ครั้งนี้เราตั้งใจมานอนที่นี่ เพราะรอบที่แล้วเราขับรถขึ้นมาเที่ยวแล้วรู้สึกว่ามันสวยมาก เลยอยากมาลองนอนดูสักครั้ง ที่นี่ก็ยังคงสวยเหมือนเดิม และลานกางเต็นท์ที่นี่ก็ถือว่าทำได้ดีเลย โดยจะเป็นเหมือนขั้นบันได ทำให้เต็นท์ด้านหน้าไม่บังวิวเต็นท์ด้านหลัง ตื่นเช้ามาเจอวิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ มันไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว

ขับรถกินลมชมวิวมาเรื่อยๆ จากห้วยน้ำดัง นานไหมก็จำไม่ได้ เหมือนจะนานอยู่เหมือนกัน GPS บอกให้ไปทางไหนเราก็ไปทางนั้น บอกซ้ายก็ไปซ้าย บอกขวาก็ไปขวา บางทีบอกว่าให้เลี้ยวเราก็เลย คุยกันเพลินไปหน่อย 555+ ขับไปขับมาเริ่มแสบท้องหน่อยๆ เหลือบมองนาฬิกาก็รู้ว่ามันถึงเวลากินข้าวแล้ว ถ้าท้องมันจะตรงเวลาแบบนี้ นาฬิกาไม่ต้องมีก็ได้ พอดีเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ริมทาง รถจอดเยอะ คนเต็มร้าน เลยคิดว่าต้องอร่อยแน่นอน เลยจอดรถทันที

จัดไปคนละหนึ่งชาม อร่อย ไม่ผิดหวัง ดูแล้วทั้งร้านเหมือนจะมีแต่ขาประจำ เพราะคนขายกับลูกค้าดูสนิทสนมกันทุกโต๊ะ

ขับมาอีกหน่อยเราก็ถึงทางแยกเลี้ยวเข้าดอยอ่างขาง

ผม: จะแวะสะพานแขวนไหม

คุณแฟน: ทำหน้างง สะพานแขวนอะไรอะ 

ผม: ที่มีภูเขารูปหัวใจ แล้วที่เราดูยังไงมันก็ไม่เป็นหัวใจอะ

คุณแฟน: ใช่ที่นี่หรอ

ผม: ความจำสั้นจัง พึ่งมาไม่กี่ปีเอง ที่เราจอดรถในวัดแล้วเดินเข้าไปไง

คุณแฟน: นั้นมันที่สุราษไม่ใช่หรอ (พร้อมเปิดข้อมูลจาก google ให้ดู) ที่นี่ใช่ไหม สะพานแขวน & เขารูปหัวใจ

ผม: ชวนคุยเรื่องอื่น แต่ก็โดนแซวเรื่องนี้ไปตลอดทาง จนถึงลานกางเต็นท์

มารอบนี้ระหว่างทางขึ้นไม่เห็นดอกพระญาเสือโคร่งเหมือนตอนมารอบที่แล้ว ไม่แน่ใจว่าบานไปแล้วหรือยังไม่ถึงเวลา พอถึงลานกางเต็นท์เราก็ไปดูสถานที่ แล้วไปจ่ายเงินค่ากางเต็นท์ วันนี้เรามาปักสมอกันที่บริเวณ "จุดชมวิวม่อนสน" เห็นลานตอนแรกแล้วก็ท้อเหมือนกัน เพราะว่าต้องแบกของลงไป รถเข็นใช้ไม่ได้เพราะไม่มีทางลาด แต่ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกเลยต้องยกลงไป 555+

ที่พักเราคืนนี้เสร็จแล้ว เล่นเอาเหงื่อตก เหนื่อยตรงยกของนี่ละ

สิ่งต่อไปที่จะทำหลังจากกางเต็นท์ก็คือการอาบน้ำ เราจึงเดินไปเตรียมตัว และเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำที่รถ แต่เราก็สะดุดตากับน้อง Shadow (ชื่อนี้เราตั้งเอง)  ที่นั่งอาบแดดอยู่กลางถนน เลยแวะเล่นกับน้องซะหน่อย

