JJNY : “ก้าวไกล”เปิดข้อมูลกองทัพ│เอลนีโญกำลังแรง│ดัชนีเชื่อมั่นผู้ประกอบการร่วงติดกัน 5 ไตรมาส│นาโตซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุด

“ชยพล ก้าวไกล”เปิดข้อมูลกองทัพมีการจ่ายโบนัสกำลังพล ถามสังคมแบบนี้มีได้ด้วยหรือ??
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4383111
 
 
ชยพล สท้อนดี สส.ก้าวไกล สนทนาในรายการ The Politics กรณีงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ที่ก่อนหน้านี้ขอข้อมูลไปแต่ไม่ค่อยได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ ที่มีการระบุว่ามีการจ่ายโบนัสให้ด้วย เพราะมีการใช้ทรัพยากรของประเทศ อยากถามประชาชนว่ากรณีแบบนี้ สามารถจ่ายโบนัสได้ด้วยหรือไม่

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


อุตุฯ แจ้งเอลนีโญกำลังแรง ส่อวิกฤตร้อนแล้งฝนน้อย เตือนปชช. ระวังร้อนจัด-พายุฤดูร้อน 
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8058149

นครราชสีมา อุตุนิยมวิทยาโคราช แจ้งเอลนีโญสภาวะกำลังแรง ส่อวิกฤต ร้อน แล้ง ฝนน้อย เตือนประชาชน ช่วงเปลี่ยนผ่านฤดู ระวังอากาศร้อนจัด เกิดพายุฤดูร้อน
 
19 ม.ค. 67 – สถานีอุตุนิยมวิทยานครราชสีมา โดยนางกัลยา กองเกาะ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการสถานีฯ ได้ติดตามเฝ้าระวังปรากฏการณ์เอลนีโญ/ลานีญาในพื้นที่ดูแล ซึ่งผลการเฝ้าระวังฯ ช่วงเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
  
พบว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ปรากฏการณ์เอนโซ่ยังอยู่ในสภาวะเอลนีโญกําลังแรง ซึ่งเอนโซ่ (ENSO) เป็นคำที่ใช้อธิบายความผันแปรของปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของอุณหภูมิผิวน้ำทะเล บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตร และการกวัดแกว่งของความกดอากาศในซีกโลกใต้
เป็นกลไกทางกายภาพของการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) และลานีญา (La Nina) ซึ่งเอลนิโญ คือสภาวะของปรากฏการณ์เอนโซ่ที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรอุ่นขึ้นผิดปกติ ส่งผลให้บ้านเราเกิดความแห้งแล้ง ปริมาณฝนต่ำกว่าปกติ และอุณหภูมิสูงกว่าปกติ
  
เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติและแบบจําลองเชิงพลวัต ยังพบอีกว่า ปรากฏการณ์เอนโซที่อยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังแรงนี้ จะอ่อนลงเป็นเอลนีโยกำลังปานกลาง และต่อเนื่องถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน 2567
 
จากนั้น จะอยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังอ่อนไปจนถึงช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2567 ซึ่งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย คาดว่า ช่วงเดือนธันวาคม 2566 ถึงกุมภาพันธ์ 2567 ปริมาณฝน บริเวณประเทศไทยมีค่าต่ำกว่าค่าปกติ ส่วนอุณหภูมิจะสูงกว่าค่าปกติ ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาจะเฝ้าติดตามสถานการณ์ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาอย่างใกล้ชิด และรายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะๆ
 
อย่างไรก็ตาม การคาดหมายลักษณะอากาศของประเทศไทย ในช่วงเดือนมกราคม 2567 – มีนาคม 2567 ในระยะ 3 เดือนนี้ คาดว่า ปริมาณฝนรวมบริเวณประเทศไทยตอนบนส่วนใหญ่จะต่ำกว่าค่าปกติ ร้อยละ 50 โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปริมาณฝนเฉลี่ยอยู่ที่ 20 – 50 มิลลิเมตร ซึ่งค่าปกติอยู่ที่ 67 มิลลิเมตร
 
ขณะที่จังหวัดนครราชสีมา ค่าฝนเฉลี่ยปกติจะอยู่ที่ 22.5 มิลลิเมตร ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทย ส่วนใหญ่จะมีค่าสูงกว่าค่าปกติ ประมาณ 1.0 – 1.5 องศาเซลเซียส โดยจะมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยทั้งประเทศ ประมาณ 33 – 35 องศาเซลเซียส จากค่าปกติ 33.3 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิตํ่าสุดเฉลี่ยทั้งประเทศ อยู่ที่ 22 – 24 องศาเซลเซียส จากค่าปกติ 22.0 องศาเซลเซียส ซึ่งจังหวัดนคราชสีมา ค่าปกติอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย อยู่ที่ 33.4 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 21.3 องศาเซลเซียส
  
ดังนั้น ในช่วงเดือนมกราคมนี้ จึงมีอากาศหนาวจากอิทธิพลของบริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตลอดเดือน และอุณหภูมิส่วนใหญ่ของประเทศจะลดลงต่ำสุดในเดือนนี้ กับมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป
โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และบริเวณยอดเขาสูง รวมถึงจะมีหมอกในตอนเช้า ส่วนปริมาณฝนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางจะน้อยกว่า 10 มิลลิเมตร ซึ่งค่าฝนเฉลี่ยปกติจะอยู่ที่ 8.6 มิลลิเมตร
  
ส่วนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปกติอยู่ในช่วงเปลี่ยนจากฤดูหนาวเป็นฤดูร้อน เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศ ไทยเริ่มอ่อนกำลังลง สภาพอากาศทั่วไปยังคงมีอากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า ยกเว้นบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดในบางพื้นที่ ส่วนมากในระยะครึ่งแรกของเดือน
 
จากนั้นอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น เนื่องจากลมฝ่ายใต้ ซึ่งเป็นลมร้อนเริ่มพัดเข้าปกคลุมแทนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นการเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนตั้งแต่ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา ค่าปกติอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย จะอยู่ที่ 33.5 องศาเซลเซียส และต่ำสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 21.1 องศาเซลเซียส
  
และสำหรับเดือนมีนาคม 2567 จะมีอากาศร้อนอบอ้าวและแห้ง ความชื้นในอากาศมีน้อย และมีอากาศร้อนจัดเป็นบางวัน โดยเฉพาะบริเวณประเทศไทยตอนบน แต่ในบางช่วงอาจมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปะทะกับมวลอากาศร้อนที่ปกคลุมประเทศไทย ทำให้เกิดพายุฤดูร้อน
โดยเฉพาะบริเวณประเทศไทยตอนบน ซึ่งพายุฤดูร้อนมักเกิดในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นบริเวณแคบ แต่จะมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นฉับพลัน และมีความรุนแรงถึงขั้นสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้
  
แต่ปริมาณฝนที่ตกในช่วงเดือนนี้ยัง ต่ำกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ 50 จึงขอเตือนประชาชน ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นช่วงการเปลี่ยนถ่ายของฤดูกาล จากฤดูหนาวไปสู่ฤดูร้อน จะมีสภาพอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนองกับมีอากาศเย็น และอากาศร้อนในคราวเดียวกัน
หลังจากนั้น เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว จะมีอากาศร้อนจัดเป็นบางวัน ขอให้รักษาสุขภาพ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ไม่จำเป็นในที่โล่งแจ้งด้วย โดยเฉพาะในช่วงเวลา 09.00 น. ถึง 15.00 น.
  

  
อสังหาฯ กังวลผลประกอบ-ยอดขาย ดัชนีเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Q4/66 ร่วงติดต่อกัน 5 ไตรมาส
https://www.prachachat.net/property/news-1482894

REIC-ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกทม.-ปริมณฑล ไตรมาส 4/6 ระดับ 47.6 ลดลง โดยเป็นระดับความเชื่อมั่นที่ต่ำกว่าค่ากลางที่ 50.0 สะท้อนผู้ประกอบการกังวลถาวะ ศก.ชะลอตัว เผยนผลประกอบการค่าดัชนี 41.8 ต่ำกว่า 50.0 ต่อเนื่องมา 5 ไตรมาส
 
วันที่ 19 มกราคม 2566 ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIC เปิดเผยว่า ผลสำรวจ ในไตรมาส 4/66 ผู้ประกอบการฯ ยังคงมีความเชื่อมั่นลดลง และมีมุมมองเชิงลบต่อสถานการณ์ธุรกิจมาตลอดทั้งปี 2566

โดยพบว่า มีความเชื่อมั่นต่ำกว่าระดับ 50.0 ต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 1/66-ไตรมาส 4/66 เป็นผลจากปัจจัยลบต่าง ๆ โดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ที่ปรับขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2566 จากร้อยละ 1.25 มาเป็นร้อยละ 2.50 ในไตรมาส 4/66 แต่มีข้อสังเกตว่า
 
ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า มีเพียง 2 ด้านที่มีทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย ในด้านยอดขายและด้านการลงทุน โดยการลงทุนปรับตัวจาก 49.7 เป็น 50.7 แต่ยอดขายยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50.0 ติดต่อกันถึง 4 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 1/66 ถึงไตรมาส 4/66
 
