การใส่บาตร คือ การนำอาหารมอบถวายให้แด่พระภิกษุสงฆ์ โดยท่านเป็นฝ่ายเดินทางมายังในที่ๆพักของเราเองเพื่อรับอาหาร พุทธศาสนาเชื่อว่าเปนประเพณีที่สืบทอดมาจนพุทธวงศ์ ประมาณพระพุทธเจ้าและภิกษุต้องกระทำเช่นตามฌรรมเนียม คติของการใส่บาตรยังตามาด้วยการอุทิศอาหารให้แก่ผู้ล่วงลับ ดังมีปรากฏในสมัยพุทธกาลว่า สาวใช้ในเรือนของพราหมณ์นำอาหารที่เหลือไปใส่บาตรภิกษุ ดวงวิญญาณของพราหมณ์ก็ได้รับอาหารจาการที่สาวใช้ในครอบครัวของตนนำมาใส่บาตรนั้นเอง จึงทำให้เชื่อบาตรนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ ในแง่ของการอาศัยเปนช่องทางขนส่งอาหารไปถึงผู้ล่วงลับ
คติการใส่บาตรในพุทธฯนอกจากเปนพระปรีชาของพระพุทธเจ้าที่จะทำให้พระสาวกสามารถดำรงได้แล้วคือเปนข้อดีขอผู้รับ แล้วยังมีผลลัพท์ที่ทำให้ผู้ให้ได้มีจิตเปนกุศลชั่วขณะ ทำให้จิตผ่องใส เมื่อการใส่บาตรเปนการทำบุญช่วยให้ไปสู่สุคติภูมิ ดังปรากฏในไตรภูมิพระร่วงที่ว่า ใส่บาตรด้วยข้าวเพียงกำมือหนึ่ง วิมานอันประดับด้วยมณีห้าสีย่อมบังเกิดแก่ผู้นั้น นอกจากจะเปนผลดีว่าทำให้เรามีภพที่ดีในภพหน้าแล้ว ยังสามารถช่วยส่งอาหารไปถีงญาติผู้ล้วงลับอันแสดงถึงความกตัญญูของผู้ให้
อีกนัยของการใส่บาตรยังทำให้เราเสมือนทำทานบารมี อันเปนบารมีส่งเสริมทางคติของพุทธ ที่พระเวสสันดรทรงบำเพ็ญเลยทีเดียว การใส่บาตรเสมือนการที่เราสละของให้ผู้อื่นโดยเต็มใจ ซึ่งความจริงเราไม่จำต้องต้องให้สิ่งนี้ก็ได้ ดังนั้นการใส่บาตรจึงเสมือนกุศโลบายของพระพุทธเจ้าในแง่นี้อีกด้วย นอกจากได้ทานบารมีแล้วยังอาจได้ปัญญาบารมีด้วย คือได้ทำสมาธิในชั่วขณะอันสั้นถ้าใจหรือจิตในตอนนี้นิ่งพอ แต่บางทีเราอาจมอวไม่ให้ในเรื่องนี้
นอกจากมองว่าการ'ส่บาตรเปนเรื่องของส่วนตัว ว่าทำบุญให้บุพการีที่ล่วงลับ แต่จะสังเกตได้ว่าหลังใส่บาตรจะตามด้วยกาแผ่เมตตาหรือบางทีจะมีการกรวดน้ำด้วย และห่กสังเกตบทบาลีกรวดน้ำก็ดี หรือ แปลไทยก็ดีมันก็มีเรื่อวของการแบ่งบันบุญให้ผู้อื่นอยู่ดี คือ สอนในเรื่องของการแบ้งปันให้ผู้อื่นอยู่ด้วยนั้นเอง เช้น ขอให้สัตว์ทั้งหลายจนความสุข หรือ ขออุทิศนี้แด่ สัตว์เดรัจฉา สัตว์นรก เปรต อสุรกาย อสูร สัมภเวสี เทวดา พรหม ทั้งหลาย เป็นต้น
