(เดี๋ยวแก้ไขใหม่นะคะ พอดีพิมพ์เพลินไปหน่อย)
สวัสดีทุกคนค่ะ เราขอใช้ชื่อในน้ว่า M นะคะ
M อยากมาระบายปมที่เกิดขึ้นในช่วงอายุMนี่แหละที่รู้สึกว่ามันสะสมมาเลื่อยๆ ปัจจุบันมันมีผลกับความคิดการกระทำของMมากๆ Mรู้ตัวแต่ก็อดทำพฤติกรรมบางอันไม่ได้ เลยจะมาขอใช้พื้นที่ระบาย บันทึกสั่งที่เกิดขึ้นลง ถ้าคนในครอบครัวมาอ่านอาจจะ พอรู้ได้บ้างว่าบางอย่างที่Mพูดไปไม่ใช่ไม่เข้าใจครอบครัว แต่ครอบครัวมักบอกกับMว่า Mไม่เข้าใจเขา Mก้พยายามแล้ว
แต่Mอดคิดไม่ได้ว่าคำพุดบ้างอย่างก็เหมือนกับว่าครอบครัว สั่งให้อดทนและMเป็นแบบที่เขาพูด
(แม่เลิกคิดไปเองได้ไหม Mไม่ได้เป็นแบบแม่พูด Mคิดว่าMมีเหตุผลต่างๆมากพอ แค่Mกัวการพูดกับแม่)
//อ่านๆอาจจะรู้สึกเราอคติกับแม่รึเปล่า แต่เราก็ไม่แน่ใจ รู้สึกว่าแม่มีบทบาทในชีวิตเรามากที่สุดแล้ว
.
.
.
ขอย้อนไปตั้งแต่เด็กๆช่วงอนุบาล-ประถมของMค่ะ Mเกิดและโตมากับญาติฝั่งแม่ค่ะ เพราะพ่อและแม่ทำงานต่างจังหวัดMยังเด็กก็จะอยู่กับคุณยายมากกว่า M มีพี่ชาย1คนค่ะ ซึ่งช่วงที่Mรู้มาก็คือ ช่วงอยู่ศูนย์เด็กMจะอยู่กับยายระหว่างที่พี่จะอยู่กับพ่อแม่ค่ะ ตอนนั้นยังเด้กไม่ค่อยจะคิดอะไรกับช่วงนี้เท่าไหร่ Mมีเพื่อนสนิท2คนค่ะ เป็นคนแถวบ้านกันนี่แหละMชอบเล่นกับ2คนนี้มาก เราเรียนด้วยกันจนถึงช่วงอนุบาล ช่วงนี้แม่ย้ายกลับมาอยู่ด้วยแล้วค่ะ กับพี่ชาย ส่วนพ่อวนกลับมาหาบ้างบางครั้งค่ะ Mช่วงนั้นชอบที่แม่มาอยู่ด้วยมากค่ะ Mเป็นพวกที่ตอนนั้นอยากเอาใจแม่มากชอบทำงานบ้านช่วยงานหลายๆอย่าง และติดเพื่อนด้วยค่ะ ชอบไปเล่นบ้านเพื่อนสนิทมาก ตอนนั้นคือไปบ่อยมากชอบทำอะไรตามเพื่อน เป็นตอนที่มีความสุขกับชีวิตสุดๆ555 Mเป็นพวกชอบเกรงใจคนอื่นมากค่ะช่วงเด็ก จำได้ว่าคุณป้าน้าชอบถามว่าอยากได้อะไรเป็นของขวัญวัเกิดMจะปฎิเสธตลอด แต่อีกอย่างก้เพราะMเอาแค่ของขวัญจากพ่อนะคะ555 พ่อMชอบซื้อหนังสือนิทานมาให้ทุกครั้งที่แกกลับมาบ้านค่ะ Mเลยไม่ค่อยซื้อของเล่นเท่าไหร่ กับคุณป้าพี่ของพ่อเองก็ส่งมาให้อยู่แล้ว ช่วงอายุนี้คือมีความสุขสุดๆกับคิดว่าที่ทำไปที่บ้านต้องชอบMนะคะ แต่อาจเพราะMคิดอย่างนี้Mเลยคาดหวังไว้เยอะ(แบบว่าคาดหวังความรักเยอะไปหน่อยมั้ง)
หลังจากช่วงที่แม่มาอยู่ด้วยMก็เริ่มช่วยงานบ้านบ่อยขึ้น จากแต่ก่อนที่ทำเพราะเราอยากช่วยจริงๆทำแบบเต็มใจ หลังๆก็เริ่มรุ้สึกว่าเป็นหน้าที่ ที่ต้องทำตลอดไปแล้ว(ไม่ใช่Mไม่รู้นะว่าคือหน้าที่ แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆบางอย่าMก็ต้องทำ ในขณะที่Mเองเห็นว่างานบางอัน พี่ชายเอ็มกลับไม่ต้องทำ) งานบางอย่างMเริ่มทำให้เอ็ม คิดว่าทำไหมถึงเรียกแค่M ทั้งที่พี่ชายเอ็มที่อยู่ตรงนั้น ที่อยุ่ใกล้ก็เอ็มถึงไม่ต้องทำบ้าง