟมันจึงมืดเหมือนตนกลางคืนไม่มีผิด ซึ่งถีบจักรยาน
มาเรื่อยๆจะมีทางแยกอยู่สองทางครับซึ่งทางที่หนึ่งจะไปขึ้นทางที่ชาวบ้านใช่กันปกติแต่มันจะไกล
กับถนนใหญ่มาก แต่ทางที่สองจะเป็นป่าทึบซึ่งทางนี้จะไปถึงถนนใหญ่ได้เร็วกว่ามาก แต่ผู้ใหญ่ใน
หมู่บ้านเตือนว่าเด็กๆไม่ควรไปทางนี้โดยไม่มีผู้ใหญ่ เพราะทางค่อนค่างซับซ่อนอาจหลงทางได้
ยายลี่เลยไปทางที่หนึ่ง พอกลับจากโรงเรียนก็ใกล้จะมืดแล้วครับปกติทั้งสองคนจะเลือกไปทาง
ที่หนึ่ง แต่วันนี้ไม่รู้คิดยังไงทั้งสองถึงเลือกไปทางที่สองคงเพราะอยากกลับถึงบ้านเร็วมั้งครับ
แต่ยายลี่ เคยมาทางนี้กับพออยู่เหมือนกันจึงพอรู้ทาง พอถีบจักรยานกันไปสักพักก็ไปเจอบ้าน
หลังหนึ่งครับ ซึ่งเป็นบ้านไม่เก่าๆ แต่ทั้งสองไม่ได้กลัวอะไรเพราะเห็นว่ามีคนจุดตะเกียงเอาไว้
หน้าบ้าน จึงคิดว่าน่าจะมีคนอยู่ พอจะพ้นบ้านหลังนั้น ก็มีเสียงแปลกๆออกมาจากในบ้านทำให้
ทั้งสองให้ไปมองในบ้านที่เปิดหน้าต่างอยู่พร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย ภาพที่เห็นคือมียายแก่ๆ
คนหนึ่งที่เนื้อตัวดูมอมแมมผมยาว กำลังมองมาที่ทั้งสองและยิ้มให้ ตอนนั้นยายลี่ไม่คิดอะไรครับ
ถีบจักรยานแบบไม่คิดชีวิตจนออกมาจากทางนั้นได้ จึงหันกลับไปมองแต่ก็ไม่มีอะไร ทันใดก็นั้น
ก็มีลุงแก่ๆคนหนึ่งขี่ซาเล้งผ่านมา ลุงคนนั้นจึงอาสาไปส่งเพราะเห็นว่ามืดแล้วพอมาถึงบ้านทั้งสอง
ก็แยกย้ายไปบ้านใครบ้านมัน พอรุ้งเช้ายายลี่ก็ไปที่บ้านของแพร คือจะชวนกันไปเล่นอะครับ
พอไปถึงเห็นยายพรคือแม่ของแพรนั้นแหละครับยายพรกำลังยืนดูแพรอยู่ พอยายลี่แกเดิน
เข้าไปดู ก็เห็นว่าแพรกำลังนอนร้องด้วยความเจ็บปวด ดิ้นไปดิ้นมาบนที่นอน พร้อมกับพูดว่า
ปวดท้อง ปวดท้อง!! แต่ทั้งสองก็คิดว่าแพรคงแกล้งเพราะไม่อยากออกไปช่วยงานยายพร
ยายพรแกก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็มีบ่นๆนิดหน่อยครับ พอสายๆก็ไม่เสียงรถเข้ามา พอยายลี่เดินไปดู
ปรากฏว่าเป็นไผ่ที่กลับมาจากขอนแก่นพร้อมกับตามีคือพ่อของเขานั้นแหละครับมาถึงก็หวัดดีแม่
และญาติๆคนอื่นที่มานั่งอยู่หน้าบ้านของเขา แต่ญาติหลายๆคนไม่รับไหว้ครับ เพราะเขาไม่ชอบ
ไผ่สาเหตุเพราะว่าก่อนที่ไผ่จะไปอยู่ขอนแก่นเขาเป็นคนขี้เมาและชอบทำร้ายแม่ตัวเองจึงทำให้
คนในหมู่บ้านไม่ชอบแก มีแต่แม่ที่ให้อภัยและไม่ยึดติดกับอดีตพอไผ่เดินเข้าไปในบ้านเขาได้ยิน
เสียงแปลกๆเป็นเหมือนเสียงผู้หญิงกำลังสวดมนต์ เสียงลอยมากับลม เสียงนี้ออกมาจากห้องของ
แพร พอไผ่เปิดประตูห้องแพรเข้าไปก็เห็นผู้หญิงที่ผมยาวเนื้อตัวมอมแมมกำลังนั่งค่อมแพรที่กำลัง
หลับอยู่และสวดมนต์ที่ก็ฟังไม่ออกว่าเป็นภาษาอะไร ไผ่ตะโกนออกไปว่าทำ
