"เท้ง" หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้านจวก 5 สวัสดิการถ้วนหน้าไทย ทั้งรักษาพยาบาล บำนาญชราภาพฯลฯ กระจัดกระจายเหลื่อมล้ำ

“เท้ง ณัฐพงษ์” ชำแหละ “ 5 สวัสดิการถ้วนหน้าของไทย” ทั้งรักษาพยาบาล บำนาญชราภาพฯ กระจัดกระจาย เบี้ยหัวแตก ความเหลื่อมล้ำ
 
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความจากการร่วมกิจกรรมโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน การขับเคลื่อนระบบสวัสดิการถ้วนหน้าฯ ที่เทศบาลเมืองพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยระบุว่า
ปิดท้ายผู้นำฝ่ายค้านสัญจรที่จังหวัดลำปาง “สวัสดิการถ้วนหน้ากับพลังของท้องถิ่น”
 
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเดินทางมาเทศบาลเมืองพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เพื่อติดตามการดำเนินการนโยบายสวัสดิการสังคมของรัฐ โดยได้พูดคุยในหัวข้อ “การขับเคลื่อนระบบสวัสดิการถ้วนหน้าการประสานบทบาทและพลังของรัฐ ท้องถิ่น และชุมชน”
ทำไมเราจึงเลือกมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องระบบสวัสดิการกับพี่น้องประชาชนในจังหวัดลำปาง เนื่องจากจังหวัดลำปางเป็นจังหวัดที่มีผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ลำพังคิดเป็น 12% (ประมาณการ) ของประชากรในจังหวัด มากเป็นอันดับ 7 ของประเทศ และจำนวนคนพิการคิดเป็น 5% ของประชากรในจังหวัด สูงเป็นอันดับ 5 ของประเทศ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจังหวัดลำปางมีกลุ่มคนเปราะบางที่ต้องพึ่งพาสวัสดิการของรัฐเป็นอย่างมาก
เมื่อพูดถึงปัญหาของระบบสวัสดิการของรัฐสามารถแบ่งได้เป็น 5 ด้านด้วยกัน คือ “กระจัดกระจาย เบี้ยหัวแตก ความเหลื่อมล้ำ คิดจากส่วนกลาง และตกหล่น”
ระบบสวัสดิการของไทยกระจัดกระจาย
1.ระบบสวัสดิการของไทยที่ ”กระจัดกระจาย“ มีการแยกเป็นประเภทต่างๆ จำนวนมาก หากมองในแง่ดี ก็ถือว่ามีครอบคลุมเกือบทุกเรื่อง แต่ถ้ามองในแง่ความยุ่งยาก บางประเภทก็อาจมีซ้ำซ้อน และสับสนกันได้ โดยสวัสดิการของไทยมักแยกตามหน่วยงานราชการ ใช้เกณฑ์และเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปในแต่ละหน่วยงานที่เป็นเจ้าของงบประมาณ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนมีความสับสน และต้องใช้เวลาในการประสานงานแต่ละแห่ง บางแห่งต้องไปหลายครั้ง เพราะเอกสารไม่ครบถ้วน
 ซึ่ง กมธ. สวัสดิการสังคมของ สส. ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ จึงได้จัดทำรวบรวมสวัสดิการของทั้งหมดของประเทศไทยออกมาเป็นเล่มรายงานฉบับสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ดียังมีสิ่งที่ต้องพัฒนาต่อในเรื่องของการจัดสรรงบประมาณของแต่ละหน่วยงานเพื่อลดความซ้ำซ้อน
 