มันก็ทำให้เอ็มแอบน้อยใจนิดหน่อย Mก็ได้แต่บ่นในใจแหละตอนนั้น Mก็ยังไปเล่นกับเพื่อนเหมือนเดิม แต่เหมือนว่าพอแม่กลับมาอยู่บ้านแล้ว Mก็มีเวลาเล่นน้อยลงมาก สำหรับMนะ ปกติถ้าเสาร์อาทิตย์ก้กลับบ้านบ่าย3 แต่บางครั้งแม่ก็จะบ่นว่าไปทั้งวันอยู่ช่วยงานบ้านก่อนไม่ดีกว่าหรอ Mก้จะเปลี่ยนมาทำงานบ้านก่อนถึงไปเล่นค่ะ Mเป็นพวกชอบทดเวลาว่า มาช้าก็กลับช้าเพิ่มซักหน่อย มีหลายครั้งค่ะ ที่กลับช้ากว่าปกติ แต่ส่วนมากก็ไม่เกิน4โมงเย็นนะ พ่อแม่เพื่อนMจะจำเวลากลับปกติของเราได้ เขาก้จะถามว่าจะอยู่ต่อไหมหรือกลับเวลาเดิม Mจะรู้สึกเกรงใจก็กลับตลอดเลย แต่มีครั้งนึงMไปบ้านเพื่อนแล้ว เพื่อนMชวนออกไปขี่รถเล่น(ไปกับครอบครัวเขา ) Mก็ไปค่ะโดยไม่ได้บอกยายกับแม่ไว้ คิดว่าน่าจะกลับมาก่อนเวลากลับอยู่แล้ว สรุปฝนตกระหว่างนั้นด้วยความนั่งรถไถนาไปค่ะ สรุปก็ไปนั่งรอที่ศาลากลางบ้าน กลับถึงบ้านเพื่อนก็เกือบ4โมงค่ะ แต่ตอนนั้นด้วยความที่ฝนตก และเหมือนว่าที่บ้านMจะมารับMช่วงนั้น แต่บ้านเพื่อนMก้บอกว่าไปขี่รถเล่นนะคะ ที่บ้านMเลยโกรธที่กลับมาช้ากับไปไหนไม่บอกค่ะ จำได้ว่าโดนยายกับแม่ใช้ไม้แขวนผ้าตีขา;-; ตอนนั้นทั้งเสียใจทั้งโกรธที่Mไม่ได้กลับช้าขนาดนั้น ตอนนี้ก้เริ่มเป็นตอนที่Mเริ่มมีความรู้สึกแปลกๆกับความคิดเดิมของตัวเองนะคะ เกี่ยวกับสิ่งที่ทำ พวกงานบ้านที่Mทำแบบเต็มใจทำ หวังผลคือความรักกับคำชมนั้นแหละค่ะ(อันนี้คงเพราะแม่ย้ายมาอยู่มั้ง Mตอนนั้นถึงคิดแบบนี้) เรื่องออกไปเล่นกับเพื่อนMก็เริ่มคิดเหมือนกันค่ะ กับที่ว่าพี่ชายเราก็ไปได้กลับช้า แต่คนที่โดนตีทำไหมมีแค่M (ตอนนั้นไม่ได้คิดนะคะว่าชายหญิงไม่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็คิดอย่างอื่นแทนว่าตอนนั้นบ้านเพื่อนMถัดจากบ้านMไม่ถึงแค่บ้าน2หลัง) นี้ถึงประถมMก้เริ่มคิดแบบนี้ แอบน้อยใจครอบครัวเรื่องที่พี่ทำได้แต่Mทำไม่ได้มากขึ้นค่ะ
Mช่วงขึ้นประถมแรกๆเป็นช่วงที่แม่กำลังจะมีน้องค่ะ ตอนนั้นก็ไม่ได้วุ่นวายอะไรมากเพราะที่เป็นมาก้ยังเหมือนเดิมค่ะ มีแค่เรื่องทีเริ่มทะเลาะกับพี่ชายมากขึ้น เราตอนนั้นค่อนข้างอ้วนเพราะกินนมช็อกโกแลตมาไปหน่อย(ของขวัยจากพ่อเปลี่ยนมาเป็นมนช้อกโกแลตค่ะ เราชอบมากเลยกินแบบห่ายลงตัว555) เรื่องที่ทะเลาะกับพี่ชายส่วนมากไม่เกี่ยวกับเรื่องอ้วนหรอกค่ะ อันนี้พุดให้ฟังเฉย555 เป็นเรื่องการใช้คำพูดมากกว่า ตอนนั้นหนังเรื่อง กระสือยายสาย (มีใครรู้จักไหมคะ) กำลังดังเลยค่ะ พี่ชายMชอบเรื่องนี้มาก และชอบพูดให้Mว่าเป็นกระสือบ่อยๆ บ้านMจะติดกับวัด วัดอยู่ตรงข้าวบ้านเลยค่ะ และพี่ชายมักพูดว่าMถอดหัวลอยเข้าไปในวัดบ้าง บอกว่าMกินน้ำลายกระสือบ้าง Mตอนนั้นไม่ชอบที่พี่ชายชอบพุดล้อมากเลยค่ะ มีครั้งนึงพี่ชายล้อเรื่องนี้กับรู้ร่างMนี่แหละ Mโกรธมากตอนนั้นเลยจับไม้กวาดมาขู่พี่ชายค่ะ สรุปพี่จับไม้กวาดมาเหมือนกัน ก็ตีๆกันแบบเด็กนี่แหละค่ะ แต่คือMสุ้พี่ไม่ได้จบด้วยการที่Mร้องไห้... Mทั้งโกรธทั้งร้องไปฟ้องแม่ว่าพี่ชายพูดให้Mพูดเรื่องตีกันด้วย แม่ก็บอกว่าพี่แค่พูดเล่นแค่นั้นแหละค่ะ เรื่องจบMก็นอยๆเพราะไม่ชอบที่ดดนพูดใส่ หลังจากนี้ศึกตีกันกับพี่ก้แรงขึ้นอีกระดับด้วยการ ใช้ไม้กวาดตีกัน ตอนแรกมาคิดอีกที่ผิดที่Mเริ่มก่อนแหล ลงตัวเองหมด ไม่รู้ทำไหมหลังจากนี้เริ่มเป็นฝ่ายพี่ที่เริ่มหาเรื่องก่อน ก็เกิดศึกไม้กวาดขึ้นอีกค่ะ รอบนี้เป็นMฟาดลงหัวพี่ Mใช้ไม้กวาดหยักไย่(สุ้ไม่ได้ก็อัพสกิลเลย) และพี่ก็ฟ้องแม่ แต่รอบนี้จบด้วยการที่Mโดนดุว่าตีพี่ทำไหม พี่แค่ล้อเล่น... เอาละตอนนั้นร้องไห้หนีไปซ่อนชั้น2ของบ้านในตุ้เสื้อผ้าของป้าแทน ตอนนั้นมีความคิดอยากหนีออกจากบ้านด้วย (คิดว่าMทำไหมคะ คำตอบบบบบบบบบบบคือ ทำ) Mเก็บมาม่าใส่ถุงดำ(ถุงขยะ) เยอะๆแล้วซ่อนในตู้เสื้อผ้าป้า (ไม่รู้ป้าเห็นไหม) แต่ยังไม่ได้หนีไปไหนนะคะ ช่วงสัปดาห์นั้นแหละMพี่ชายก่อนตีกัน รุ้จักกับเด้กข้างบ้านเริ่มสนิทกันและMจากวันที่โดนตีขา ก็เลิกไปบ้านเพื่อนสนิทเลย(คือมีอีกเรื่องนึง แต่น่าอายเกินขอเก็บไว้ก้นบึ้งจิตใจเลยค่ะ) และเด็กข้างบ้านคนนี้ก็มาเล่นกับMบ่อยมาก วันนั้นMทะเลาะกับคุณตาเพราะแกไม่ให้Mดูโทรทัศน์ด้วย แต่พี่ชายMมาขอก็ให้ดู Mน้อยใจมากวันนั้นเลยเก็บของที่ซ่อนไว้วิ่งหนีไปบ้านเพื่อนข้างบ้าน ส่วนคุณตาตอนนั้นก็พูดกับMว่า ออกไปตอนดึกๆระวังดดนเสือจับกิน แต่Mตอนั้นตัดสินใจแล้วและคนที่บ้านก็ไม่ห้ามนะคะ ก็เลยวิ่งออกไปเลย ไปถึงบ้านเพื่อนน้ำมูกน้ำตาไหล ใช้เสื้อเช็ดหน้าขนาดที่เปียกหมด ยายของเพื่อนข้างบ้านถึงขนาดเปลี่ยนเสื้อให้ ตอนนั้นแกคงสงสารแหละ จำได้ว่าเพื่อนยังถามอยู่เลยว่าจะมาเป็นน้องเพื่อนหรอ (เพื่อนอายุมากกว่า1ปีนะคะ) สุดท้ายMก็จำไม่ได้ว่าMกลับบ้านยังไง เพราะวันนั้นร้องไห้หนักมาก แล้วภาพตัด
หลังจากนั้นก็ชีวิตเหมือนเดิมมีนอยมีโกรธสะสมไปเลื่อยๆ มาต่อช่วงอยู่ประถมสังคมใหม่ๆกันค่ะ (ก็มีเพื่อนเก่านะคะ แต่ไปสนิทกับเพื่อนกลุ่มอื่นด้วย) Mได้รู้จักกับเพื่อนในหมู่บ้านเดียวกันนี่แหละ ให้ชื่อว่า Nนะคะ นัดกันกินขนม ซื้อส้มตำมานั่งกินหน้าบ้านMทุกเย็นตอนเลิกเรียนเลย (บ้านM ติดวัดถัดวัดไปคือโรงเรียนค่ะ) และช่วงประถมก็เริ่มมีการทำพาานสำหรับไหวครู ที่นักเรียนต้องออกไปเก็บดอกไม้กันเองเพื่อนทำพาน Mเองก็ได้นัดกับเพื่อนๆนะคะว่าอยากไปเก็บดอกไม้ด้วย มันน่าสนุกมากสำหรับMตอนนั้นเพราะก่อนหน้านั้นไม่ไปบ้านเพื่อนใกล้ๆก็แค่ข้างบ้าน แต่นี่คือสำรวจหมู่บ้านเก็บดอกไม้เลย