สวัสดีค่ะ เราพึ่งตั้งคำถามนี้เป็นครั้งแรกเพราะรู้ไม่สบายใจเรื่องเพื่อนในห้อง ขอบอกไว้ก่อนว่าเราอยู่ม.2 ปีนี้ขึ้นม.3 ต้องปรับตัวหลายๆอย่าง เรามีเพื่อผู้ชายที่รู้จักกันตั้งแต่ม.1 เขาเป็นคน หน้าตาดี ผิวขาว ตาตี๋ เราสองคนรู้จักกันได้เพราะเจ้าของกระทู้เป็นคนทักไปหาเพราะเหงา แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก ก็คุยกันตามประสาเพื่อนร่วมห้อง แต่เขาชอบแกล้งเราตามประสาเด็กผู้ชาย จนเพื่อนของเราจับจิ้นกับเขา ตอนแรกๆก็ยอมรับว่าเขิน ตอนเพื่อนของเราแซวเนี่ยเขินจนออกนอกหน้า กลายเป็นว่า เราเริ่มแอบมีใจให้เขา แต่เราก็รู้ว่าเราคงไม่มีสิทธิ์ เพราะเขาชอบสาวอนิเมะ ส่วนเราก็มีหนุ่มอนิเมะในใจ ส่วนใหญ่เราจะคุยกันเรื่องอนิเมะ เขาเป็นคนออกแนวซึนๆ ปากแข็ง แต่เราทั้งสองยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน จนกระทั่ง ปิดเทอมใหญ่ม.1 ตอนนั้นเราก็เหงาเพราะอยู่แต่ที่บ้าน เราก็ชอบทักไปหาเขา จนเราเริ่มรู้สึกว่าเราเริ่มชอบเขาเล็กน้อย จนเราคิดได้ว่าเราจะไม่ชอบเขาเพราะ เราแค่อยู่ในวัยเรียน เราไม่ทักไปหาเขาจนกระทั้งก่อนเปิดเทอมที่เขาจะทักมาหาเราเป็นช่วงๆเรื่องเกมตีป้อม แต่เราก็ตอบคำสองคำ พอขึ้ม.2 ทุกอย่างก็ปกติดี จนทางรร.มีการให้นักเรียนเลือกวิชาเลือกเพิ่มเติม เรากับเขาได้อยู่เพิ่มเติมเดียวกัน ตอนนั้นเราก็รู้สึกว้าวุ่นเล็กน้อย ในระหว่างเทอมนั้นเราก็ชอบไปนั่งเล่นเกมกับเขา เรารู้สึกดีมากที่ได้อยู่ใกล้เขา บางทีเราก็แอบแต๊ะอั๋งเขานิดหน่อย เวลาเขาจ้องหน้าเรา เราก็ทำตัวไม่ถูก แต่ก็ต้องนิ่งไว้ แต่ด้วยการเรียน นานทีเราสองคนจะพูดคุยกัน ซึ่งในระหว่างที่เราอยู่ม.2เทอม1 ก็มีเด็กม.1 มาชอบเขา บวกกับมีรุ่นพี่ม.5 มาชอบเขาด้วย เราก็มีความรู้สึกนอยด์ๆไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่มีอยู่วันหนึ่งเรารู้มาว่าพี่ม.5 ได้ทักไปจีบเขา นั่นทำให้เรารู้สึกนอยด์ เขาทักมาถามเราว่า เขาเป็นคนเย็นชาเหรอ? เราก็ตอบว่า ใช่ ทำไม เขาตอบเรามาว่าพี่ม.5 บอกว่าเขาเย็นชา นั่นทำให้เราไม่อยากคุยกับเขา เราเริ่มเมินเขา จนมีเด็กม.1 มาจีบเขา เราก็ทักไปถามเขาว่า รู้ยังมีคนชอบ เขาถามว่าใคร เราก็บอกว่า น้องม.1 อีกคน เขาบอกว่า เขาไม่สนใจ เราถามว่าเนียนๆว่า เป็นแฟนกับพี่คนนั้นแล้วล่ะสิ ถึงไม่สนใจน้องม.1 แต่คำตอบที่ได้คือ เขาบล็อกพี่ม.5 แล้ว เราถามว่าบล็อกทำไม เขาบอกว่าพี่เขาชอบทักมา เขารำคาญ แล้วเขาก็ส่งรูปที่เขาบล็อกพี่ม.5 มาให้ เรายิ้มออกมาทั้งๆที่ไม่รู้จะยิ้มทำไม หลังจากนั้น เรากับเขาก็ทักกันไปทักกันมา