ดังนั้นการใส่บาตรในตอนเช้าจึบมิใช่เรื่องที่น่าเสียเวลา เพราะเปนเรื่องของบารมีหากเราเข้าใจในกิจกรรมตรงนี้ และทำให้ญาติที่เสียได้ของกิน ดังพระพุทธเจ้ากล่าวว่าในโลกของเปรตไม่มีพื้นดินที่สามารถทำการเพาะปลูกได้ เปรตจึวไม่สามารถหาอาหารกินเองได้ นอกเสียจากญาติจักทำบุญมาให้ถึงจักได้กิน เป็นต้น หวังว่าจะมีคนสนใจและตื่นใส่บาตรเพิ่มขึ้นครับ
ข้อดีของการใส่บาตร
คติการใส่บาตรในพุทธฯนอกจากเปนพระปรีชาของพระพุทธเจ้าที่จะทำให้พระสาวกสามารถดำรงได้แล้วคือเปนข้อดีขอผู้รับ แล้วยังมีผลลัพท์ที่ทำให้ผู้ให้ได้มีจิตเปนกุศลชั่วขณะ ทำให้จิตผ่องใส เมื่อการใส่บาตรเปนการทำบุญช่วยให้ไปสู่สุคติภูมิ ดังปรากฏในไตรภูมิพระร่วงที่ว่า ใส่บาตรด้วยข้าวเพียงกำมือหนึ่ง วิมานอันประดับด้วยมณีห้าสีย่อมบังเกิดแก่ผู้นั้น นอกจากจะเปนผลดีว่าทำให้เรามีภพที่ดีในภพหน้าแล้ว ยังสามารถช่วยส่งอาหารไปถีงญาติผู้ล้วงลับอันแสดงถึงความกตัญญูของผู้ให้
อีกนัยของการใส่บาตรยังทำให้เราเสมือนทำทานบารมี อันเปนบารมีส่งเสริมทางคติของพุทธ ที่พระเวสสันดรทรงบำเพ็ญเลยทีเดียว การใส่บาตรเสมือนการที่เราสละของให้ผู้อื่นโดยเต็มใจ ซึ่งความจริงเราไม่จำต้องต้องให้สิ่งนี้ก็ได้ ดังนั้นการใส่บาตรจึงเสมือนกุศโลบายของพระพุทธเจ้าในแง่นี้อีกด้วย นอกจากได้ทานบารมีแล้วยังอาจได้ปัญญาบารมีด้วย คือได้ทำสมาธิในชั่วขณะอันสั้นถ้าใจหรือจิตในตอนนี้นิ่งพอ แต่บางทีเราอาจมอวไม่ให้ในเรื่องนี้
นอกจากมองว่าการ'ส่บาตรเปนเรื่องของส่วนตัว ว่าทำบุญให้บุพการีที่ล่วงลับ แต่จะสังเกตได้ว่าหลังใส่บาตรจะตามด้วยกาแผ่เมตตาหรือบางทีจะมีการกรวดน้ำด้วย และห่กสังเกตบทบาลีกรวดน้ำก็ดี หรือ แปลไทยก็ดีมันก็มีเรื่อวของการแบ่งบันบุญให้ผู้อื่นอยู่ดี คือ สอนในเรื่องของการแบ้งปันให้ผู้อื่นอยู่ด้วยนั้นเอง เช้น ขอให้สัตว์ทั้งหลายจนความสุข หรือ ขออุทิศนี้แด่ สัตว์เดรัจฉา สัตว์นรก เปรต อสุรกาย อสูร สัมภเวสี เทวดา พรหม ทั้งหลาย เป็นต้น
ดังนั้นการใส่บาตรในตอนเช้าจึบมิใช่เรื่องที่น่าเสียเวลา เพราะเปนเรื่องของบารมีหากเราเข้าใจในกิจกรรมตรงนี้ และทำให้ญาติที่เสียได้ของกิน ดังพระพุทธเจ้ากล่าวว่าในโลกของเปรตไม่มีพื้นดินที่สามารถทำการเพาะปลูกได้ เปรตจึวไม่สามารถหาอาหารกินเองได้ นอกเสียจากญาติจักทำบุญมาให้ถึงจักได้กิน เป็นต้น หวังว่าจะมีคนสนใจและตื่นใส่บาตรเพิ่มขึ้นครับ