JJNY : วิเคราะห์ปมการเมือง กรณีจับศรีสุวรรณ│ก้าวไกลกังขาปล่อยเรือจมมาเป็นปี│จับตา"เวียดนาม"ส่งออก│ศาลโลกสั่งอิสราเอล

The Politics วิเคราะห์ปมการเมืองเบื้องหลัง กรณีจับศรีสุวรรณ พลาดเหยียบเท้าใคร?
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4396301

 
รายการ The Politics x ศิโรตม์ โดย เอกภัทร์ เชิดธรรมธร และ ศิโรตม์ คล้ามไบูลย์ วิเคราะห์กรณี 4 หน่วยงานสนธิกำลัง ดำเนินคดีกับ ศรีสุวรรณ จรรยา และเจ๋ง ดอกจิก มองประเด็นการเมืองเบื้องหลัง และโอกาสรอดของ “นักร้อง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



ก้าวไกล จี้ สุทิน-ทร. แจงกู้เรือหลวงสุโขทัยให้ชัด กังขาปล่อยเรือจมมาเป็นปี ไร้ความคืบหน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_4396495
 
ก้าวไกล จี้ถามกองทัพเรือ ยังรักษาสัญญาเปิดเผยรายงานสอบสวนกรณีเรือหลวงสุโขทัยล่มหรือไม่ หลัง ผบ.ทร. บอกอาจไม่กู้เรือแล้ว กังขาปล่อยเรือจมมาเป็นปี หากไม่เชี่ยวชาญกู้เรือ ทำไมไม่ติดต่อสหรัฐฯ ผู้ผลิตเรือตั้งแต่แรก 
 
เมื่อวันที่ 27 มกราคม นายชยพล สท้อนดี ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วย นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งคำถามไปยังกองทัพเรือ สืบเนื่องจากกรณีผู้บัญชาการทหารเรือให้ความเห็นว่า อาจไม่มีการกู้เรือหลวงสุโขทัยแล้ว หลังสหรัฐอเมริกาจะดำเนินการตรวจสอบเรือที่อับปาง

นายชยพล กล่าวว่า คณะที่ปรึกษาทางการทหารสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย (จัสแมกไทย) ได้ส่งจดหมายเตือนกองทัพตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 66 และส่งอีกครั้งเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ว่ากองทัพไทยมีหน้าที่ส่งรายงานข้อเท็จจริงกรณีการอับปางของเรือหลวงสุโขทัย ซึ่งทาง ผบ.ทร. ก็เพิ่งยืนยันในการประชุม กมธ.งบประมาณ 2567 ว่าการกู้เรือหลวงสุโขทัยมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการสืบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการอับปาง อีกทั้งการอับปางของเรือได้ขวางเส้นทางการเดินเรือ จึงจำเป็นต้องกู้ขึ้นมาเพื่อเปิดเส้นทาง และกองทัพตระหนักถึงความสำคัญของผู้สูญหายทั้ง 5 ราย เชื่อว่าหากมีการกู้เรือ จะทำให้พบซากศพของกำลังพลที่สูญหาย แต่ทำไมวันนี้กลับล้มเลิกความตั้งใจในการกู้เรือ ทั้งที่ยังมีความจำเป็นอยู่
 
หากมีการพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกองทัพเรือไทยและสหรัฐฯ จริง เหตุใดจึงต้องรอเป็นปีกว่าจะยอมให้สหรัฐฯ เข้ามามีส่วนร่วมกู้เรือ หากไม่มีการเปิดเผยเอกสารจากจัสแมกไทยโดยพรรคก้าวไกล เหตุใดที่ผ่านมากองทัพเรือไม่เคยสื่อสารใด ๆ เกี่ยวกับสหรัฐฯ ทั้งสิ้น” นายชยพล กล่าว
 
นายจิรัฏฐ์ ตั้งคำถามต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า พรรคก้าวไกลทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้หลายครั้ง ผ่านการตั้งกระทู้ถามสด ผ่านการอภิปรายการแถลงนโยบาย ว่ากองทัพเรืออาจจะไม่กู้เรือ รมว.กลาโหม ก็ตอบรับคำเตือนของพรรคก้าวไกลว่าจะไปตรวจสอบ ตนจึงสงสัยว่าจนถึงวันนี้ กองทัพเรือยังมีความชัดเจนในการกู้เรือหรือไม่ และเหตุใดคนระดับ ผบ.ทร. จึงพูดกลับไปกลับมา หากไม่กู้ซากเรือขึ้นมา จะทราบสาเหตุที่แท้จริงของการอับปางหรือไม่
 
