วิเคราะห์คดีวันที่ 31 ม.ค. กรณี “ก้าวไกล” อาการหนักกว่ากรณี “พิธา”
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4383761
 
 
อธึกกิต แสวงสุข หรือใบตองแห้ง สนทนา ในรายการ The Politics ถึงการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 24 ม.ค.2567 กรณีของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หากพิธาไม่รอด จะมีการตั้งป้อมของผู้ที่ไม่พอใจ และอาจจะก่อกระแสความไม่พอใจของผู้สนับสนุนของพรรคก้าวไกลต่อในวันที่ 31 ซึ่งจะมีคำวินิจฉัยของพรรคก้าวไกล ซึ่งมองว่าคดีในวันที่ 31 ม.ค.น่าจะหนักกว่า และจะเป็นปาฏิหารณ์มาก หากการหาเสียง แก้ ม.112 ไม่ผิดกฏหมายอาญา ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้

---

 
สัมภาษณ์พิเศษ “ณัฐชา” จากคดี”ป้าบัวผัน” ถึงคลุมถุงดำ “ลุงเปี๊ยก” สะท้อนวิกฤติศรัทธา
https://www.matichon.co.th/clips/news_4384351
 
สัมภาษณ์พิเศษ ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ.การสวัสดิการสังคม สภาฯ ถึงกรณีบังคับ “ลุงเปี๊ยก” รับสารภาพฆ่า “ป้าบัวผัน” สะท้อนวิกฤติศรัทธาการทำงานองค์กรตำรวจ เผยไม่มีกล้องวงจรปิด ลุงเปี๊ยกคงติดคุกไปแล้ว เผยจ่อรื้อกฎหมายเอาผิดเด็กที่ทำผิดซ้ำซาก ชี้บางเคสต้องรับโทษเท่าผู้ใหญ่ ลั่น กมธ.พร้อมช่วยผู้เสียหายกรณีอื่นๆ ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้

---

 
จิรัฏฐ์ แซะกองทัพมีปัญหาแล้ว ถ้าไม่รู้ทหารมีไว้ทำไม เชื่อจ้างยูทูบเบอร์ผ่านคนกลาง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8059287

จิรัฏฐ์ แซะ กองทัพ มีปัญหาแล้ว ถ้าตอบไม่ได้ตัวเองมีไว้ทำไม เชื่อจ้างยูทูบเบอร์ ผ่านบริษัทคนกลาง ‘พลอยไพลิน’อยู่ดีๆ คงไม่ทำ เผยกำลังรวบรวมหลักฐาน ชี้ผบ.ทร.แจงเองใน กมธ.งบ มีขอเงินจิตวิทยา ใช้คำว่า ‘ไอโอ’ ชัด
 
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2567 นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีดราม่ายูทูบเบอร์ชื่อดัง พลอยไพลิน ทำคลิปวิดีโอตามติดชีวิตทหารชายแดน ว่า ตนคิดว่ากองทัพน่าจะรู้สึกไม่ดีกับคำว่า ทหารมีไว้ทำไมมาก เพราะมีทั้งการพยายามทำคลิปวิดีโอของกองทัพเอง และจ้างบริษัทโปรดักชัน ตนพอจะมีหลักฐานอยู่บ้างว่ากองทัพไปจ้างบริษัทคนกลาง และบริษัทคนกลางไปตะเวนจ้างต่อ ซึ่งตนคิดว่ากองทัพควรจะต้องทำความเข้าใจกับคำนี้ใหม่
 
“ถ้าหน่วยงานไหนในประเทศไทยที่ไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ว่าตัวเองมีไว้ทำไม ผมว่ามีปัญหาแล้ว ถ้ากองทัพมีประโยชน์กับประเทศนี้จริง ต้องตอบได้ โดยที่ไม่ต้องให้คนอื่นมาตอบให้ เขาต้องตอบได้เอง” นายจิรัฏฐ์ กล่าว
 
เมื่อถามว่าเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องร้อนระอุ มีการดีเบตกันในทวิตเตอร์ คำว่าทหารมีไว้ทำไม บริบทของฝั่งก้าวไกลเป็นอย่างไร นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า เราตั้งคำถาม เพราะเราไปทำเรื่องของกองทัพ ตนเคยพูดเรื่องธุรกิจทหาร เคยใช้คำว่าทหารมีไว้ทำไม เพื่อตั้งคำถามว่าถ้าไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง แล้วเราจะมีทหารไว้ทำไม
 