แต่มีอยู่วันหนึ่งเขาแค็บหน้าจอโทรศัพท์มาให้เราดูว่าเขาคุยกับเพื่อนเขาอยู่แต่เป็น ผู้หญิงอยู่คนละจังหวัดกันหน้าตาดี น่ารัก สเปคผู้ชายหลายคนๆ เรายอมรับว่าหึง เลยถามไปว่าใคร เขาบอกว่าเพื่อน สมัยประถมตอนนี้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว แต่เราก็ไม่ค่อยปักใจเชื่อสักเท่าไหร่ แล้วเราก็ย้ำสถานะว่าเราเป็นแค่เพื่อนของเขา ไม่ใช่แฟน ไม่มีสิทธิ์ไปหึงเขาออกนอกหน้า เพราะมันเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะคุยกับใครก็ได้ จนม.2เทอม2 ตอนนั้นยอมรับว่า เรามีการเปลี่ยนแปลงจาก ทอมแก่บ้าผู้หญิง กลายเป็น ผู้หญิงหวานๆ ทาแก้มนิด ทาปากอมชมพูน่อยๆ แต่นิสัยคือติดปัญญาอ่อนเหมือนเดิม ซึ่งมันก็จะปกติมาก ถ้าเขาไม่ชอบจ้องเรา เวลาเราเผลอเขาชอบมอง ชอบจ้อง พอเราหันไปเจอเขาก็จะชอบหลบสายตา พอเราถามกับเพื่อนว่า เขาจ้องเราทำไม เพื่อนมักจะบอกว่า เขาชอบเรา แต่เราก็คิดว่าเพื่อนมันแกล้ง ซึ่งเราก็จะมั่นหน้าว่า ที่เขาจ้องเพราะ เราสวย! จนวันหนึ่ง วันนั้นเราเมนส์มาอารมณ์ไม่ค่อยดี ซึ่งเราก็ไม่ได้พาปากกาแดงมา เขาออกจากห้องไปพอดีเราเลยตะโกนไปว่า ขอยืมปากกาแดงหน่อย ซึ่งเขาก็เดินเข้ามาให้ ก่อนที่จะบอกให้เราเอามาคืนด้วย ซึ่งเราก็โอเค แต่เพื่อนของเราดันแซวว่า ไอ...ชอบเราแน่เลย เราถามว่า ทำไม เพื่อนเราบอกว่า ปกติเขาจะไม่ให้ใครยืมของใช้ง่ายๆหรือถ้าให้ยืมเขาจะคิดครั้งละ 5-10 บาท แต่กับเราเขาให้ยืมแถมยังเดินเข้ามาให้ แต่เราก็พยายามที่จะไม่คิดมาก ถึงแม้จะเขินอยู่ก็ตาม หลังจากนั้น เรากับเขาเริ่มใกล้ชิดกัน เวลาที่เราจะขอยืมอะไรเขา เราก็มักจะกระตุกแขนเสื้อเขา แถมเวลาเราเรียนวิชาคอมซึ่งเราก็ไม่ค่อยเก่ง เขาก็มักจะมาช่วยเราเสมอเวลาเราขอให้ช่วย เราชอบเวลาที่เรากับเขาอยู่ใกล้กัน แต่บางครั้งเราก็คิดว่า เขาคงไม่ชอบเราหรอก จนกระทั่ง วิชานาฏศิลป์ เรากับเขาได้อยู่กลุ่มเดียวกัน ซึ่งคุณครูให้จับฉลากแสดงละคร ซึ่งเราจับได้เรื่อง ไกรทอง เขาได้เป็นพระเอก ส่วนเรา คือ พ่อของนางตะเภาแก้วและตะเภาทอง ซึ่งวันเสาร์เรานัดเพื่อนมาทำฉากกัน รวมถึงเขา ซึ่งในระหว่างนั้นเราก็จะพูดว่า ถ้าใครไม่มาก็จะตัดออกจากกลุ่ม ส่วนใหญ่เราก็จะพูดกับเขา ซึ่งมีอยู่วันหนึ่งเขาไปแข่งเกมส์ แต่เขามาไม่ได้ เราถามไปว่า มาไม่ได้จริงๆเหรอ เขาบอกว่า ต้องไปแข่ง จะได้เงิน ถ้าชนะเดี๋ยวเอามาแบ่ง เราก็เฉยๆ แต่เพื่อนของเราก็พิมพ์แบบวีนๆไปว่า ถ้าไม่มาช่วยไม่ได้คะแนน แต่เขาก็มาไม่ได้จริงๆ เพื่อนเราก็บ่นว่า เห็นเกมสำคัญกว่าคะแนน เดียวติดสูนจะได้รู้สึก เราก็ไม่ได้อะไร