นายกฯคนใหม่ กับวิกฤตประชาธิปไตยในฝรั่งเศส 
.
ตั้งแต่การล้มล้างการปกครองและการสถาปนาสิทธิมนุษยชนในปี 1789 ค่านิยม “เสมอภาค เสรีภาพ ภราดรภาพ” (Liberté Égalité Fraternité) ของฝรั่งเศสถูกนำมาเป็นต้นแบบทางความคิดของผู้ที่คลั่งไคล้ในระบอบประชาธิปไตยจากทั่วทุกมุมโลก 
.
รัฐสวัสดิการของฝรั่งเศสต้องใช้งบประมาณถึง 32% ของ GDP (สูงที่สุดในโลก) เพื่อสร้างความเท่าเทียมทางสังคม ผ่านการศึกษาฟรี การรักษาฟรี และเงินสนับสนุนต่างๆอีกมากมาย 
.
แต่ดูเหมือนว่ารัฐสวัสดิการนี้จะไม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำในสังคมฝรั่งเศสได้อย่างแท้จริงและยิ่งเป็นการเพิ่มหนี้สินให้กับประเทศ
.
หลายปีที่ผ่านมาเราได้เห็นการประท้วงที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆในฝรั่งเศส ตั้งแต่กลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง (gilets jaunes) กลุ่มนักศึกษา ไปจนถึงกลุ่มสายอาชีพต่างๆ ที่ออกมาเรียกร้องความเท่าเทียมและความเป็นธรรมในสังคม
.
รัฐบาลถูกกล่าวหาว่าเป็น “รัฐบาลเผด็จการ” หลังจากที่ได้ใช้กลไกทางกฎหมายมาตรา 49.3 ของรัฐธรรมนูญ ผ่านกฎหมายสำคัญของประเทศโดยไม่ให้รัฐสภาออกความคิดเห็นถึง 23 ครั้ง
.
เป็นหนึ่งในเหตุที่ทำให้ประธานาธิบดี Emmanuel Macron ต้องแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ Gabriel Attal ที่อายุเพียง 34 ปีเพื่อเป็นแรงผลักดันในการสร้างความหวังใหม่ให้กับประเทศ
.
อย่างไรก็ตามพรรคฝ่ายค้านของฝรั่งเศสมองว่ามันเป็นการเปลี่ยนเพียง “หน้าฉาก” เพื่อเป็นการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐมนตรีปัจจุบัน รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่เท่านั้น
.
หนึ่งในงานเร่งด่วนของนายกฯคนใหม่คือการลดหนี้สาธารณะที่สูงถึง 111% ของ GDP การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความปรองดองในสังคม ไปจนถึงการจัดการงาน Paris 2024 Olympics ภายใต้วิกฤตทางเศรษฐกิจและสังคมเหล่านี้ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี 
.
ทิศทางของการเมืองยุโรปจะเป็นอย่างไร ? โปรดติดตามตอนต่อไป… 
.
ฤกษ์อารี นานา - แมน

Cr. RightTeam