เราอยากมีทหารทำหน้าที่ของตัวเองคือปกป้องอธิปไตยของประเทศ แต่ขณะที่อธิปไตยของประเทศไม่ได้รับการปกป้องอย่างดีแบบที่ทหารพูด แต่กลับไปทำธุรกิจ ทำเสนาพาณิชย์เต็มไปหมด
 
“ผ่านเงินนอกงบประมาณปีหนึ่งเป็นหลักหมื่นล้าน ไม่เคยส่งเข้าคลังสักบาทเดียว คุณปล่อยให้เครื่องบินพม่าเข้ามากลับตัวในบ้านเราได้ ปล่อยให้ทหารพม่าที่ตาก พกอาวุธเข้ามาจ่ายตลาด ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวได้ นอนไม่หลับกันได้ ไม่เคยเห็นปกป้องอธิปไตยอย่างที่คุณว่าเลย พอเป็นธุรกิจกองทัพ คุณทำเต็มที่เหลือเกิน” นายจิรัฏฐ์ กล่าว
 
เมื่อถามถึงกรณีล่าสุดกองทัพบก (ทบ.) ยืนยันว่าพลอยไพลิน ไม่ใช่ไอโอกองทัพ และกองทัพอำนวยความสะดวกกับทุกสื่อ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ปกติกองทัพก็พยายามทำพีอาร์อยู่แล้ว ทั้งสื่อทีวี สื่ออะไร กองทัพเป็นคนเชิญเข้าไปทั้งนั้น อยู่ดีๆ เราคงไม่ไปทำคอนเทนต์แบบนี้ ซึ่งพวกที่เป็นยูทูบเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ ตนพยายามหาหลักฐานอยู่ว่ามีการจ้างงานกันอย่างไร ไม่ได้จ้างโดยกองทัพโดยตรงแน่ๆ ผ่านคนกลางแน่ๆ
 
นายจิรัฏฐ์ ย้ำว่า ตนกำลังรวบรวมข้อมูลที่สามารถเอาออกมาเปิดเผยได้ เท่าที่ทราบมีหลายคนอยู่ในขบวนการเอามาบอก ต้องหาวิธีป้องกันด้วย เพื่อให้พวกเขาปลอดภัย และเท่าที่ตนเข้าใจ งบประมาณพวกนี้ไม่ได้เขียนตรงๆ แต่มีการเขียนคำว่าปฏิบัติการไอโอ
 
“อย่างของกองทัพเรือเขียนชัดเจนเลยว่าปฏิบัติการจิตวิทยา ผบ.ทร. ก็พูดเองเลยว่าทีมไอโอเขาเป็นคนทำเอง และวันที่มาชี้แจงในคณะกรรมาธิการงบประมาณ ผบ.ทร. พูดเองเลยว่าทีมไอโอที่ทำ ไม่ใช่ทีม Negative เหมือนกับพูดแซะพรรคก้าวไกลด้วยซ้ำว่า ไม่ได้เป็นไอโอแบบ Negative แบบที่คุณทำกัน แต่เป็นการทำไอโอเชิงบวก ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าเอาอะไรมาตอบ เพราะคำว่าไอโอ มันคือการบิดเบือนข้อมูล บิดเบือนความจริง เพราะอะไรที่มันดีอยู่แล้ว คุณต้องใช้คำว่าพีอาร์ ประชาสัมพันธ์ ไม่จำเป็นต้องทำไอโอ” นายจิรัฏฐ์ กล่าว
 
เมื่อย้ำว่าใช้คำว่าไอโอเลยจริงหรือไม่ นายจิรัฏฐ์ ตอบยืนยันว่า ใช่

---

SME อยู่ในภาวะถดถอย รถ EV จีน ทุบผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยทรุด!
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/383329

นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม เปิดเผยว่า ธุรกิจเอสเอ็มอี ยังอยู่ในภาวะถดถอย หลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวนาน เกิดความเสียหายวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งในปลายเดือนนี้จะเชิญ 10 สมาคมชิ้นส่วนยานยนต์และที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทย สมาคมไทยคอมโพสิท มาหารือร่วมกัน เพื่อสะท้อนปัญหา และหาทางช่วยเหลือ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย ซึ่งไม่ใช่แค่ผลกระทบจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง แต่อีกส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนผู้เล่นในอุตสาหกรรม จากญี่ปุ่นเป็นจีน ซึ่งจีนไม่ใช้ซัพพลายเออร์ในไทย แต่เลือกใช้จากผู้ผลิตในจีนเอง ยอมรับว่า บางรายอาจถึงขั้นต้องปิดตัวและปรับเปลี่ยนไปทำธุรกิจอื่นเพื่อความอยู่รอด