พอกลับมาที่บ้านเป้นช่วงที่พ่อกลับมาหาค่ะ ก็บอกกับที่บ้านว่าจะไปเก็บดอกไม้กับเพื่อน พ่อตอนนั้นก็อนุยาตนะคะ โดยมมีข้อแม้ว่าให้ใส่นาฬิกาไปด้วยและพ่อจะตั้งนาฬิกากับบ้านไว้ Mก็โอเคเพราะอยากไปมาก มาวันเสาร์เราก็เตรียมตัวออกไป ตอนนั้นใส่นาฬิกาพ่อไปอวดเพื่อนด้วย นัดกับเพื่อนช่วง11โมงนี่แหละ เพราะจะไปกินส้มตำกันด้วย แต่เพราะแต่ละคนพึ่งมานะคะ ไม่หิวกันกะจะไปกินหลังเก็บดอกไม้เสร็จ Mกับเพื่อนวนรอบหมู่บ้านได้ดอกไม้นิดเดียว ไม่นานนาฬิกาของMก็ดังค่ะ ตอนนั้นกำลังเมาส์กับเพื่อนสนุกมากปั่นจักรยานอยู่ แล้วเพื่อนก็ถามว่าเสียงอะไรดังรึเปล่า Mถึงรุ้ตัวว่านาใิกาดังแล้ว ตอนนั้นเวลาประมาณมานบ่ายๆนี่แหละ Mจำไม่ได้แม่นนะคะ Mก้เลยต้องบอกเพื่อนว่าต้องกลับแล้ว ตอนนั้นนอยมากที่พ่อตั้งเวลาไว้เร็วเกินไป เพราะยังไม่ได้ไปกินส้มตำกับเพื่อนๆเลย การออกไปนอกบ้านของMถ้าช่วงที่พ่อยู่ก็จะใส่นาฬิกาตลอดนะคะ แต่หลังๆมาMก้เริ่มไม่ไปไหนละ ไม่ใช่ไม่ชอบแต่เพราะกว่าจะได้ไป ก็จะต้องทำงานบ้านก่อน หรือก็คือจะได้คำถามว่า ไปทำไหม งานนี่ยังไม่ทำจะทำตอนไหน ไม่ทำหรอและคำถาม มันจำเป็นต้องไปหรอ Mก็เลยเริ่มไม่ไปไหนแล้ว
ช่วงจะขึ้นป.2 Mก็มีน้องชายเพิ่มมาในชีวิตแบบเป็นๆแล้วนะคะ ช่วงนี้ก็หนัหน่อยเพราะช่วยดูแลน้อง อ๊ากกกกก ช่วงนี้รับบทพี่สาวสุดๆ Mเคบเกลียดน้องเพราะตอนได้ของขวัญจากคุณป้าช่วงไปเที่ยวแกอยากให้Mได้ตุ๊กตามากตอนนั้น มันมีตุ๊กตาน่ารักมาก เป็นตุ๊กตาแมวยื่นหัวออกมาจากในถุง Mเลยเลือกมา1ตัว Mเองก็ชอบที่มันขนปุยๆ ระหว่างทางกลับจากเที่ยว น้องชายMยังเด้กมากตอนนั้น ไม่รู้ว่าน้องได้ตีกตาMไปถือไว้ได้ยังไง อาจจะคนในครอบครัวใครเอาให้น้องกอด ทั้งที่Mเองยังไม่ออกจากถุงเลย Mเห็นเข้าพอดีเลยแย่งคืนจากน้อง ตอนนั้นครอบครัวMก็บอกว่าให้น้องเล่นบ้าง Mแอบน้อยใจเลยแสดงหน้าไม่พอใจออกมา แต่ก็ยื่นให้น้องนะคะ แม่เราก้เห้นพฤติกรรมMจึงโทษป้าว่าไม่ซื้อให้ครบคน ตอนนั้นป้าเราก็ไม่ได้เถียงอะไร จากนั้นเราก็แทบไม่ได้จับตุ๊กตานั้นเลยค่ะ (ได้มาอีกทีหลังผ่านมรสุมน้ำลาย ขนาดที่ขนนุ่มๆแข็งจากการซักผิดวิธีของแม่ด้วย) Mเริ่มรู้สึกว่าหลังมีน้องชาย Mก็เริ่มรู้สึกขาดความรักมากขึ้น ถึงแม้จะใช้ชีวติเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือ อาจจะมีงานช่วยเลี้ยงน้องด้วยก็จริง แต่Mเกลียดน้องไม่ค่อยลงนะ คงเพราะเลี้ยงช่วยด้วยแหละ(อยากเกลียดน้องจริงๆจังๆเดดดดดดด้) งานบ้านก็ยังทำเหมือนเดิมแต่เพราะMบ่นเรื่องงานเยอะแม่เลยสั่งให้พี่ชายล้างถ้วยจานช่วยนะคะ ก็สลับวันกันทำ
//เดี๋ยวมาต่อนะคะ ตัวอักษรเต็ม วันนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เขียนลงแบบนี้ก็รู้สึกได้ระบายของวันนี้ลงด้วย
