คำว่าเชื่อว่าเราทำได้อย่าไปคิดลบ ทั้งๆที่มันสวนทางกับความเป็นจริงมันยังคงใช้ได้กับคำนี้ไม่ครับ

เราต้องสู้สิ อย่าไปท้อ ถ้าเราไม่เชื่อมั่นว่าขายได้มันก็จะขายไม่ได้ แต่ถ้าเราเชื่อมั่นมันถึงขายได้อย่าไปคิดลบๆ ปลุกพลังบวกออกมา คำพูดของเพื่อนหรือหัวหน้าที่พร่ำบอกคำนี้มันก็ออกจะคล้ายๆ mlm หน่อยๆแต่ทุกครั้งที่ไปทำงานประเภทเซลล์จะได้คำพูดปลุกพลังทำนองนี้ใส่ ซึ่งบางครั้งก็อาจจะได้ดังที่พูด หรืออาจไม่ได้ก็แล้วแต่คน แต่ตอนนี้คือผมได้ย้ายงานมาขายงานสื่อประเภทโฆษณาทางนิตยสารและแบนเนอร์ของเว็บฯ ซึ่งออกไปทางแนววิศวกรรม อะไรทำนองนั้น หลังใช้พลังงานบวกกับตรงนี้มาจะสามเดือนแล้ว กลับยังขายงานให้ลูกค้ามาลงไม่ได้สักเจ้าเดียว แน่นอนว่าถ้าผมเป็นนายจ้าง จ่ายให้เป็นหมื่นๆกับคนที่ขายไม่ได้จะจ้างต่อทำไม เป็นผมก็คงไม่อยากจ่ายต่อ ผมเลยสงสัยว่าไอ้คำพูดแบบนี้มากเลยว่าถ้าเราคิดพลังบวกและทู้ซี้ไปแบบนี้มันถูกเหรอครับ ไม่เห็นมันจะขายอะไรได้เลย มันเหมือนไม่มองสภาพความจริงเลย ส่วนนึงที่ขายไม่ออกผมวิเคราะห์ได้ดังนี้ครับ

1.นิตยสารเป็นธุรกิจพระอาทิตย์ตกดินแล้วในปัจจุบัน แถมวงยังแคบเพราะเป็นวิศวะฯ เศรษฐกิจก็ทรงๆการจะลงโฆษณาระดับเป็นหมื่นบาทยากมากสมัยนี้ กิจการหลายกิจการเมื่อติดต่อไปต่างก็บอกว่ารายได้หดหาย ไม่มีงบมาทำ บางเจ้าแทบจะตัดบทสนทนาทันที ยิ่งกิจการเล็กๆอย่าง หจก.ยิ่งยากไปอีก

2.เว็บไซค์ของบริษัทขายสื่อประเภทแบนเนอร์เพียงอย่างเดียวเหมือนหลายสิบปีที่แล้วอยู่ ผมคงปรับอะไรไม่ได้เพราะเขาขายแต่แบบนี้มานาน และไม่น่าจะเปลี่ยนมันเลยทำให้สู้รายอื่นยาก

3.บริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่มีสื่อเป็นของตัวเอง บางคนก็รับบรีฟมาจากต่างประเทศว่าต้องเป็นในทิศทางที่กำหนดเท่านั้น

เขาบอกให้สู้ๆให้เชื่อว่าจะทำได้ แต่ในความเป็นจริงผ่านมาสามเดือนก็ยังไม่มีสักรายที่ขายให้ได้ มีแต่มาให้ความหวังและจากไป  ถึงแม้จะทำใจเชื่อแบบนั่นแต่ในความเป็นจริงก็ยังคงอยู่ว่าขายไม่ได้ ซึ่งใกล้จะประเมินแล้วด้วย มันเหมือนการหลอกตัวเองหรือเปล่าครับคำพูดนี้ ส่วนที่ใครสงสัยว่าบริษัทอยู่ได้ไง เพราะบริษัทมีดีลเก่าๆที่ภักดีกับองค์กรมานานสมัยยังไม่มีสื่อมากขนาดนี้ คนเก่าๆที่เป็นเซลล์เขาก็กินยาวๆกันมา แต่การหาลูกค้าใหม่ยุคนี้ยากเหลือเกิน ใครทำงานด้านนี้ก็รบกวนหน่อย เล่าประสบการณ์หน่อยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่