JJNY : 5in1 ก้าวไกลขยี้งบลับกองทัพ│ก้าวไกลจ่อยื่นแก้กม.คุกคาม│‘ทนายแจม’บี้งบซื้อดัมเบล│น้ำมันขึ้นอีก│แคนาดา-สหรัฐหนาวจัด

ก้าวไกล ขยี้งบลับกองทัพ ขอ 469 ล้าน ใช้ภารกิจใด ปลัดกห.แจงยิบ ระเบียบสำนักนายกฯ รองรับ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4380401
 
 
‘ก้าวไกล’ ถาม ‘กองทัพ’ งบเทิดทูนสถาบันเพิ่ม จี้ ทร. แจงเพิ่มเยอะสุด 769 % ขยี้งบราชการลับ ขอเท่าเดิมทุกปีเฉียด 500 ล้าน ใช้ภารกิจใด ดักคออย่าอ้าง ‘ชั้นความลับ’ พร้อมถามงบ 3 ปีย้อนหลัง ‘รถประจำตำแหน่ง’ ขณะที่ ‘ปลัดกลาโหม’ แจงยิบยก ‘ระเบียบสำนักนายกฯ’ รองรับ ชี้งบพิทักษ์เทิดทูนสถาบัน มีสัดส่วนแค่ 0.93% ของงบกลาโหมทั้งหมด
 
เมื่อวันที่ 17 มกราคม นายชยพล สะท้อนดี ส.ส.ก้าวไกล กมธ.การทหาร ในฐานะ กมธ.พิจารณางบประมาณฯ ปี 2567 ได้ตั้งคำถามถึงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ถึงงบพิทักษ์รักษา เทิดทูนสถาบัน เปรียบเทียบงบประมาณปี 2566-2567 ที่งบประมาณส่วนนี้เพิ่มขึ้น จากเดิม 1,449 ล้านบาท เป็น
 1,843 ล้านบาท หรือ 27.18 % โดยเฉพาะกองทัพเรือ ที่เพิ่มจาก 45 ล้านบาท เป็น 395 ล้านบาท หรือกว่า 769 % และกองทัพอากาศ ที่เพิ่มจาก 35 ล้านบาท เป็น 65 ล้านบาท หรือกว่า 81 % จึงขอถามว่าเพิ่มขึ้นมาอย่างไรบ้าง
 
พร้อมกันนี้ นายชยพล ยังได้ถามถึงรายละเอียด งบประมาณและการดำเนินการทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความเข้าใจ เพื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ รวมทั้งถามถึงเงินราชการลับ ที่มีการขอเท่าเดิมไปเรื่อยๆ มีการใช้งานอย่างไรบ้าง เพราะงบประมาณปี 2566-2567 เท่ากัน 469 ล้านบาท ซึ่ง กมธ. จะรับทราบได้หรือไม่ เพราะทางเหล่าทัพจะชี้แจงว่าเป็นชั้นความลับ แต่เป็นงบที่เรามองไม่เห็น จึงอยากให้กองทัพชี้แจงเรื่องนี้
นอกจากนี้ นายชยพล ยังถามเรื่องการตัดลบงบประมาณในส่วนตำแหน่ง ‘ผู้ทรงคุณวุฒิ’ ต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องขึ้นมายกแผงทั้งรุ่น อีกทั้งขอระเบียบประกาศการใช้รถประจำตำแหน่ง และงบประมาณย้อนหลัง 3 ปี และรายละเอียการลดจำนวนนายพล ไม่ใช่กั้นแค่เพียงการลดจำนวนนักเรียนเตรียมทหาร เพื่อรอเวลานายพล ลดลงไป เพราะตนมองว่าควรจะปรับลดได้เลย
 
จากนั้น พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงงบราชการลับว่า เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ปี 2547 ผ่าน 4 ภารกิจ ด้านความมั่นคงและการป้องกันราชอาณาจักร ภารกิจด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภารกิจด้านข่าว และภารกิจอื่นที่มีลักษณะปกปิด เพื่อประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือโดยสภาพแห่งเทคโนโลยี ซึ่งงบส่วนนี้ได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว
 