บอกเพื่อนว่า อย่าไปสนใจ เดี๋ยวค่อยเอาเงินที่เขาก็ได้ ขอบอกก่อนว่าค่าทำฉาก 900กว่าบาท พอตอนเย็นเขาบอกว่า เขาแข่งเกมได้ที่2 เราบอกว่าเก่งแล้ว ก่อนที่วันจันทร์เขาจะให้เงินเรา 120 บาท พอวันพฤหัสเขามานั่งข้างๆเราแล้วบอกว่าจะช่วยทำฉาก ซึ่งเราก็เป็นฝ่ายที่จะชอบยั่วโมโหเขา เอาเปลือกลูกอมใส่ในกระเป๋าเสื้อบ้าง เอามือแปะหน้าบ้าง แต่เขาก็ไม่ตอบโต้ เขามีความสุขมากเวลาได้ใกล้เขา เราอยากที่จะลองแอบจับมือกับเขาบ้าง แต่ก็ไม่กล้า พอมารู้ตัวอีกทีเราก็ แอบชอบเขาไปแล้ว ซึ่งเราก็พิเรนชอบพูดว่า ถ้าไม่ช่วยจะตัดออกจากกลุ่ม พูดหลายวันติดกัน จนวันพฤหัสเราบอกเขาว่ามาซ้อมละคร แต่ก็มีการเปลี่ยนแผนเป็นไม่ซ้อมแทน และ ตอนเรานั่งรถกลับบ้าน เขาทักมาบอกเราว่า เราจะเอาเขาออกเองน่ะ เราตอบกลับไปว่า ประชด คิดว่าเราจะทำจริงเหรอ เขาบอกว่า มันใช่เรื่องที่ควรจะล้อเล่นมั้ย ดูสถานการณ์บ้าง อย่าเอาแต่ใจมาก เรานี่ถึงกับ ห๊ะ เลย เขาพิมพ์ต่อว่า ไม่ต้องมาห๊ะ ไม่รู้ความรู้สึกของเพื่อนบ้างเหรอ เพื่อ เรตอบกลับเขาว่า ปกติเขาไม่เคยเป็นแบบนี้ เขาตอบว่า อดีตปัจจุบันมันเหมือนกันเหรอ เราพิมพ์ว่า เขาเปลี่ยนไป เขาตอบว่า เปลี่ยนไปตั้งแต่นิสัยแล้ว เรานี่งงเลยในใจได้แต่คิดว่า ไปโกรธใครมาอยู่ๆมาวีนใส่เรา เราเลยพิมกลับไปว่า เป็นอะไร เขาตอบว่า โดนมาขนาดนั้นเป็นใคร ใครจะทนได้ เราเลยตอบไปว่า เราเริ่มจะตามอารมณ์เขาไม่ทันแล้วน่ะ เขาก็บ่นอะไรของเขาไป เรานี่นึกว่า ผู้หญิงเมนส์มา เขาบอกว่า ให้เราไปหาผู้ชายมาแสดงเอง เขาไม่แสดงแล้ว เราถามเขาว่า ถ้าติดศูนย์จะทำยังไง เขาบอกว่า ไม่ทำอะไรนอกจากแก้ เราเลยพิมพ์แบบตายเป็นตายไปว่า ที่พูดแรงๆแบบนั้นไปเพราะเป็นห่ง เขาบอกว่า คำพูดที่ไม่สมควรจะพูด คงคิดว่าคงพูดเล่นคงล้อเล่น แต่เขาไม่ เขาเลยทำอะไรไม่ได้นอกจาก ขอโทษเพราะเราก็ผิด แต่เขาไม่หายโกรธ เขาเปลี่ยนชื่อทุกอย่างในแชทออกหมด เราเลยพิมพ์ไปว่า หายโกรธได้แล้ว เขาเป็นแบบนี้เราไมาฝ่สบายใจมากเลย เขาตอบกลับมาว่า แค่เพื่อนไม่สบายใจเพื่อไร? ชอบด่ามีงี้ไม่สบายใจ เขาพิมพ์กลับเรานี่แบบน้ำตาคลอ ที่ผ่านมาเรา
คิดไปเองทั้งนั้นคือ
เราหลอกตัวเองว่าเขาชอบทั้งที่ไม่ โครตเสียใจ แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว เราเลยพิมพ์ไปว่า นี่ง้อน่ะ ไม่หายโกรธไม่ว่า เพราะเรารู้ว่าเราผิดที่พูดแบบนั้นไป แต่เขากลับตอบมาว่า เงินเขาจะได้กลับมั้ย เราเลยบอกว่า เดี๋ยวให้วันจันทร์