อะไร และกระชาก
หัวของผู้หญิงคนนนั้นร่วงลงมาจากตัวแพร คนที่อยู่ในบ้านบ้านได้ยินเสียง จึงรีบวิ่งมาดู ก็เห็นว่า
ผู้หญิงคนนั้นไม่พูดอะไร แต่ยืนหัวเราะและรีบวิ่งออกไปทางหน้าต่าง แต่คนที่ตกใจที่สุดคือลี่
เพราะผู้หญิงคนนั้นคือคนเดียวกับที่เขาเจอเมื่อวานในบ้านไม้เก่าๆ พอไผ่หันไปดูที่แพรเห็นว่าแพร
ตื่นขึ้นมานั่งและอวกออกมาเป็นเลือดพอดูที่ท้องของแพรไผ่เห็นว่าท้องของแพรบวมขึ้นแบบเห็น
ได้ชัด พอญาติๆที่มาดูเห็นก็รู้ทันทีว่านี้คือการที่โดนทำของใส่ พอไผ่รู้แบบนั้นก็รู้สึกโมโห พร้อมถาม
คนเหล่านั้นว่าอีแก่นั้นมันเป็นใคร และได้คำตอบมาว่ายายคนนันคือยายส่อง คนเล่นของที่หลายๆคนกลัว
พอไผ่ถามว่าบ้านมันอยู่ที่ไหนกลับไม่มีใครรู้ แต่ยายลี่กลับพูดขึ้นมาว่าหนูรู้ และเล่าทุกอย่างที่เขาเจอ
เมื่อวาน ให้ไผ่ฟังพอรู้อย่างนั้น ไผ่เเละตามีรีบขึ้นรถไปที่บ้านของยายส่อง พอไปถึงเห็นว่ายายส่องกำลัง
นั่งสวดมนต์อยู่ ไผ่ไม่พูดพร่ำทำเพลง เตะเข้าไปที่หน้าของยายส่อง และจีบหัวของยายส่องขึ้นมาพร้อมกับ
ถามว่า ทำ
อะไรน้องกู ยายส่องหัวเราะและพูดว่ากูอยากให้มันตายกูอิจฉาที่มันกูอยากให้มันตายก่อนกู
ลุงไผ่บอกว่าเอาของออกจากน้องกูเดี่ยวนี้ ยายส่องก็บอกว่ากูไม่ทำ ไผ่เลยบอกไปว่าถ้าไม่ทำกูจะฆ่า
จะเอาวิญใส่หม้อไม่ให้ไปพุดไปเกิด พอโดนขู่ยายส่องก็เริ่มกลัวสุดท้ายตึงยอมเอาของออกให้ พอเอาของออกแล้ว
ไผ่ก็บอกว่าถ้ากูไม่ฆ่าก็ไปทำแบบนี้กับคนอื่น พร้อมกับหยิบมีดหมอที่พกมาปาดคอของยายส่อง จนตาย
พอกลับไปถึงบ้าน เห็นว่าแพรท้องอ้วกออกมาและในอ้วกมี ตะปูและเส้นผมอยู่ พอยายพรถามว่าไปทำอะไรมา
ไผ่ยิ้มและพูดว่าช่วยน้องไงครับแม่ จบ........
โดนของ
เข้าเรื่องเลยนะครับซึ่งคนที่มาเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัชื่อ ยายลี่ ยายแกเล่าว่า แกมีน้องสาวอยู่หนึ่งคน
ซึ่งก็ไม่ใช่น้องแท้ๆนะครับเป็นญาติที่บ้านอยู่ใกล้ๆกันเด็กคนนั้นชื่อแพรลี่กับแพรสนิทกันมากเพราะ
อายุที่ไล่เลี่ยกันและเล่นด้วยกันมาตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งแพรจะมีพี่ชายอยู่คนหนึ่งครับซึ่งเขาจะเป็นคน
ที่ออกแนวนักเลงหัวร้อนง่ายไม่ค่อยกลัวใครแกชื่อไผ่แกไปเรียนอยู่ที่ขอนแก่นซึ่งนานๆทีแกจะกลับ
ยายลี่เล่าว่ามีอยู่วันหนึ่งแกต้องไปสอบที่โรงเรียนแกจึงต้องไปเช้ากว่าที่เคยและปกติที่แกไปสอบ
ก็จะมีคนไปส่ง ซึ่งวันนี้ไม่มีใครว่างที่จะไปส่งแกเลยจึงทำให้แกต้องถีบจักรยานไปเอง แต่แกไม่ได้
ไปคนเดียวนะครับเพราะมีแพรที่ซ้อนท้ายไปด้วย ต้องบอกก่อนนะครับว่าทางที่จะไปโรงเรียนนั้น
ต้องผ่านทางเล็กๆ ที่ข้างทางมีแต่ป่าบวกสลับกับทุ่งนา ตอนนั้นที่แกบอกเวลาน่าจะประมาณตี5กว่าๆ