ส่วนเรื่องรถประจำตำแหน่งยึดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ ปี 2523 ที่กำหนดรถราชการใช้กับตำแหน่งใดบ้าง ส่วนหลักเกณฑ์ค่าตอบแทนแบบเหมาจ่ายยึดตามมติ ครม. ปี 2457
 
ส่วนงบประมาณพิทักษ์รักษาเทิดทูนสถาบัน หน่วยทหารกระจัดกระจายทั่วประเทศ มีพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง ตั้งอยู่ตามจังหวัดอำเภอ ของแต่ละเหล่าทัพ ชัดเจนเหมือนกับพื้นที่บรรเทาสาธารณภัยที่เข้าไปช่วยเหลือกับประชาชน ดังนั้นมีความจำเป็นในเรื่องของงบประมาณที่พิทักษ์รักษาเทิดทูนสถาบัน จะต้องมีทุกหน่วยงานและงบประมาณที่เพิ่มของสำนักงบประมาณที่ตั้งงบฯ มิให้ใช้งบกลางให้ตั้งงบตัวเอง จึงเป็นที่มาของงบปีนี้ที่เพิ่มขึ้น และงบพิทักษ์เทิดทูนสถาบันสัดส่วน 0.93% ของงบกระทรวงกลาโหมทั้งหมด
 
พล.อ.สนิธชนก ยังกล่าวอีกว่า กำลังให้กรมพระธรรมนูญดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่ล้าหลัง ของกระทรวงกลาโหม ซึ่งขัดกับกฎหมายใหม่ที่ออกมาอยู่ระหว่างการดำเนินการ
 
จากนั้น พล.อ.สนิธชนก ได้กล่าวสรุปจบการชี้แจงงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหมและสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมว่า กระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า ได้ปรับตัวตามยุคสมัยตามเหตุการณ์ตามภัยคุกคามมาโดยตลอด ไม่ได้ปล่อยให้ล้าหลัง และจะใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ากับประเทศชาติและตระหนักอยู่ตลอดว่าเม็ดเงินมาจากภาษีของราษฎร


 
ก้าวไกล จ่อ ยื่นแก้กม.คุกคามทางเพศ ดัน ถอนใบวิชาชีพครูตลอดชีวิต หากเข้าข่าย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4380391

‘ก้าวไกล‘ จ่อยื่นแก้กฎหมาย ’คุกคามทางเพศ’ ‘ภคมน‘ เผยที่มา จากกรณี 2 ส.ส.ถูกขับ ยัน ไม่ได้ทำเพื่อลบภาพจำ แต่ต้องทำให้เกิดมาตรฐานใหม่ ด้าน ’ครูจวง’ หวังผลักดัน ‘เพิกถอนใบอนุญาตฯ ตลอดชีวิต’ หากบุคลากรด้านการศึกษามีพฤตืการณ์เข้าข่าย
 
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 17 มกราคม ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคก้าวไกล นำโดย น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรค นายเอกราช อุดมอำนวย ส.ส.กทม. นายปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงข่าวกรณีที่ยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับเพศ หรือการคุกคามทางเพศ และกฎ ก.พ. เพื่อกำหนดนิยามใหม่ของการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ การกระทำอนาจาร และการกระทำชำเรา
 
โดยนายเอกราชกล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ ได้เพิ่มบทบัญญัติในการนิยามคำว่า ‘คุกคามทางเพศ‘ เพื่อให้มีความหมายที่ชัดเจนขึ้น และมีการกำหนดบทมาตรการเพื่อความปลอดภัยเพิ่มอีกหนึ่งมาตรการ คือคำสั่งงดเว้นกระทำการ เพื่อให้ศาลมีอำนาจสั่งให้บุคคลที่ถูกคุกคาม หรือบุคคลที่คุกคาม แยกพื้นที่ออกจากกัน และต้องงดเว้นการกระทำงานที่เป็นความผิดต่อกฎหมาย นอกจากนี้ ได้มีการเพิ่มโทษการคุกคามทางเพศในแต่ละระดับด้วย
 