ขอพื่นที่ระบายกับเล่าถึงมุมมองของเราที่มีต่อครอบครัวค่ะ
สวัสดีทุกคนค่ะ เราขอใช้ชื่อในน้ว่า M นะคะ
M อยากมาระบายปมที่เกิดขึ้นในช่วงอายุMนี่แหละที่รู้สึกว่ามันสะสมมาเลื่อยๆ ปัจจุบันมันมีผลกับความคิดการกระทำของMมากๆ Mรู้ตัวแต่ก็อดทำพฤติกรรมบางอันไม่ได้ เลยจะมาขอใช้พื้นที่ระบาย บันทึกสั่งที่เกิดขึ้นลง ถ้าคนในครอบครัวมาอ่านอาจจะ พอรู้ได้บ้างว่าบางอย่างที่Mพูดไปไม่ใช่ไม่เข้าใจครอบครัว แต่ครอบครัวมักบอกกับMว่า Mไม่เข้าใจเขา Mก้พยายามแล้ว
แต่Mอดคิดไม่ได้ว่าคำพุดบ้างอย่างก็เหมือนกับว่าครอบครัว สั่งให้อดทนและMเป็นแบบที่เขาพูด
(แม่เลิกคิดไปเองได้ไหม Mไม่ได้เป็นแบบแม่พูด Mคิดว่าMมีเหตุผลต่างๆมากพอ แค่Mกัวการพูดกับแม่)
//อ่านๆอาจจะรู้สึกเราอคติกับแม่รึเปล่า แต่เราก็ไม่แน่ใจ รู้สึกว่าแม่มีบทบาทในชีวิตเรามากที่สุดแล้ว
.
.
.
ขอย้อนไปตั้งแต่เด็กๆช่วงอนุบาล-ประถมของMค่ะ Mเกิดและโตมากับญาติฝั่งแม่ค่ะ เพราะพ่อและแม่ทำงานต่างจังหวัดMยังเด็กก็จะอยู่กับคุณยายมากกว่า M มีพี่ชาย1คนค่ะ ซึ่งช่วงที่Mรู้มาก็คือ ช่วงอยู่ศูนย์เด็กMจะอยู่กับยายระหว่างที่พี่จะอยู่กับพ่อแม่ค่ะ ตอนนั้นยังเด้กไม่ค่อยจะคิดอะไรกับช่วงนี้เท่าไหร่ Mมีเพื่อนสนิท2คนค่ะ เป็นคนแถวบ้านกันนี่แหละMชอบเล่นกับ2คนนี้มาก เราเรียนด้วยกันจนถึงช่วงอนุบาล ช่วงนี้แม่ย้ายกลับมาอยู่ด้วยแล้วค่ะ กับพี่ชาย ส่วนพ่อวนกลับมาหาบ้างบางครั้งค่ะ Mช่วงนั้นชอบที่แม่มาอยู่ด้วยมากค่ะ Mเป็นพวกที่ตอนนั้นอยากเอาใจแม่มากชอบทำงานบ้านช่วยงานหลายๆอย่าง และติดเพื่อนด้วยค่ะ ชอบไปเล่นบ้านเพื่อนสนิทมาก ตอนนั้นคือไปบ่อยมากชอบทำอะไรตามเพื่อน เป็นตอนที่มีความสุขกับชีวิตสุดๆ555 Mเป็นพวกชอบเกรงใจคนอื่นมากค่ะช่วงเด็ก จำได้ว่าคุณป้าน้าชอบถามว่าอยากได้อะไรเป็นของขวัญวัเกิดMจะปฎิเสธตลอด แต่อีกอย่างก้เพราะMเอาแค่ของขวัญจากพ่อนะคะ555 พ่อMชอบซื้อหนังสือนิทานมาให้ทุกครั้งที่แกกลับมาบ้านค่ะ Mเลยไม่ค่อยซื้อของเล่นเท่าไหร่ กับคุณป้าพี่ของพ่อเองก็ส่งมาให้อยู่แล้ว ช่วงอายุนี้คือมีความสุขสุดๆกับคิดว่าที่ทำไปที่บ้านต้องชอบMนะคะ แต่อาจเพราะMคิดอย่างนี้Mเลยคาดหวังไว้เยอะ(แบบว่าคาดหวังความรักเยอะไปหน่อยมั้ง)
หลังจากช่วงที่แม่มาอยู่ด้วยMก็เริ่มช่วยงานบ้านบ่อยขึ้น จากแต่ก่อนที่ทำเพราะเราอยากช่วยจริงๆทำแบบเต็มใจ หลังๆก็เริ่มรุ้สึกว่าเป็นหน้าที่ ที่ต้องทำตลอดไปแล้ว(ไม่ใช่Mไม่รู้นะว่าคือหน้าที่ แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆบางอย่าMก็ต้องทำ ในขณะที่Mเองเห็นว่างานบางอัน พี่ชายเอ็มกลับไม่ต้องทำ) งานบางอย่างMเริ่มทำให้เอ็ม คิดว่าทำไหมถึงเรียกแค่M ทั้งที่พี่ชายเอ็มที่อยู่ตรงนั้น ที่อยุ่ใกล้ก็เอ็มถึงไม่ต้องทำบ้าง