เมื่อจำแนกความเชื่อมั่นตามกลุ่มผู้ประกอบการฯ พบว่า กลุ่ม Listed Companies ในไตรมาส 4/66 มีค่าดัชนีเท่ากับ 48.1 น้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนีระดับ 54.7 และต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 แสดงให้เห็นว่ามีความกังวลต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบัน โดยเฉพาะผลประกอบการที่ลดลงไปที่ระดับ 36.4 จากไตรมาสก่อนที่ระดับ 56.8 และการเปิดโครงการใหม่ และ/หรือเฟสใหม่ลดลงไปที่ 56.3 จากไตรมาสก่อนที่ระดับ 65.4
 
ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies ในไตรมาส 4/66 มีค่าดัชนีความเชื่อมั่น 46.8 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 42.3 ซึ่งยังคงต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 แสดงให้เห็นว่ายังคงมีความกังวลต่อปัจจัยลบต่าง ๆ ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนคือด้านผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นเป็นระดับ 50.0 จากไตรมาสก่อนที่ระดับ 33.8 และยอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็นระดับ 44.1 จากไตรมาสก่อนที่ระดับ 32.5 (ดูตารางที่ 1 และแผนภูมิที่ 1)
 
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ในภาพรวมอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) อยู่ที่ระดับ 60.0 โดยลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ในระดับ 60.1 ซึ่งยังคงมีค่าดัชนีสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังคงมีความเชื่อมั่นในมุมมองเชิงบวกต่อสถานการณ์ 6 เดือนข้างหน้า
 
ในรายด้านพบว่า ระดับความเชื่อมั่นสูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อน ประกอบด้วย การลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 66.6 หรือเพิ่มขึ้น 0.9 จุด, ต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) เพิ่มขึ้นเป็น 37.4 หรือเพิ่มขึ้น 3.0 จุด ด้านที่มีระดับความเชื่อมั่นเท่าเดิม คือ ผลประกอบการ ที่ 65.0
 
ด้านระดับความเชื่อมั่นลดลง ประกอบด้วย ยอดขายลดลงเหลือระดับ 68.4 หรือลดลง -1.1 จุด,  การจ้างงานลดลงเหลือ 56.1 หรือลดลง -0.7 จุด และการเปิดตัวโครงการใหม่และ/หรือเฟสใหม่ลดลงเหลือระดับ 66.6 หรือลดลง -2.9 จุด
   
เมื่อจำแนกกลุ่มผู้ประกอบการฯ พบว่า กลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนี ความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า 63.1 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 64.7 แสดงให้เห็นว่ามีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงเล็กน้อย
 
ในรายด้านพบว่า มีระดับความเชื่อมั่นสูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อนคือ ต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) เพิ่มขึ้นเป็น 41.7 หรือเพิ่มขึ้น 5.2 จุด
ด้านที่มีระดับความเชื่อมั่นลดลง ประกอบด้วย ผลประกอบการลดลงเหลือ 68.2 หรือลดลง -2.6 จุด , ด้านยอดขายลดลงเหลือ 70.8 หรือลดลง -4.2 จุด , ด้านการจ้างงานลดลงเหลือ 56.3 หรือลดลง -3.3 จุดและการเปิดตัวโครงการใหม่และ/หรือเฟสใหม่ลดลงเหลือระดับ 70.8 หรือลดลง -4.2 จุด
 
ขณะที่ผู้ประกอบการฯ กลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 55.4 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.3 แสดงให้เห็นว่ามีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
 
หากพิจารณาในรายด้านพบว่า ผลประกอบการเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 60.3 หรือเพิ่มขึ้น 4.0 จุด , ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 64.7 หรือเพิ่มขึ้น 3.4 จุด และการจ้างงานเพิ่มขึ้นเป็น 55.9 หรือเพิ่มขึ้น 3.4 จุด
 
ด้านที่มีระดับความเชื่อมั่นลดลง ประกอบด้วย ต้นทุนการประกอบการ (ผกผัน) ลดลงเหลือ 30.9 หรือลดลง -0.4 จุด และการเปิดตัวโครงการใหม่และ/หรือเฟสใหม่ลดลงเหลือระดับ 60.3 หรือลดลง -1.0 จุด
 
ดร.วิชัยกล่าวว่า ความเชื่อมั่นของภาพรวม 6 เดือนหน้าที่ยังคงใกล้เคียงระดับไตรมาสก่อน อาจเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นจากการต่ออายุมาตรการลดค่าโอนและจดจำนองถึง 31 ธันวาคม 2567 จาก 3% เหลือ 1.01%
 
และอีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะกำลังซื้อห้องชุดจากคนต่างชาติกลับคืนมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยภาคการท่องเที่ยว ด้วยการให้ฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน และชาวคาซัคสถาน เป็นเวลา 5 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 – เดือนกุมภาพันธ์ 2567
 
และมีการเพิ่มฟรีวีซ่าให้กับประเทศอินเดีย และไต้หวัน  7 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 – เดือนพฤษภาคม 2567 อาจจะส่งผลให้เกิดความสนใจซื้อห้องชุดในประเทศไทยมากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่