ด้านนายปารมีกล่าวว่า การคุกคามทางทางเพศในโรงเรียนปรากฏในหน้าข่าวบ่อยมาก รวมถึงการคุกคามทางทางเพศในครอบครัว และสถาบันอื่นๆ ด้วย ตนจึงเห็นว่า เราควรแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เหมาะสมกับยุคสมัย ในฐานะที่ตนดูแลด้านการศึกษาของพรรคก้าวไกล ตนจะผลักดัน และขับเคลื่อนในกรณีการคุกคามทางเพศในโรงเรียนต่อไป เนื่องจากเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรทางการศึกษาอีกหลายตำแหน่ง และเกี่ยวข้องกับกฎหมายอีกหลายฉบับ เช่น การแก้ข้อบังคับของคุรุสภา ในการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตลอดชีวิต ของทั้งครู และผู้อำนวยการโรงเรียน หากบุคคลเหล่านี้มีพฤติการณ์คุกคามทางเพศ ก็ไม่เหมาะที่จะเป็นครู ไม่เหมาะที่จะอยู่ในระบบการศึกษาอีกต่อไป
 
น.ส.ภคมนกล่าวถึงที่มาในการยื่นร่างกฎหมายฉบับนี้ว่า สืบเนื่องจากปัญหาการคุกคามทางเพศที่อยู่กับสังคมไทยมานาน และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้ที่กระทำคือคนใกล้ตัว และกลุ่มผู้ถูกกระทำคือเยาวชนและเด็ก ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้ และต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ส่วนหนึ่งมาจากเหตุการณ์ที่อดีต 2 ส.ส.ของพรรคก้าวไกลที่มีพฤติกรรมการคุกคามทางเพศที่เป็นประเด็นใหญ่ในสังคม แม้วันนี้เหตุการณ์จะคลี่คลายแล้วก็ตาม แต่เราในฐานะพรรคการเมืองคงไม่สามารถสิ้นสุดเหตุการณ์ดังกล่าว ด้วยการบอกว่า ขับอดีต 2 ส.ส.ออกจากพรรค และน้อมรับผิด
 
วันนี้พวกเราในฐานะพรรคการเมือง อยากจะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้เกิดกฎหมายฉบับนี้ และคาดหวังให้กฎหมายฉบับนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้กฎหมายที่มีมาตรฐานเดียวกันต่อผู้มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ” น.ส.ภคมนกล่าว
 
เมื่อถามว่า จะลบภาพจำอย่างไร น.ส.ภคมนกล่าวว่า เราคงไม่ได้บอกว่า วันนี้สิ่งที่เราทำทั้งหมด เพื่อเป็นการลบภาพจำ แต่พยายามจะยืนยันให้เห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เราในฐานะพรรคการเมืองคงไม่สามารถบอกว่า เราขอโทษแล้ว ทั้งสองคนพ้นพรรคไปแล้ว ความผิดของเราก็คงจะถูกลืมไป แต่เราในฐานะพรรคการเมืองคงต้องผลักดันให้เกิดมาตรฐานที่เข้าใจร่วมกันในสังคมไทยให้ได้
 
เมื่อถามว่า หากถูกย้อนถาม จะทำอย่างไรให้คนเชื่อมั่นในกฎหมายที่พรรคก้าวไกลยื่น น.ส.ภคมนกล่าวว่า  เราต้องยืนยันอย่างสดุดีว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่ในสังคม และในฐานะพรรคที่เคยเกิดเหตุการณ์ใหญ่นี้ขึ้น เราก็ต้องเป็นคนที่ผลักดันให้เกิดความปลอดภัย และมาตรฐานใหม่ในสังคมให้ได้



‘ทนายแจม’ บี้ งบซื้อดัมเบล 2 ชุด 5 แสน ขอรายละเอียดเพิ่มจากกระทรวงการท่องเที่ยวแล้ว

https://www.matichon.co.th/politics/news_4380229

‘ทนายแจม’ เผย ขอรายละเอียดเพิ่มจาก กก.แล้ว ปมดัมเบล 2 ชุด 5 แสน ลู่วิ่งไฟฟ้า-จักรยานเอนปั่นโผล่อีก ชี้ส่วนใหญ่หมดกับการอบรม ไร้ตัวชี้วัดว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่
 