น้องนั่งอาบอาบแแดดแก้หนาว

น้องขี้อ้อนมาก บอกให้ถ่ายรูปก็มองกล้องซะด้วย

ที่นี่มีร้านอาหาร มีบริการหมูกระทะ จิ้มจุ่ม ยกไปให้ถึงหน้าเต็นท์ เป็นร้านค้าของชาวบ้านแถวนี้ครับ และที่สำคัญกว่านั้นคือมีบริการอาบน้ำอุ่น คนละ 50 บาท แฟนผมอยากอาบมาก เพราะเค้าบอกว่ารู้สุกอาบน้ำไม่สะอาดมาหลายวันแล้ว ต้องรีบอาบเพราะน้ำมันเย็นมาก วันนี้เราเลยอาบน้ำอุ่น ทำการจ่ายเงิน และเดินไปอาบด้านหลังร้าน แฟนผมบอกว่าวันนี้สบายตัวมากครับ แต่สำหรับผมต้องบอกเลยว่ารอบหน้าไม่เอาแล้วนะแบบนี้ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ผมจะไม่อาบเด็ดขาด 555+ เพราะว่าโดยส่วนตัวแล้วผมจะเป็นคนที่ค่อนข้างมีปัญหากับห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งที่นี่เป็นห้องน้ำเล็กๆ กำแพงและพื้นเป็นปูน และเป็นห้องอาบน้ำรวมกับห้องส้วม และเล็กมาก ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจในการใช้ (อันนี้เป็นความรู้สึก และความเรื่องมากส่วนตัวครับ 555+) 

มาถ่ายรูปเช็คอินกับป้ายสถานที่กันสักหน่อย

นั่งชมวิวสวยๆ กับอากาศเย็นๆ ยามพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า

ตรงนี้วิวดีมากเลย แต่ว่ามีเต็นท์ของอุทยานกางไว้เต็มหมดแล้ว

นางแบบโดนน้องหมาแย่งซีน 555+

ระหว่างทางไม่เห็น แต่ตอนนี้มาบานอยู่หน้าเต็นท์เราแล้ว

วิวเบื้องหน้าที่มีภูเขาสวยๆ กับแสงสีส้ม พร้อมด้วยต้นไม้ที่มีดอกบานเต็มต้น สุขใดเล่าจะเท่าช่วงเวลาแบบนี้

พี่งสังเกตุว่าเราไม่มีรูปสำหรับมื้อเย็นวันนี้เลยนี่นา เอาเป็นว่าก็กินคล้ายๆ เดิมทุกวัน 

ไออุ่นจากเตาแก๊สก็ดีเหมือนกันนะ

คืนนี้แสงจันท์สวยครับ

บรรยากาศยามคำคืนครับ วันนี้เรามีเพื่อนเต็มลานเลยครับ

เช้านี้ต้องตื่นเช้านิดหน่อย เพราะดวงตะวันขึ้นมาปลุกเราทางหน้าเต็นท์ครับ

แสงยามเช้าครับ

เช้าตื่นมาก็เจอวิวสวยๆ แบบนี้เลย นับว่าคุ้มค่าที่เมื่อวานแบกของลงมาครับ

เช้านี้เราไม่ได้เดินไปตรงจุดชมวิวเลย เพราะตรงหน้าเต็นท์เราก็สวยเหมือนกันครับ

ยืนรับความอบอุ่นจากแสงแดดหน่อย

และแล้วเวลาของความสุขที่นี่ก็หมดลง ได้เวลาเดินทางต่อไปครับ เป้าหมายของวันนี้ได้คำแนะนำจากพี่ที่จอดรถข้างกันเค้าบอกว่าเมื่อคืนไปนอนมาวิวดี เงียบ สงบ คนน้อย ไม่ไกลจากที่นี่ด้วย พี่เค้าเปิดรูปให้ดู พอเห็นแล้วต้องบอกว่าามันใช่เลย นี่คือที่ที่เราต้องการ แค่ไปลุ้นว่าจะเจอคนเยอะไหมแค่นั้น

เช้านี้เราเลยตั้ง GPS ไปยังที่ที่พี่เค้าแนะนำ แล้วมาพบกัน EP. ถัดไปครับ สวยจริงครับ ไม่ผิดหวังตามคำแนะนำเลยครับ