มันก็ทำให้เอ็มแอบน้อยใจนิดหน่อย Mก็ได้แต่บ่นในใจแหละตอนนั้น Mก็ยังไปเล่นกับเพื่อนเหมือนเดิม แต่เหมือนว่าพอแม่กลับมาอยู่บ้านแล้ว Mก็มีเวลาเล่นน้อยลงมาก สำหรับMนะ ปกติถ้าเสาร์อาทิตย์ก้กลับบ้านบ่าย3 แต่บางครั้งแม่ก็จะบ่นว่าไปทั้งวันอยู่ช่วยงานบ้านก่อนไม่ดีกว่าหรอ Mก้จะเปลี่ยนมาทำงานบ้านก่อนถึงไปเล่นค่ะ Mเป็นพวกชอบทดเวลาว่า มาช้าก็กลับช้าเพิ่มซักหน่อย มีหลายครั้งค่ะ ที่กลับช้ากว่าปกติ แต่ส่วนมากก็ไม่เกิน4โมงเย็นนะ พ่อแม่เพื่อนMจะจำเวลากลับปกติของเราได้ เขาก้จะถามว่าจะอยู่ต่อไหมหรือกลับเวลาเดิม Mจะรู้สึกเกรงใจก็กลับตลอดเลย แต่มีครั้งนึงMไปบ้านเพื่อนแล้ว เพื่อนMชวนออกไปขี่รถเล่น(ไปกับครอบครัวเขา ) Mก็ไปค่ะโดยไม่ได้บอกยายกับแม่ไว้ คิดว่าน่าจะกลับมาก่อนเวลากลับอยู่แล้ว สรุปฝนตกระหว่างนั้นด้วยความนั่งรถไถนาไปค่ะ สรุปก็ไปนั่งรอที่ศาลากลางบ้าน กลับถึงบ้านเพื่อนก็เกือบ4โมงค่ะ แต่ตอนนั้นด้วยความที่ฝนตก และเหมือนว่าที่บ้านMจะมารับMช่วงนั้น แต่บ้านเพื่อนMก้บอกว่าไปขี่รถเล่นนะคะ ที่บ้านMเลยโกรธที่กลับมาช้ากับไปไหนไม่บอกค่ะ จำได้ว่าโดนยายกับแม่ใช้ไม้แขวนผ้าตีขา;-; ตอนนั้นทั้งเสียใจทั้งโกรธที่Mไม่ได้กลับช้าขนาดนั้น ตอนนี้ก้เริ่มเป็นตอนที่Mเริ่มมีความรู้สึกแปลกๆกับความคิดเดิมของตัวเองนะคะ เกี่ยวกับสิ่งที่ทำ พวกงานบ้านที่Mทำแบบเต็มใจทำ หวังผลคือความรักกับคำชมนั้นแหละค่ะ(อันนี้คงเพราะแม่ย้ายมาอยู่มั้ง Mตอนนั้นถึงคิดแบบนี้) เรื่องออกไปเล่นกับเพื่อนMก็เริ่มคิดเหมือนกันค่ะ กับที่ว่าพี่ชายเราก็ไปได้กลับช้า แต่คนที่โดนตีทำไหมมีแค่M (ตอนนั้นไม่ได้คิดนะคะว่าชายหญิงไม่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็คิดอย่างอื่นแทนว่าตอนนั้นบ้านเพื่อนMถัดจากบ้านMไม่ถึงแค่บ้าน2หลัง) นี้ถึงประถมMก้เริ่มคิดแบบนี้ แอบน้อยใจครอบครัวเรื่องที่พี่ทำได้แต่Mทำไม่ได้มากขึ้นค่ะ
Mช่วงขึ้นประถมแรกๆเป็นช่วงที่แม่กำลังจะมีน้องค่ะ ตอนนั้นก็ไม่ได้วุ่นวายอะไรมากเพราะที่เป็นมาก้ยังเหมือนเดิมค่ะ มีแค่เรื่องทีเริ่มทะเลาะกับพี่ชายมากขึ้น เราตอนนั้นค่อนข้างอ้วนเพราะกินนมช็อกโกแลตมาไปหน่อย(ของขวัยจากพ่อเปลี่ยนมาเป็นมนช้อกโกแลตค่ะ เราชอบมากเลยกินแบบห่ายลงตัว555) เรื่องที่ทะเลาะกับพี่ชายส่วนมากไม่เกี่ยวกับเรื่องอ้วนหรอกค่ะ อันนี้พุดให้ฟังเฉย555 เป็นเรื่องการใช้คำพูดมากกว่า ตอนนั้นหนังเรื่อง กระสือยายสาย (มีใครรู้จักไหมคะ) กำลังดังเลยค่ะ พี่ชายMชอบเรื่องนี้มาก และชอบพูดให้Mว่าเป็นกระสือบ่อยๆ บ้านMจะติดกับวัด วัดอยู่ตรงข้าวบ้านเลยค่ะ และพี่ชายมักพูดว่าMถอดหัวลอยเข้าไปในวัดบ้าง บอกว่าMกินน้ำลายกระสือบ้าง Mตอนนั้นไม่ชอบที่พี่ชายชอบพุดล้อมากเลยค่ะ มีครั้งนึงพี่ชายล้อเรื่องนี้กับรู้ร่างMนี่แหละ Mโกรธมากตอนนั้นเลยจับไม้กวาดมาขู่พี่ชายค่ะ สรุปพี่จับไม้กวาดมาเหมือนกัน ก็ตีๆกันแบบเด็กนี่แหละค่ะ แต่คือMสุ้พี่ไม่ได้จบด้วยการที่Mร้องไห้... Mทั้งโกรธทั้งร้องไปฟ้องแม่ว่าพี่ชายพูดให้Mพูดเรื่องตีกันด้วย แม่ก็บอกว่าพี่แค่พูดเล่นแค่นั้นแหละค่ะ เรื่องจบMก็นอยๆเพราะไม่ชอบที่ดดนพูดใส่ หลังจากนี้ศึกตีกันกับพี่ก้แรงขึ้นอีกระดับด้วยการ ใช้ไม้กวาดตีกัน ตอนแรกมาคิดอีกที่ผิดที่Mเริ่มก่อนแหล ลงตัวเองหมด ไม่รู้ทำไหมหลังจากนี้เริ่มเป็นฝ่ายพี่ที่เริ่มหาเรื่องก่อน ก็เกิดศึกไม้กวาดขึ้นอีกค่ะ รอบนี้เป็นMฟาดลงหัวพี่ Mใช้ไม้กวาดหยักไย่(สุ้ไม่ได้ก็อัพสกิลเลย) และพี่ก็ฟ้องแม่ แต่รอบนี้จบด้วยการที่Mโดนดุว่าตีพี่ทำไหม พี่แค่ล้อเล่น... เอาละตอนนั้นร้องไห้หนีไปซ่อนชั้น2ของบ้านในตุ้เสื้อผ้าของป้าแทน ตอนนั้นมีความคิดอยากหนีออกจากบ้านด้วย (คิดว่าMทำไหมคะ คำตอบบบบบบบบบบบคือ ทำ) Mเก็บมาม่าใส่ถุงดำ(ถุงขยะ) เยอะๆแล้วซ่อนในตู้เสื้อผ้าป้า (ไม่รู้ป้าเห็นไหม) แต่ยังไม่ได้หนีไปไหนนะคะ ช่วงสัปดาห์นั้นแหละMพี่ชายก่อนตีกัน รุ้จักกับเด้กข้างบ้านเริ่มสนิทกันและMจากวันที่โดนตีขา ก็เลิกไปบ้านเพื่อนสนิทเลย(คือมีอีกเรื่องนึง แต่น่าอายเกินขอเก็บไว้ก้นบึ้งจิตใจเลยค่ะ) และเด็กข้างบ้านคนนี้ก็มาเล่นกับMบ่อยมาก วันนั้นMทะเลาะกับคุณตาเพราะแกไม่ให้Mดูโทรทัศน์ด้วย แต่พี่ชายMมาขอก็ให้ดู Mน้อยใจมากวันนั้นเลยเก็บของที่ซ่อนไว้วิ่งหนีไปบ้านเพื่อนข้างบ้าน ส่วนคุณตาตอนนั้นก็พูดกับMว่า ออกไปตอนดึกๆระวังดดนเสือจับกิน แต่Mตอนั้นตัดสินใจแล้วและคนที่บ้านก็ไม่ห้ามนะคะ ก็เลยวิ่งออกไปเลย ไปถึงบ้านเพื่อนน้ำมูกน้ำตาไหล ใช้เสื้อเช็ดหน้าขนาดที่เปียกหมด ยายของเพื่อนข้างบ้านถึงขนาดเปลี่ยนเสื้อให้ ตอนนั้นแกคงสงสารแหละ จำได้ว่าเพื่อนยังถามอยู่เลยว่าจะมาเป็นน้องเพื่อนหรอ (เพื่อนอายุมากกว่า1ปีนะคะ) สุดท้ายMก็จำไม่ได้ว่าMกลับบ้านยังไง เพราะวันนั้นร้องไห้หนักมาก แล้วภาพตัด
หลังจากนั้นก็ชีวิตเหมือนเดิมมีนอยมีโกรธสะสมไปเลื่อยๆ มาต่อช่วงอยู่ประถมสังคมใหม่ๆกันค่ะ (ก็มีเพื่อนเก่านะคะ แต่ไปสนิทกับเพื่อนกลุ่มอื่นด้วย) Mได้รู้จักกับเพื่อนในหมู่บ้านเดียวกันนี่แหละ ให้ชื่อว่า Nนะคะ นัดกันกินขนม ซื้อส้มตำมานั่งกินหน้าบ้านMทุกเย็นตอนเลิกเรียนเลย (บ้านM ติดวัดถัดวัดไปคือโรงเรียนค่ะ) และช่วงประถมก็เริ่มมีการทำพาานสำหรับไหวครู ที่นักเรียนต้องออกไปเก็บดอกไม้กันเองเพื่อนทำพาน Mเองก็ได้นัดกับเพื่อนๆนะคะว่าอยากไปเก็บดอกไม้ด้วย มันน่าสนุกมากสำหรับMตอนนั้นเพราะก่อนหน้านั้นไม่ไปบ้านเพื่อนใกล้ๆก็แค่ข้างบ้าน แต่นี่คือสำรวจหมู่บ้านเก็บดอกไม้เลย