เมื่อวันที่ 17 มกราคม น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)  งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพบการใช้งบในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดซื้อดัมเบล 2 ชุด
 มูลค่า 516,000 บาท ว่า ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะส่งรายละเอียดมาให้เพิ่มเติม ซึ่งตนได้ขอรายละเอียดไปว่า การจัดซื้อดัมเบลมูลค่า 5 แสนบาทนั้น เป็นรุ่นไหน สเปคอย่างไรบ้าง ดีกว่ารุ่นอื่นๆ ที่ราคาถูกกว่าในท้องตลาดอย่างไร เพราะในเอกสารของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็ไม่ได้ระบุรายละเอียดผลิตภัณฑ์
 
น.ส.ศศินันท์ กล่าวต่อว่า ซึ่งทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ อ้างว่า เป็นการจัดซื้อจัดจ้างตามมาตรฐาน ตนได้อ่านเอกสาร ก็พบพิรุธการจัดซื้อจัดจ้างหลายข้อ ยกตัวอย่าง ลู่วิ่งไฟฟ้า 2 ชุด มูลค่า 7 แสนบาท จักรยานแบบเอนปั่นก็มีราคาหลักแสนขึ้นไป ซึ่งจริงๆ ตนก็มองว่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ ควรได้รับงบประมาณมากกว่านี้ เพียงแต่เรามีข้อสงสัย ในมูลค่าสินค้าที่จัดซื้อ ว่ามีราคาสูงเกินเหตุหรือไม่ เพื่อระมัดระวังในการจัดซื้อจัดจ้างมากขึ้น
 
ส่วนพบข้อพิรุธในหน่วยงานอื่นร่วมด้วยหรือไม่นั้น น.ส.ศศินันท์กล่าวว่า พบหลายกระทรวง อย่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ก็มีงานที่ทับซ้อนกับตำรวจ กองทัพ เป็นต้น ซึ่งงบประมาณส่วนใหญ่ หมดไปกับการอบรม แต่การจัดอบรมนั้นจะมีประสิทธิภาพหรือไม่ ก็ไม่มีตัวชี้วัดที่ชัดเจน เช่น การอบรมของกองทัพ ที่ใช้งบประมาณ 8 ล้านบาท การจัดสร้างอาคารต่างๆ ของกองทัพ ซึ่งงบทั้งหมดของกองทัพบก แค่หน่วยงานเดียวที่ได้ไปก็ 9 หมื่นล้านบาทแล้ว หรืออย่างการจัดเช่ารถ การเดินทางไปดูงานต่างประเทศของหน่วยงานอื่น ก็พบเห็นจำนวนมาก
 

 
น้ำมันขึ้นอีก พีทีทีฯ – บางจาก ขึ้นกลุ่มเบนซิน 30 สต.
https://www.matichon.co.th/economy/news_4380602

น้ำมันขึ้นอีก พีทีทีฯ – บางจาก ขึ้นกลุ่มเบนซิน 30 สต.
 
รายงานข่าวจาก พีทีที สเตชั่น และบางจาก แจ้งปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินทุกชนิดขึ้น 0.30 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิดคงเดิม มีผล 18 มกราคม 2567 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็น ดังนี้
 
ULG = 43.44, GSH95 = 35.55, E20 = 33.44, GSH91 = 33.78, E85 = 33.59, พรีเมี่ยม GSH95 = 42.94, Hi Premium 97 (GSH95++) = 47.54, HSD-B7 = 29.94, HSD-B10 = 29.94, พรีเมี่ยมดีเซล B7 = 41.54 และ Hi Premium Diesel S B7 = 43.64 บาทต่อลิตร ราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
 
ทั้งนี้ราคาน้ำมันเริ่มปรับขึ้นต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา กลุ่มเบนซินปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่