นายจิรัฏฐ์ ยังตั้งคำถามทิ้งท้าย ว่า ผบ.ทร. ได้ชี้แจงใน กมธ.งบประมาณฯ ว่าจะเปิดเผยรายงานการสืบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดหลังกู้เรือที่อับปางแล้ว คำสัญญานี้ยังมีผลหรือไม่หากกองทัพเรือไม่กู้เรือแล้ว และ ผบ.ทร. กับ รมว.กลาโหม ได้พูดคุยกันอย่างใกล้ชิดหรือไม่ ทำไมออกมาให้ข่าวคนละทิศคนละทางตลอดเวลา ประชาชนจะมีสิทธิได้รู้ความจริงในฐานะผู้เสียภาษีหรือไม่ และ กองทัพเรือมีความเชี่ยวชาญในการกู้เรือจริงหรือไม่ หากไม่เหตุใดจึงไม่ติดต่อประสานงานไปยังสหรัฐฯ ในฐานะผู้ผลิตเรือตั้งแต่แรก ทำไมจึงมาพูดเรื่องดังกล่าวหลังพรรคก้าวไกลเปิดเผยเอกสารจากจัสแมกไทย
 


จับตา "เวียดนาม" รุกปรับการผลิต ส่งออกสินค้าเกษตรสีเขียว
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1110392

"พาณิชย์" เตือนผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรของไทย จับตา "เวียดนาม" รุกปรับการผลิต ส่งออกสินค้าเกษตรสีเขียว ขับเคลื่อนเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกและในประเทศ ตั้งเป้า ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นศูนย์ภายใน ปี 2593
 
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง 
 
ล่าสุดได้รับรายงานจาก นางสาวธนียา ฟูเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย เวียดนาม ถึงการปรับโครงสร้างการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดโลก เพื่อเป็นข้อมูลให้กับผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทยได้เตรียมความพร้อมรับมือการแข่งขันที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต 
 
ทูตพาณิชย์ ได้รายงานว่าขณะนี้รัฐบาลเวียดนามได้ให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างไปสู่เกษตรกรรมหมุนเวียน เกษตรสีเขียว  โดยได้รับการยืนยันจากนาย Le Minh Hoan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ที่ระบุว่า เวียดนามกำลังปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มการบริโภคของทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับการผลิตที่ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม การดูแลสุขภาพ 
 
ทำให้รัฐบาลมีนโยบายการส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรสีเขียว และสร้างความร่วมมือกันในการบรรลุเป้าหมายการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นศูนย์ ภายใน ปี 2593
          
สำหรับแนวทางการดำเนินการ เวียดนาม ได้มีการพัฒนาการปลูกข้าวคุณภาพสูง และมีการปล่อยคาร์บอนต่ำ ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง (ภาคใต้) และยังได้รับการประเมินจากองค์กรระหว่างประเทศว่าเป็นโครงการแรกในลักษณะนี้ในโลก และเป็นต้นแบบการส่งเสริมการเกษตรสีเขียวในอนาคต 

ขณะเดียวกัน นาย Nguyen Nhu Cuong (เหงียน นู เกือง) อธิบดีกรมการผลิตพืชผลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนาม ได้ยืนยันว่าอุตสาหกรรมการเกษตรยังได้ปรับปรุงการผลิตผลผลิตทางการเกษตรตั้งแต่การเริ่มวิจัยพันธุ์พืชไปจนถึงการพัฒนาการเพาะปลูก ที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วย 
 
และยังตั้งเป้าหมายที่จะส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนในภาคการเกษตร เพื่อผลพลอยได้จากการผลิตมาบำบัดและนำกลับมาใช้ใหม่ด้วย นอกจากนี้ เวียดนามกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและควบคุมการใช้ยาฆ่าแมลงในภาคเกษตรกรรม 

โดยยาฆ่าแมลงทางชีวภาพจะอยู่ร้อยละ 30 ของจำนวนใบอนุญาตทั้งหมดในเวียดนาม และปุ๋ยอินทรีย์ร้อยละ 30 ของจำนวนทั้งหมดที่ใช้ในการผลิตทางการเกษตร
 
โดยในปี 2593 เวียดนามคาดว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่เกษตรกรรมจะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และมีวัตถุดิบร้อยละ 100 ที่รวมอยู่ในผลพลอยได้จากการเกษตรและของเสียจากครัวเรือนจะถูกนำมาใช้เพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์
     
เวียดนามกำลังเร่งแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศ ซึ่งเป็นผลพวงจากเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดปัญหามลพิษ โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการปรับเปลี่ยนมาเป็นเศรษฐกิจสีเขียวถือเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกและในประเทศ 
 
การที่เวียดนามเร่งการปรับโครงสร้างไปสู่เกษตรกรรมหมุนเวียนและสีเขียวจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของเวียดนามมีขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกเพิ่มสูงมากขึ้น
 
ซึ่งผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรของไทยจะต้องจับตาและติดตามการพัฒนาของเวียดนามอย่างใกล้ชิด และเร่งพัฒนาการผลิตภาคการเกษตรของไทย เพื่อมุ่งไปสู่ภาคการผลิตสีเขียวด้วย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย” นายภูสิต กล่าว
           
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่