วันที่ 10 เมษายน 2568 เวลา น. สำนักข่าว CNBC รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศลดอัตราภาษีนำเข้าจากประเทศคู่ค้าเหลือ 10% ชั่วคราว 90 วัน เพื่อเปิดทางให้เจรจาการค้าให้สามารถเจรจาการค้าร่วมกันได้

คำประกาศของทรัมป์มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่สินค้านำเข้าจากเกือบ 90 ประเทศต้องเผชิญกับการจัดเก็บภาษีแบบ “ภาษีตอบโต้” (reciprocal tariffs) ที่เข้มงวดขึ้นจากสหรัฐ

ทรัมป์ยังระบุผ่านโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า มีมากกว่า 75 ประเทศที่ติดต่อเข้ามายังเจ้าหน้าที่สหรัฐ เพื่อขอเจรจาหลังจากที่เขาประกาศแผนภาษีใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 125% “มีผลทันที” เนื่องจาก “ความไม่ให้เกียรติของจีนต่อระบบตลาดโลก”

ซึ่งจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันว่า จะขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 84%

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงทันทีหลังการประกาศของทรัมป์ โดยสามารถลบการขาดทุนตลอด 4 วันที่ผ่านมาได้ทั้งหมด ดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นดัชนีหลัก พุ่งขึ้นถึง 7% ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นรายวันที่มากที่สุดในรอบ 5 ปี

อนึ่งเมื่อวันที่ 2 เมษายน ทรัมป์เคยประกาศว่าจะจัดเก็บภาษีนำเข้าที่อัตราฐาน 10% จากกว่า 180 ประเทศ สำหรับกลุ่มประเทศย่อยจำนวน 90 ประเทศนั้น จะถูกจัดเก็บภาษีแบบตอบโต้ (reciprocal tariffs) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธ โดยมีอัตราตั้งแต่ 11% ไปจนถึงสูงสุดที่ 50% นับตั้งแต่ทรัมป์ประกาศแผนภาษีดังกล่าว ตลาดการเงินทั่วโลกอยู่ในภาวะผันผวน และตลาดหุ้นสหรัฐตกลงติดต่อกันถึง 4 วันจนถึงวันอังคาร

อ้างอิง : https://www.cnbc.com

ที่ม่ฃา : https://moneyandbanking.co.th/2025/166362/