พอมาถึงวันจันทร์เราไม่กล้าสู้หน้าเขาเลยให้ไป แค่ 100 บาท เขาบอกว่าอีก 20 บาทล่ะ เราเลยบอกว่า ค่าที่เราเสียเวลา หลังจากวันนั้นเรากับเขาแทบจะไม่พูดไม่มองหน้ากันเลย แต่ก็มีบ้างที่เราสังเกตุว่าเขาแอบมองเราอยู่ ตอนวันพุธปี66 ตอนนั้นเรานั่งทาแก้มอยู่ มีเพื่อนผู้คนนึงพูดว่า เดี๋ยวนี้หัดแต่งหน้าน่ะ เราตอบว่า ทำไม เราจะสวยบ้างไม่ได้เหรอ ซึ่งเขาก็หันมาจ้องตาเรา เราก็จ้องตาเขากลับ ประมาณสองครั้งได้ ก่อนที่เราจะไม่ได้เข้าไปพูดกับเขาเพราะยังรู้สึกผิด เราคิดว่าว่าเขายังโกรธเราอยู่จนถึงตอนนี้ เราว่าเขาน่าจะโกรธเขาข้ามปี จนตอนนี้ปี67 แล้ว เรายังรู้ว่าเขายังโกรธอยู่ แต่ภายในวันนี้ เรากับเขาจ้องตากันบ่อยมาก แต่เราก็ยังไม่กล้าคุยกับเขาอยู่ดี ตอนนีเเขาบล็อกเราทางเฟสแชทแล้ว เราไม่รู้จะตเองทำยังไงดี
เราแค่อยากรู้ว่า เราคิดว่าเขาชอบเราไปเองรึเปล่า และ ทำยังไงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาอยากคุยกับเขามากกกกก ถึงตอนนี้เราก็ยังหวั่นไหวกับเขาอยู่ดี เขายังอยากมีความทรงจำที่ดีๆเกี่ยวกับเขาก่อนที่จะจบม.3 ไป บันทึก วันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2567 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ค่ะ และ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำด้วยค่ะ
ทำยังไงถึงจะหายโกรธได้ 🥺
พอมาถึงวันจันทร์เราไม่กล้าสู้หน้าเขาเลยให้ไป แค่ 100 บาท เขาบอกว่าอีก 20 บาทล่ะ เราเลยบอกว่า ค่าที่เราเสียเวลา หลังจากวันนั้นเรากับเขาแทบจะไม่พูดไม่มองหน้ากันเลย แต่ก็มีบ้างที่เราสังเกตุว่าเขาแอบมองเราอยู่ ตอนวันพุธปี66 ตอนนั้นเรานั่งทาแก้มอยู่ มีเพื่อนผู้คนนึงพูดว่า เดี๋ยวนี้หัดแต่งหน้าน่ะ เราตอบว่า ทำไม เราจะสวยบ้างไม่ได้เหรอ ซึ่งเขาก็หันมาจ้องตาเรา เราก็จ้องตาเขากลับ ประมาณสองครั้งได้ ก่อนที่เราจะไม่ได้เข้าไปพูดกับเขาเพราะยังรู้สึกผิด เราคิดว่าว่าเขายังโกรธเราอยู่จนถึงตอนนี้ เราว่าเขาน่าจะโกรธเขาข้ามปี จนตอนนี้ปี67 แล้ว เรายังรู้ว่าเขายังโกรธอยู่ แต่ภายในวันนี้ เรากับเขาจ้องตากันบ่อยมาก แต่เราก็ยังไม่กล้าคุยกับเขาอยู่ดี ตอนนีเเขาบล็อกเราทางเฟสแชทแล้ว เราไม่รู้จะตเองทำยังไงดี
เราแค่อยากรู้ว่า เราคิดว่าเขาชอบเราไปเองรึเปล่า และ ทำยังไงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาอยากคุยกับเขามากกกกก ถึงตอนนี้เราก็ยังหวั่นไหวกับเขาอยู่ดี เขายังอยากมีความทรงจำที่ดีๆเกี่ยวกับเขาก่อนที่จะจบม.3 ไป บันทึก วันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2567 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ค่ะ และ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำด้วยค่ะ