บางคนอาจจะคิดว่าหนึ่งในนั้นคงเป็นทานมัย (บุญที่เกิดจากการให้) แน่ ๆ แต่ไม่ใช่ เพราะอะไรรู้ไหม ? เพราะว่าทาน หรือการให้ เราได้ให้ก็จริง แต่สำหรับคนที่รับจากเรา เขาก็จะมีบุญลดลง
ยังไง ?
สมมุติว่าเราไปเจอคนที่หิวมาก ๆ ไม่มีเงินกินข้าว แล้วเราให้ทานด้วยการซื้อข้าวให้เค้ากิน จริงอยู่ เราได้บุญจากการให้ ซึ่งจะส่งผลกลับมาให้เรากลายเป็นคนมีโชคมีกินมีใช้ แต่สำหรับคนที่รับเราไป การที่เขาได้รับข้าวฟรีไปจากเรา มันก็คือการที่เขาได้วิบากบุญเก่าของเขานั่นแหละมาใช้ ผ่านเรา แปลว่า ในวันนั้นเวลานั้น เค้าเองก็จะได้กินข้าวนั่นแหละ ถ้าเราไม่เป็นตัวแทนบุญเก่าเอาข้าวไปให้เค้า ยังไงเค้าก็จะได้ข้าวอยู่ดี เพราะเค้า ในวันนั้น เวลานั้น จะมีบุญเก่าโผล่ขึ้นมา ให้มีข้าวมาให้กินจานนึง
บุญเก่า พอให้ผลแล้ว มันก็จะหมดลงไป ไม่กลับมาเกิดซ้ำ (นอกจากจะสร้างความดีใหม่อีกทีเพื่อให้ได้รับผลบุญแบบนั้นอีกทีในอนาตต) ทีนี้ เมื่อเขารับผลบุญนั้นเป็นข้าวจากที่เราให้แล้ว เท่ากับว่า บุญที่เขาจะได้ข้าว ณ จุดนั้น ก็จะไม่มีอีก ถ้าวันต่อไปเขาได้ข้าวฟรีอีก มันก็จะมาจากผลบุญตัวอื่นที่ยังเหลืออยู่ แต่ผลบุญที่ทำให้เรา ณ เวลานั้นตอนนั้นให้ข้าวเค้า มันจะไม่ย้อนกลับมา ดังนั้น ทานมัย หรือการให้ทาน เราได้รับผลบุญ แต่ยังไม่ใช่การช่วยเหลือคนหรือสัตว์หรือวิญญาณได้อย่างเต็มที่ เพราะมันยังเป็นการเอาบุญเก่าเขามาทำให้เขา ถ้าจะช่วยเขาจริง ๆ จะต้องสร้างบุญใหม่ให้ ซึ่งวิธีการที่จะทำให้ผู้อื่นมีบุญใหม่เป็นเสบียงติดตัว จนถึงแม้ว่า ในวันข้างหน้า เค้าไม่เจอเรา เราไม่อยู่กับเค้า แต่เค้าก็ยังมีเสบียงบุญติดตัวไว้ให้ตัวเองปลอดภัย มีอยู่สองวิธี
หนึ่ง ปัตติทานมัย คือ บุญกิริยาวัตถุที่เราจะได้บุญด้วยการอุทิศส่วนบุญให้เขา เช่น เราไปใส่บาตรมา แล้วกรวดน้ำ จะกรวดน้ำให้ผีที่ตกทุกข์ได้ยากก็ดี ให้เปรตก็ดี ให้เทวดา หรือพระภูมิเจ้าที่ก็ดี หรือสัตว์เลี้ยงของเราที่ตายไปแล้วก็ดี มันจะเป็นการทำให้พวกเค้าได้รับ "บุญใหม่ติดตัว" ซึ่งบุญใหม่นี้ มันก็คือแต้มบุญที่จะทำให้เค้าได้รับความสุขต่าง ๆ ในภพของเค้า เปรตที่หิวโหยมาหลายพันปี สามารถหลุดพ้นได้ด้วยการที่เราใส่บาตรพระแค่รูปเดียวด้วยขนมกับน้ำในเซเว่นที่รวมกันราคาไม่ถึงสามสิบบาทแล้วกรวดน้ำไปให้ วิญญาณของสัตว์เลี้ยงเราที่ตายไป อาจไม่มีบุญพอขึ้นมาเกิดเป็นคน อาหารและน้ำที่ถวายพระที่เราถวายและกรวดน้ำไปให้ จะช่วยให้เคัาได้ไปในภพภูมิที่สูงขึ้นเช่นภพมนุษย์หรือไปสวรรค์ เทวดาพระภูมิเจ้าที่ที่กำลังท่านน้อย พอท่านได้รับบุญจากเรา ท่านก็มีพลังที่จะปกป้องดูแลเราได้ดีมากขึ้นจากสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในบ้าน เป็นต้น การอุทิศบุญ จึงเป็นการให้ luck กับผู้อื่นของแท้ โดยที่ไม่ใช่เป็นการเอาบุญเก่าของเขาผู้นั้น ๆ มาให้เขาทำให้บุญเขาลดลง แต่เป็นการทำให้บุญเขาเพิ่มขึ้นมาเพื่อปกป้องดูแลตัวเค้าเอง นี้เป็นการช่วยเหลือคนอื่นและผู้อื่นได้อย่างมากกว่าทาน
ข้อต่อมา คือ ธรรมเทศนามัย บุญที่สำเร็จจากการแสดงธรรม ไม่ว่าเราจะโพสท์ธรรมะให้คนอ่านก็ดี สอนหรือแนะนำสิ่งทีดี สิ่งที่ถูกกับคนอื่น ๆ ให้ความคิดจิตใจของเค้าเปลี่ยนไปในทางดีก็ดี ทั้งหมดนี้ ทำให้ตัวของผู้ฟัง ได้มีจิตที่เป็นกุศลขณะฟัง และในอนาคต เมื่อเขาได้นำสิ่งที่ฟัง ไปประพฤติปฏิบัติ เขาก็จะพบกับความสุขความสมหวังมากมายในชีวิต และพึ่งพาตัวเองได้ เพราะธรรมแต่ละข้อนั้น เมื่อผู้ใดผู้หนึ่งปฏิบัติตาม เอาจริง เอาดี ได้สักข้อเดียว จาก 84000 พระธรรมขันธ์ คนนั้นจะได้ดิบได้ดีในชีวิตทั้งสิ้น และส่งผลให้เขาได้รับความสุขในอนาคตมากกว่าข้าว มากกว่าน้ำ มากกว่าที่นอน เขาจะเป็นคนมีโชคอยู่เสมอ เพราะธรรมแต่ละข้อ ๆ ที่เขารับไปปฏิบัติ
ดังนั้น การให้ธรรมจึงชนะการให้ทั้งปวง เพราะแม้แต่การอุทิศบุญให้ เขาก็จะได้รับบุญเป็นแต้ม ๆ เป็นครั้งเป็นคราวไป แต่เมื่อเราให้ธรรมเขาไป แนะนำเขาให้เลิกสิ่งชั่ว ทำสิ่งดี ตัวเขาจะมีแต่การทำบุญ ทำกุศลแต่ละอย่าง ๆ ด้วยตนเอง มีบุญของตนเองเป็นที่พึ่งได้ เพราะเหตุนั้นแล้ว คนที่ยังมีลมหายใจอยู่ เมื่อเห็นความทุกข์ความลำบากของสัตว์โลกแล้ว ควรทำบุญใส่บาตรกรวดน้ำให้สัตว์ที่ตายแล้วกันให้มาก ควรอ่านศึกษาธรรมะจากพระไตรปิฎกออกไลน์กันให้มาก และเผยแพร่คำสอนของพระศาสดากันให้มาก คุยกันให้มากเรื่องธรรม อย่ามัวคุยกันไร้สาระเรื่องหนัง ละคร เพลง สถานที่เที่ยว คนหล่อ สาวสวย หรือสิ่งอื่นใดไร้ประโยชน์ที่จะทำให้คนฟังติดข้องอยู่กับโลกและสังสารวัฎอันกันดารนี้ พูดธรรม กล่าวธรรมกันให้มาก ตักเตือนกันและกันให้ตั้งอยู่ในความดี เพื่อที่ให้สมกับที่ได้มีพรวิเศษสี่ข้อยังอยู่กับคน คือ หนึ่ง ได้เกิดเป็นมนุษย์ สองได้พบพระพุทธศาสนา สามยังไม่ตายยังมีชีวิต และสี่มีโอกาสได้ฟังพระสัทธรรม
ในบุญกิริยาวัตถุทั้ง 10 ข้อ จะมีอยู่ 2 ข้อ ที่เราได้ทำให้คนอื่นได้แฮปปี้แบบเต็ม ๆ
ยังไง ?