เกือบๆ6โมงเช้าแล้วครับแต่ด้วยที่แถวนั้นไม่มีไฟมันจึงมืดเหมือนตนกลางคืนไม่มีผิด ซึ่งถีบจักรยาน
มาเรื่อยๆจะมีทางแยกอยู่สองทางครับซึ่งทางที่หนึ่งจะไปขึ้นทางที่ชาวบ้านใช่กันปกติแต่มันจะไกล
กับถนนใหญ่มาก แต่ทางที่สองจะเป็นป่าทึบซึ่งทางนี้จะไปถึงถนนใหญ่ได้เร็วกว่ามาก แต่ผู้ใหญ่ใน
หมู่บ้านเตือนว่าเด็กๆไม่ควรไปทางนี้โดยไม่มีผู้ใหญ่ เพราะทางค่อนค่างซับซ่อนอาจหลงทางได้
ยายลี่เลยไปทางที่หนึ่ง พอกลับจากโรงเรียนก็ใกล้จะมืดแล้วครับปกติทั้งสองคนจะเลือกไปทาง
ที่หนึ่ง แต่วันนี้ไม่รู้คิดยังไงทั้งสองถึงเลือกไปทางที่สองคงเพราะอยากกลับถึงบ้านเร็วมั้งครับ
แต่ยายลี่ เคยมาทางนี้กับพออยู่เหมือนกันจึงพอรู้ทาง พอถีบจักรยานกันไปสักพักก็ไปเจอบ้าน
หลังหนึ่งครับ ซึ่งเป็นบ้านไม่เก่าๆ แต่ทั้งสองไม่ได้กลัวอะไรเพราะเห็นว่ามีคนจุดตะเกียงเอาไว้
หน้าบ้าน จึงคิดว่าน่าจะมีคนอยู่ พอจะพ้นบ้านหลังนั้น ก็มีเสียงแปลกๆออกมาจากในบ้านทำให้
ทั้งสองให้ไปมองในบ้านที่เปิดหน้าต่างอยู่พร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย ภาพที่เห็นคือมียายแก่ๆ
คนหนึ่งที่เนื้อตัวดูมอมแมมผมยาว กำลังมองมาที่ทั้งสองและยิ้มให้ ตอนนั้นยายลี่ไม่คิดอะไรครับ
ถีบจักรยานแบบไม่คิดชีวิตจนออกมาจากทางนั้นได้ จึงหันกลับไปมองแต่ก็ไม่มีอะไร ทันใดก็นั้น
ก็มีลุงแก่ๆคนหนึ่งขี่ซาเล้งผ่านมา ลุงคนนั้นจึงอาสาไปส่งเพราะเห็นว่ามืดแล้วพอมาถึงบ้านทั้งสอง
ก็แยกย้ายไปบ้านใครบ้านมัน พอรุ้งเช้ายายลี่ก็ไปที่บ้านของแพร คือจะชวนกันไปเล่นอะครับ
พอไปถึงเห็นยายพรคือแม่ของแพรนั้นแหละครับยายพรกำลังยืนดูแพรอยู่ พอยายลี่แกเดิน
เข้าไปดู ก็เห็นว่าแพรกำลังนอนร้องด้วยความเจ็บปวด ดิ้นไปดิ้นมาบนที่นอน พร้อมกับพูดว่า
ปวดท้อง ปวดท้อง!! แต่ทั้งสองก็คิดว่าแพรคงแกล้งเพราะไม่อยากออกไปช่วยงานยายพร
ยายพรแกก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็มีบ่นๆนิดหน่อยครับ พอสายๆก็ไม่เสียงรถเข้ามา พอยายลี่เดินไปดู
ปรากฏว่าเป็นไผ่ที่กลับมาจากขอนแก่นพร้อมกับตามีคือพ่อของเขานั้นแหละครับมาถึงก็หวัดดีแม่
และญาติๆคนอื่นที่มานั่งอยู่หน้าบ้านของเขา แต่ญาติหลายๆคนไม่รับไหว้ครับ เพราะเขาไม่ชอบ
ไผ่สาเหตุเพราะว่าก่อนที่ไผ่จะไปอยู่ขอนแก่นเขาเป็นคนขี้เมาและชอบทำร้ายแม่ตัวเองจึงทำให้
คนในหมู่บ้านไม่ชอบแก มีแต่แม่ที่ให้อภัยและไม่ยึดติดกับอดีตพอไผ่เดินเข้าไปในบ้านเขาได้ยิน
เสียงแปลกๆเป็นเหมือนเสียงผู้หญิงกำลังสวดมนต์ เสียงลอยมากับลม เสียงนี้ออกมาจากห้องของ
แพร พอไผ่เปิดประตูห้องแพรเข้าไปก็เห็นผู้หญิงที่ผมยาวเนื้อตัวมอมแมมกำลังนั่งค่อมแพรที่กำลัง