https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_8055364
หนุ่มรีวิว เป็นแรงงานเกษตรที่เกาหลีใต้ ใครว่าสบาย ลั่นใครจะมาคิดให้ดี อาจไม่ใช่อย่างที่ฝัน ร้อนก็มีแมลงวัน หนาวก็อยู่ยาก ต้องนอนในคอนเทนเนอร์
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2567 จากกรณีผู้ใช้สื่อออนไลน์โพสต์คลิปรีวิวการไปเป็นแรงงานเกษตรที่เกาหลีใต้ ว่าอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่ใครคิด นายอภิสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้โพสต์ เปิดเผยว่า ตอนเริ่มทำงานที่เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2566 สอบกับกรมแรงงาน วีซ่า E-9 แรงงานเกษตร
ตนได้ทำในสวนผักผสม อย่างผักสลัด กวางตุ้ง ผักชี ซึ่งหลักๆเถ้าแก่ ก็จะปลูกผักที่ราคาดีในแต่ละฤดูกาล จากการทำงานมาเป็นระยะเวลา 6-7 เดือน รู้สึกเฟลมาก ในการทำงานสายเกษตร เพราะในสัญญากับความเป็นจริงนั้นคนละแบบกัน
จุดที่เฟลหนักที่สุด คือห้องน้ำ ไม่ใช่แค่สกปรก แต่โสโครก เพราะเป็นส้วมหลุม จะเข้าห้องน้ำก็ลำบากใจตลอด อย่างตอนฤดูร้อนก็จะมีแมลงวัน ส่วนฤดูหนาวก็จะทำให้อุจจาระแข็ง และกองกันเป็นพะเนิน ตนได้พยายามขอให้เถ้าแก่ปรับปรุงห้องน้ำแล้ว แต่ก็ไม่ได้ปรับปรุงสักที
จุดที่สองคือเรื่องของวันหยุด ซึ่งตามสัญญาระบุว่า จะได้หยุดสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง แต่ความเป็นจริงจะหยุดได้ก็ต่อเมื่อเถ้าแก่อนุญาต บางเดือนทำงานลากยาวก็มี ส่วนเวลาทำงานก็จะต้องนั่งย่อตลอด 5-6 ชั่วโมง
อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องเงิน ตนไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ ตามสัญญาจ้างเถ้าแก่จะให้เงินในวันที่ 25 ของทุกเดือน หรือทุกสิ้นเดือน แต่ความเป็นจริงแต่คือเงินออกช้ากว่ากำหนด ตรงแค่เดือนแรก
มันทำให้ตนอึดอัดใจเวลาที่ต้องทวง เพราะตนทำงานให้เต็มที่ แต่เงินเดือนจะออกกลับต้องมาคอยทวง ซึ่งเงินเดือนนั้นก็จะเป็นไปตามข้อกำหนดของกระทรวงแรงงาน
ประมาณ 1,800,000 วอน หรือ 54,000 บาท ซึ่งยังจะต้องหักค่าประกัน และค่าเช่าห้อง รวมแล้วจะเหลือประมาณ 1,300,000 วอน หรือประมาณ 30,000 กว่าบาท โดยเงินจำนวนนี้ตนจะต้องแบ่งเป็นเงินที่เก็บไว้ใช้ และส่งกลับบ้าน ซึ่งมาคิดๆ ดูแล้วก็ไม่ต่างจากที่ไทยเลย
ส่วนเรื่องที่พักก็เป็นตู้คอนเทนเนอร์ และไม่อนุญาตให้ตนไปอยู่อพาร์ตเมนต์ที่อื่น อีกทั้งยังคิดค่าเช่าประมาณ 9,000 บาท น้ำก็ไม่ค่อยไหล ฤดูหนาวก็ต้องพึ่งน้ำบาดาล ส่วนอาหารมีแค่ข้าวที่ฟรี แต่กับต้องหาซื้อมาทำเอง รวมถึงน้ำเปล่า และน้ำมันในการเติมรถ
ตนยอมรับว่าตนพลาดเอง เพราะตอนแรกตั้งใจจะสมัครอุตสาหกรรม แต่สมัครไม่ทัน ตนคิดว่ายังไงก็จะมา เลยสมัครเกษตรแทน และสอบผ่าน จึงได้มา
สุดท้ายนี้ตนอยากฝากว่า ต้องทำใจยอมรับให้ได้เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ ทั้งที่พัก ห้องส้วม และต้องทำใจเงินเดือนอาจถูกเถ้าแก่หักยิบย่อย ถ้าไม่ทำโอทีจะลำบากมาก
ส่วนผู้ชายตนอยากฝากว่าให้เลือกสายงานเกษตรหรือปศุสัตว์ เป็นตัวเลือกสุดท้าย ให้เลือกอุตสาหกรรม และก่อสร้างก่อน สุดท้ายหากเลือกได้ตนก็ยังเลือกที่จะมาอยู่ดี เพราะค่าแรงมากกว่าไทย มีโอกาสสร้างตัวได้มากและเร็วกว่าอยู่ที่ไทย
เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย ข่าวสด
ติดตามข่าวสารต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่
https://www.khaosod.co.th