สมมุติว่าเราไปเจอคนที่หิวมาก ๆ ไม่มีเงินกินข้าว แล้วเราให้ทานด้วยการซื้อข้าวให้เค้ากิน จริงอยู่ เราได้บุญจากการให้ ซึ่งจะส่งผลกลับมาให้เรากลายเป็นคนมีโชคมีกินมีใช้ แต่สำหรับคนที่รับเราไป การที่เขาได้รับข้าวฟรีไปจากเรา มันก็คือการที่เขาได้วิบากบุญเก่าของเขานั่นแหละมาใช้ ผ่านเรา แปลว่า ในวันนั้นเวลานั้น เค้าเองก็จะได้กินข้าวนั่นแหละ ถ้าเราไม่เป็นตัวแทนบุญเก่าเอาข้าวไปให้เค้า ยังไงเค้าก็จะได้ข้าวอยู่ดี เพราะเค้า ในวันนั้น เวลานั้น จะมีบุญเก่าโผล่ขึ้นมา ให้มีข้าวมาให้กินจานนึง
บุญเก่า พอให้ผลแล้ว มันก็จะหมดลงไป ไม่กลับมาเกิดซ้ำ (นอกจากจะสร้างความดีใหม่อีกทีเพื่อให้ได้รับผลบุญแบบนั้นอีกทีในอนาตต) ทีนี้ เมื่อเขารับผลบุญนั้นเป็นข้าวจากที่เราให้แล้ว เท่ากับว่า บุญที่เขาจะได้ข้าว ณ จุดนั้น ก็จะไม่มีอีก ถ้าวันต่อไปเขาได้ข้าวฟรีอีก มันก็จะมาจากผลบุญตัวอื่นที่ยังเหลืออยู่ แต่ผลบุญที่ทำให้เรา ณ เวลานั้นตอนนั้นให้ข้าวเค้า มันจะไม่ย้อนกลับมา ดังนั้น ทานมัย หรือการให้ทาน เราได้รับผลบุญ แต่ยังไม่ใช่การช่วยเหลือคนหรือสัตว์หรือวิญญาณได้อย่างเต็มที่ เพราะมันยังเป็นการเอาบุญเก่าเขามาทำให้เขา ถ้าจะช่วยเขาจริง ๆ จะต้องสร้างบุญใหม่ให้ ซึ่งวิธีการที่จะทำให้ผู้อื่นมีบุญใหม่เป็นเสบียงติดตัว จนถึงแม้ว่า ในวันข้างหน้า เค้าไม่เจอเรา เราไม่อยู่กับเค้า แต่เค้าก็ยังมีเสบียงบุญติดตัวไว้ให้ตัวเองปลอดภัย มีอยู่สองวิธี
หนึ่ง ปัตติทานมัย คือ บุญกิริยาวัตถุที่เราจะได้บุญด้วยการอุทิศส่วนบุญให้เขา เช่น เราไปใส่บาตรมา แล้วกรวดน้ำ จะกรวดน้ำให้ผีที่ตกทุกข์ได้ยากก็ดี ให้เปรตก็ดี ให้เทวดา หรือพระภูมิเจ้าที่ก็ดี หรือสัตว์เลี้ยงของเราที่ตายไปแล้วก็ดี มันจะเป็นการทำให้พวกเค้าได้รับ "บุญใหม่ติดตัว" ซึ่งบุญใหม่นี้ มันก็คือแต้มบุญที่จะทำให้เค้าได้รับความสุขต่าง ๆ ในภพของเค้า เปรตที่หิวโหยมาหลายพันปี สามารถหลุดพ้นได้ด้วยการที่เราใส่บาตรพระแค่รูปเดียวด้วยขนมกับน้ำในเซเว่นที่รวมกันราคาไม่ถึงสามสิบบาทแล้วกรวดน้ำไปให้ วิญญาณของสัตว์เลี้ยงเราที่ตายไป อาจไม่มีบุญพอขึ้นมาเกิดเป็นคน อาหารและน้ำที่ถวายพระที่เราถวายและกรวดน้ำไปให้ จะช่วยให้เคัาได้ไปในภพภูมิที่สูงขึ้นเช่นภพมนุษย์หรือไปสวรรค์ เทวดาพระภูมิเจ้าที่ที่กำลังท่านน้อย พอท่านได้รับบุญจากเรา ท่านก็มีพลังที่จะปกป้องดูแลเราได้ดีมากขึ้นจากสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในบ้าน เป็นต้น การอุทิศบุญ จึงเป็นการให้ luck กับผู้อื่นของแท้ โดยที่ไม่ใช่เป็นการเอาบุญเก่าของเขาผู้นั้น ๆ มาให้เขาทำให้บุญเขาลดลง แต่เป็นการทำให้บุญเขาเพิ่มขึ้นมาเพื่อปกป้องดูแลตัวเค้าเอง นี้เป็นการช่วยเหลือคนอื่นและผู้อื่นได้อย่างมากกว่าทาน
ข้อต่อมา คือ ธรรมเทศนามัย บุญที่สำเร็จจากการแสดงธรรม ไม่ว่าเราจะโพสท์ธรรมะให้คนอ่านก็ดี สอนหรือแนะนำสิ่งทีดี สิ่งที่ถูกกับคนอื่น ๆ ให้ความคิดจิตใจของเค้าเปลี่ยนไปในทางดีก็ดี ทั้งหมดนี้ ทำให้ตัวของผู้ฟัง ได้มีจิตที่เป็นกุศลขณะฟัง และในอนาคต เมื่อเขาได้นำสิ่งที่ฟัง ไปประพฤติปฏิบัติ เขาก็จะพบกับความสุขความสมหวังมากมายในชีวิต และพึ่งพาตัวเองได้ เพราะธรรมแต่ละข้อนั้น เมื่อผู้ใดผู้หนึ่งปฏิบัติตาม เอาจริง เอาดี ได้สักข้อเดียว จาก 84000 พระธรรมขันธ์ คนนั้นจะได้ดิบได้ดีในชีวิตทั้งสิ้น และส่งผลให้เขาได้รับความสุขในอนาคตมากกว่าข้าว มากกว่าน้ำ มากกว่าที่นอน เขาจะเป็นคนมีโชคอยู่เสมอ เพราะธรรมแต่ละข้อ ๆ ที่เขารับไปปฏิบัติ
ดังนั้น การให้ธรรมจึงชนะการให้ทั้งปวง เพราะแม้แต่การอุทิศบุญให้ เขาก็จะได้รับบุญเป็นแต้ม ๆ เป็นครั้งเป็นคราวไป แต่เมื่อเราให้ธรรมเขาไป แนะนำเขาให้เลิกสิ่งชั่ว ทำสิ่งดี ตัวเขาจะมีแต่การทำบุญ ทำกุศลแต่ละอย่าง ๆ ด้วยตนเอง มีบุญของตนเองเป็นที่พึ่งได้ เพราะเหตุนั้นแล้ว คนที่ยังมีลมหายใจอยู่ เมื่อเห็นความทุกข์ความลำบากของสัตว์โลกแล้ว ควรทำบุญใส่บาตรกรวดน้ำให้สัตว์ที่ตายแล้วกันให้มาก ควรอ่านศึกษาธรรมะจากพระไตรปิฎกออกไลน์กันให้มาก และเผยแพร่คำสอนของพระศาสดากันให้มาก คุยกันให้มากเรื่องธรรม อย่ามัวคุยกันไร้สาระเรื่องหนัง ละคร เพลง สถานที่เที่ยว คนหล่อ สาวสวย หรือสิ่งอื่นใดไร้ประโยชน์ที่จะทำให้คนฟังติดข้องอยู่กับโลกและสังสารวัฎอันกันดารนี้ พูดธรรม กล่าวธรรมกันให้มาก ตักเตือนกันและกันให้ตั้งอยู่ในความดี เพื่อที่ให้สมกับที่ได้มีพรวิเศษสี่ข้อยังอยู่กับคน คือ หนึ่ง ได้เกิดเป็นมนุษย์ สองได้พบพระพุทธศาสนา สามยังไม่ตายยังมีชีวิต และสี่มีโอกาสได้ฟังพระสัทธรรม