นักลงทุนรายใหญ่มองหุ้นไทยผันผวน เหตุไร้ปัจจัยหนุนใหม่กระตุ้น แต่เชื่อผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ดาวน์ไซด์เริ่มจำกัด แถมมีช่วงรายงานงบ Q4/66 รอฟื้นดัชนี มองครึ่งปีหลังอาจ Outperform หุ้นโลกได้ แนะหาจังหวะสะสมหุ้น Valuation ถูก พื้นฐานดี คาดระยะกลาง-ยาวได้เห็นการรีบาวด์

.
"กระทรวง จารุศิระ" ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ซุปเปอร์เทรดเดอร์ โฮลดิ้ง กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นไทย (SET) ช่วงนี้ยังเคลื่อนไหวผันผวน เนื่องจากยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้น Sentiment การลงทุน 
.
ขณะเดียวกัน นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลก็ยังไม่มีความชัดเจน หลังโครงการแจกเงินดิจิทัลที่เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีกส่อแววล่าช้า หรืออาจไม่เกิดขึ้นจริงก็ได้ ! 
.
เช่นเดียวกับ "ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" นักลงทุนหุ้นเน้นคุณค่า (VI) ที่มองไปทิศทางเดียวกันว่า ตลาดหุ้นไทย ณ ปัจจุบัน ยังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้น ทำให้ภาวะตลาดช่วงนี้ยังดูซึม ๆ 
.
อย่างไรก็ตาม "วัชระ แก้วสว่าง" นักลงทุนรายใหญ่ ยอมรับว่า สถานการณ์ตลาดหุ้นไทย ณ ปัจจุบัน ยังยากที่จะคาดเดา ทำให้ตอนนี้ยังต้องชะลอการลงทุนออกไปก่อน เพื่อรอให้สถานการณ์ดูดีขึ้น จึงจะกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง 
.
ทั้งนี้ "ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" ระบุว่า ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ไม่น่าจะปรับตัวลงลึกไปมากกว่าบริเวณ 1,380 จุด อย่างมีนัยสำคัญแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ดัชนีปรับตัวลงแรงพอสมควรแล้ว ขณะเดียวกัน กำลังจะเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 4/66 จึงอาจมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ผลการดำเนินงานเติบโตเข้ามาได้
.
สอดคล้องกับ "กระทรวง จารุศิระ" ที่ประเมินว่า หุ้นไทยไม่น่าจะปรับตัวลงต่ำกว่านี้แล้ว เนื่องจากหุ้นหลาย ๆ ตัวในตลาดหุ้นไทย เริ่มมีราคาตลาดต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่แท้จริง (Undervalue) กันมากแล้ว สะท้อนจากการรับรู้ข่าวร้ายไปมากพอสมควรแล้วนั่นเอง  
.
"ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" มองว่าปีนี้ SET มีแนวโน้ม Outperform ตลาดหุ้นโลกตามที่นักวิเคราะห์หลาย ๆ รายคาดการณ์ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลงมาค่อนข้างแรงอย่างต่อเนื่อง จึงอาจเห็นเทคนิคอลรีบาวด์ในปีนี้ได้เช่นกัน
.
อย่างไรก็ตาม ถ้ามองภาพระยะยาว ถือว่าตลาดหุ้นไทยก็ยังมีความน่าสนใจน้อยอยู่ เพราะหากอ้างอิงเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศ (Fund Flow) ก็ดูเหมือนจะอิ่มตัวแล้ว จากความกังวลการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ไม่หวือหวา
.
สอดคล้องกับ "กระทรวง จารุศิระ" ที่มองว่าปีนี้ SET มีโอกาส Outperform หุ้นโลกได้เช่นกัน เพียงแต่ไม่น่าจะเห็นการปรับตัวขึ้นที่น่าตื่นเต้นในช่วงครึ่งปีแรก เพราะดอกเบี้ยนโยบาย และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในขณะนี้
.
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ทิศทางดอกเบี้ย และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ ก็จะช่วยหนุนให้ SET ปรับตัวขึ้นได้อย่างร้อนแรง
.
"นพ.รัชต์ชยุตม์ จีระพรประภา" นักลงทุนรายใหญ่ กล่าวว่า จากกรณีที่ SET ยังผันผวนทำให้นักลงทุนต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนใหม่ โดยมี 2 ฉากทัศน์ให้เลือก ประกอบด้วย กรณีที่ SET หลุดระดับ 1,350 จุด แนะนำให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน จนกว่าแรงขายจะหมด และกลับเข้าทยอยสะสมหุ้นอีกครั้งในช่วงดัชนีบริเวณ 1,200 จุด
.
แต่ถ้า SET ไม่หลุดระดับ 1,350 จุด ควรต้องยกการ์ดสูงก่อน และรอดูแนวโน้มกำไร บจ. กลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะประกาศออกมากลุ่มแรก และกลุ่มที่จะประกาศออกมาในช่วงเดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้ก่อน หากมีแนวโน้มดีก็สามารถใช้กลยุทธ์ Selective buy กลับเข้าไปลงทุนในกลุ่มที่ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องได้ 
.
ขณะที่ "ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" กล่าวต่อว่า กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ แนะนำ Selective buy หุ้นที่มูลค่า (Valuation) ถูก และมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง หรืออาจกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้น หรือกองทุนก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน 
.
ด้าน "กระทรวง จารุศิระ" ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์ลงทุนช่วงนี้ แนะนำ Selective buy หุ้นที่เป็นขาขึ้นต้นรอบ โดยสามารถดูกราฟเทคนิคประกอบด้วยได้ แต่ที่สำคัญต้องเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และผลการดำเนินงานระยะถัดไปมีแนวโน้มเติบโตด้วย คาดว่าจะเห็นการดึงกลับของราคาหุ้นในปีนี้ได้ 
.
ส่วน "วิชัย วชิรพงศ์" นักลงทุนรายใหญ่ ให้ความเห็นปิดท้ายว่า กลยุทธ์ลงทุนช่วงนี้ แนะนำ Selective buy หุ้นขนาดเล็กที่มีปัจจัยพื้นฐานดี เพราะมองว่าจะได้รับอานสิงส์จากการเปลี่ยนกลุ่มเล่น (Rotation) ของนักลงทุน
.
https://www.facebook.com/share/p/9odanXmzfCHdEijT/?mibextid=qi2Omg