2.ระบบสวัสดิการของไทยที่เป็น “เบี้ยหัวแตก” มีหลายประเภทตามที่กล่าวข้างต้น แต่การช่วยเหลือในแต่ละประเภทมักช่วยเหลือเพียงน้อยมาก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่ได้รับคนละ 600 บาท/เดือน เมื่อเปรียบเทียบกับเส้นความยากจน 3,000 บาท/เดือน จะเห็นว่ายังต่ำกว่ามาก
สวัสดิการของไทยเหลื่อมล้ำ  "รักษาพยาบาล บำนาญชราภาพ"
3.ระบบสวัสดิการของไทยที่ “เหลื่อมล้ำ” ตามฐานอาชีพหรือการขึ้นทะเบียน อย่างสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ประกันสังคมสำหรับผู้ประกันตน และหลักประกันสุขภาพสำหรับประชาชนทั่วไป ซึ่งแต่ละระบบก็มีสิทธิประโยชน์แตกต่างกันมาก หรือระบบบำนาญชราภาพก็มีทั้งบำนาญข้าราชการ กองทุนชราภาพสำหรับผู้ประกันตน กองทุนการออมแห่งชาติ และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ นอกจากจะนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำระหว่างประชากรแต่ละกลุ่มแล้ว ยังเป็นการสร้างข้อจำกัดสำหรับรัฐบาลเองในการบริหารจัดการและกำกับดูแล ในขณะที่ประเทศสิงคโปร์ มีเพียงแค่กองทุนเดียวที่ของกลุ่มทุกบุคคลทำเงินในกองทุนสามารถเข้าถึงประชาการทุกกลุ่มในประเภท ซึ่งเป็นตัวอย่างที่น่าศึกษาเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาข้างต้น
ระบบสวัสดิการของไทยไม่เปิดให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วม
4.ระบบสวัสดิการของไทยที่ “ส่วนกลางคิด” โดยผ่านทางหน่วยราชการส่วนกลางต่าง ๆ โดยไม่เปิดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ แถมยังกำหนดให้เงินค่าใช้จ่ายสวัสดิการของประชาชนไปเป็นเงินของท้องถิ่น ซึ่งกลายเป็นการกันเงินส่วนท้องถิ่นที่จะไปดำเนินการตามนโยบายของตน ทั้งที่การตัดสินใจมาจากรัฐบาล(ราชการส่วนกลาง) รวมถึงการตัดสินใจบางเรื่องก็ยังขาดความโปร่งใสในการดำเนินการจนเป็นข้อสงสัยให้กับผู้คนในสังคม อย่างการนำเงินจากกองทุนประกันสังคมไปลงทุน เป็นต้น
สวัสดิการของไทยไม่มีระบบฐานข้อมูลรายบุคคลที่ดี
และสุดท้าย 5. ระบบสวัสดิการของไทยที่ “ตกหล่น” สวัสดิการของไทยไม่มีระบบฐานข้อมูลรายบุคคลที่ดีพอ ส่งผลให้เกิดความซ้ำซ้อนของการได้รับสวัสดิการ และที่สำคัญคือ การตกหล่นของประชากรอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจไม่ได้รับสวัสดิการใด ๆ เลย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ จำนวนของเด็ก 0 - 6 ปี ที่อยู่ในครอบครัวยากจน ประมาณ 30% ไม่ได้รับเงินอุดหนุนเด็กเล็ก และ เด็กกว่า 1 ล้านคน ตกหล่นจากระบบการศึกษา ปัญหาในส่วนนี้ นอกจากจะมาจากการขาดฐานข้อมูลรายบุคคลรวมที่เชื่อมโยงกันทุกหน่วยงานแล้ว ยังเกิดจากการตั้งเกณฑ์การได้รับสวัสดิการที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง หรือไม่มีการรวบรวมข้อมูลอย่างจริงจัง และทันการณ์ด้วย
ปัญหาทั้ง 5 ด้านของสวัสดิการของไทยจึงเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ประชาชนไทยยังไม่ได้รับสวัสดิการได้ครบถ้วน ซึ่งหากแก้ปัญหาของสวัสดิการของไทยเหล่านี้ได้ก็จะทำให้ประชากรกลุ่มต่าง ๆ ของลำปางตามที่กล่าวข้างต้นได้รับสวัสดิการอย่างครอบคลุม รวมถึงประชากรกลุ่มต่าง ๆ ของทั้งประเทศด้วยครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากข่าวต้นฉบับได้ที่: https://www.hfocus.org/content/2025/03/33444
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่