หนุ่มรีวิว ทำงานเกษตรเกาหลี ใครว่าสบาย ลั่นจะมาคิดให้ดี อาจไม่ใช่อย่างที่ฝัน
หนุ่มรีวิว เป็นแรงงานเกษตรที่เกาหลีใต้ ใครว่าสบาย ลั่นใครจะมาคิดให้ดี อาจไม่ใช่อย่างที่ฝัน ร้อนก็มีแมลงวัน หนาวก็อยู่ยาก ต้องนอนในคอนเทนเนอร์
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2567 จากกรณีผู้ใช้สื่อออนไลน์โพสต์คลิปรีวิวการไปเป็นแรงงานเกษตรที่เกาหลีใต้ ว่าอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่ใครคิด นายอภิสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้โพสต์ เปิดเผยว่า ตอนเริ่มทำงานที่เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2566 สอบกับกรมแรงงาน วีซ่า E-9 แรงงานเกษตร
ตนได้ทำในสวนผักผสม อย่างผักสลัด กวางตุ้ง ผักชี ซึ่งหลักๆเถ้าแก่ ก็จะปลูกผักที่ราคาดีในแต่ละฤดูกาล จากการทำงานมาเป็นระยะเวลา 6-7 เดือน รู้สึกเฟลมาก ในการทำงานสายเกษตร เพราะในสัญญากับความเป็นจริงนั้นคนละแบบกัน
จุดที่เฟลหนักที่สุด คือห้องน้ำ ไม่ใช่แค่สกปรก แต่โสโครก เพราะเป็นส้วมหลุม จะเข้าห้องน้ำก็ลำบากใจตลอด อย่างตอนฤดูร้อนก็จะมีแมลงวัน ส่วนฤดูหนาวก็จะทำให้อุจจาระแข็ง และกองกันเป็นพะเนิน ตนได้พยายามขอให้เถ้าแก่ปรับปรุงห้องน้ำแล้ว แต่ก็ไม่ได้ปรับปรุงสักที
จุดที่สองคือเรื่องของวันหยุด ซึ่งตามสัญญาระบุว่า จะได้หยุดสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง แต่ความเป็นจริงจะหยุดได้ก็ต่อเมื่อเถ้าแก่อนุญาต บางเดือนทำงานลากยาวก็มี ส่วนเวลาทำงานก็จะต้องนั่งย่อตลอด 5-6 ชั่วโมง
อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องเงิน ตนไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ ตามสัญญาจ้างเถ้าแก่จะให้เงินในวันที่ 25 ของทุกเดือน หรือทุกสิ้นเดือน แต่ความเป็นจริงแต่คือเงินออกช้ากว่ากำหนด ตรงแค่เดือนแรก
มันทำให้ตนอึดอัดใจเวลาที่ต้องทวง เพราะตนทำงานให้เต็มที่ แต่เงินเดือนจะออกกลับต้องมาคอยทวง ซึ่งเงินเดือนนั้นก็จะเป็นไปตามข้อกำหนดของกระทรวงแรงงาน
ประมาณ 1,800,000 วอน หรือ 54,000 บาท ซึ่งยังจะต้องหักค่าประกัน และค่าเช่าห้อง รวมแล้วจะเหลือประมาณ 1,300,000 วอน หรือประมาณ 30,000 กว่าบาท โดยเงินจำนวนนี้ตนจะต้องแบ่งเป็นเงินที่เก็บไว้ใช้ และส่งกลับบ้าน ซึ่งมาคิดๆ ดูแล้วก็ไม่ต่างจากที่ไทยเลย
ส่วนเรื่องที่พักก็เป็นตู้คอนเทนเนอร์ และไม่อนุญาตให้ตนไปอยู่อพาร์ตเมนต์ที่อื่น อีกทั้งยังคิดค่าเช่าประมาณ 9,000 บาท น้ำก็ไม่ค่อยไหล ฤดูหนาวก็ต้องพึ่งน้ำบาดาล ส่วนอาหารมีแค่ข้าวที่ฟรี แต่กับต้องหาซื้อมาทำเอง รวมถึงน้ำเปล่า และน้ำมันในการเติมรถ
ตนยอมรับว่าตนพลาดเอง เพราะตอนแรกตั้งใจจะสมัครอุตสาหกรรม แต่สมัครไม่ทัน ตนคิดว่ายังไงก็จะมา เลยสมัครเกษตรแทน และสอบผ่าน จึงได้มา
สุดท้ายนี้ตนอยากฝากว่า ต้องทำใจยอมรับให้ได้เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ ทั้งที่พัก ห้องส้วม และต้องทำใจเงินเดือนอาจถูกเถ้าแก่หักยิบย่อย ถ้าไม่ทำโอทีจะลำบากมาก
ส่วนผู้ชายตนอยากฝากว่าให้เลือกสายงานเกษตรหรือปศุสัตว์ เป็นตัวเลือกสุดท้าย ให้เลือกอุตสาหกรรม และก่อสร้างก่อน สุดท้ายหากเลือกได้ตนก็ยังเลือกที่จะมาอยู่ดี เพราะค่าแรงมากกว่าไทย มีโอกาสสร้างตัวได้มากและเร็วกว่าอยู่ที่ไทย
เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย ข่าวสด
ติดตามข่าวสารต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.khaosod.co.th