พอกลับมาที่บ้านเป้นช่วงที่พ่อกลับมาหาค่ะ ก็บอกกับที่บ้านว่าจะไปเก็บดอกไม้กับเพื่อน พ่อตอนนั้นก็อนุยาตนะคะ โดยมมีข้อแม้ว่าให้ใส่นาฬิกาไปด้วยและพ่อจะตั้งนาฬิกากับบ้านไว้ Mก็โอเคเพราะอยากไปมาก มาวันเสาร์เราก็เตรียมตัวออกไป ตอนนั้นใส่นาฬิกาพ่อไปอวดเพื่อนด้วย นัดกับเพื่อนช่วง11โมงนี่แหละ เพราะจะไปกินส้มตำกันด้วย แต่เพราะแต่ละคนพึ่งมานะคะ ไม่หิวกันกะจะไปกินหลังเก็บดอกไม้เสร็จ Mกับเพื่อนวนรอบหมู่บ้านได้ดอกไม้นิดเดียว ไม่นานนาฬิกาของMก็ดังค่ะ ตอนนั้นกำลังเมาส์กับเพื่อนสนุกมากปั่นจักรยานอยู่ แล้วเพื่อนก็ถามว่าเสียงอะไรดังรึเปล่า Mถึงรุ้ตัวว่านาใิกาดังแล้ว ตอนนั้นเวลาประมาณมานบ่ายๆนี่แหละ Mจำไม่ได้แม่นนะคะ Mก้เลยต้องบอกเพื่อนว่าต้องกลับแล้ว ตอนนั้นนอยมากที่พ่อตั้งเวลาไว้เร็วเกินไป เพราะยังไม่ได้ไปกินส้มตำกับเพื่อนๆเลย การออกไปนอกบ้านของMถ้าช่วงที่พ่อยู่ก็จะใส่นาฬิกาตลอดนะคะ แต่หลังๆมาMก้เริ่มไม่ไปไหนละ ไม่ใช่ไม่ชอบแต่เพราะกว่าจะได้ไป ก็จะต้องทำงานบ้านก่อน หรือก็คือจะได้คำถามว่า ไปทำไหม งานนี่ยังไม่ทำจะทำตอนไหน ไม่ทำหรอและคำถาม มันจำเป็นต้องไปหรอ Mก็เลยเริ่มไม่ไปไหนแล้ว
ช่วงจะขึ้นป.2 Mก็มีน้องชายเพิ่มมาในชีวิตแบบเป็นๆแล้วนะคะ ช่วงนี้ก็หนัหน่อยเพราะช่วยดูแลน้อง อ๊ากกกกก ช่วงนี้รับบทพี่สาวสุดๆ Mเคบเกลียดน้องเพราะตอนได้ของขวัญจากคุณป้าช่วงไปเที่ยวแกอยากให้Mได้ตุ๊กตามากตอนนั้น มันมีตุ๊กตาน่ารักมาก เป็นตุ๊กตาแมวยื่นหัวออกมาจากในถุง Mเลยเลือกมา1ตัว Mเองก็ชอบที่มันขนปุยๆ ระหว่างทางกลับจากเที่ยว น้องชายMยังเด้กมากตอนนั้น ไม่รู้ว่าน้องได้ตีกตาMไปถือไว้ได้ยังไง อาจจะคนในครอบครัวใครเอาให้น้องกอด ทั้งที่Mเองยังไม่ออกจากถุงเลย Mเห็นเข้าพอดีเลยแย่งคืนจากน้อง ตอนนั้นครอบครัวMก็บอกว่าให้น้องเล่นบ้าง Mแอบน้อยใจเลยแสดงหน้าไม่พอใจออกมา แต่ก็ยื่นให้น้องนะคะ แม่เราก้เห้นพฤติกรรมMจึงโทษป้าว่าไม่ซื้อให้ครบคน ตอนนั้นป้าเราก็ไม่ได้เถียงอะไร จากนั้นเราก็แทบไม่ได้จับตุ๊กตานั้นเลยค่ะ (ได้มาอีกทีหลังผ่านมรสุมน้ำลาย ขนาดที่ขนนุ่มๆแข็งจากการซักผิดวิธีของแม่ด้วย) Mเริ่มรู้สึกว่าหลังมีน้องชาย Mก็เริ่มรู้สึกขาดความรักมากขึ้น ถึงแม้จะใช้ชีวติเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือ อาจจะมีงานช่วยเลี้ยงน้องด้วยก็จริง แต่Mเกลียดน้องไม่ค่อยลงนะ คงเพราะเลี้ยงช่วยด้วยแหละ(อยากเกลียดน้องจริงๆจังๆเดดดดดดด้) งานบ้านก็ยังทำเหมือนเดิมแต่เพราะMบ่นเรื่องงานเยอะแม่เลยสั่งให้พี่ชายล้างถ้วยจานช่วยนะคะ ก็สลับวันกันทำ
//เดี๋ยวมาต่อนะคะ ตัวอักษรเต็ม วันนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เขียนลงแบบนี้ก็รู้สึกได้ระบายของวันนี้ลงด้วย