ปลายปี 2023 นี้เอง เราไปซื้อของที่ห้างริมแม่น้ำเข้าพระยา เจอผู้หญิงมีอายุคนหนึ่ง เดินเข้ามาพูดคุยด้วย เข้ามาทักทายในลักษณะคล้ายกับคนที่รู้จักกันมานาน พร้อมกับมาชมการแต่งตัวของคนที่ไปด้วยกับเรา และอยู่ๆในเวลาไม่นานเธอก็มาเสนอจะขอรูดบัตรซื้อสินค้าที่เรากำลังเลือกอยู่ให้ โดยสอบถามราคาสินค้าจากเรา พอบอกราคาไปเธอก็เงียบไปซักพักและบอกเราว่า เธอมีบัตรลดราคามาด้วยจำนวน 200 บาท จะรูดให้ (เริ่มงงๆคิดว่าใครใจดีจะมาจ่ายให้) หลังจากนั้ันก็ถามเราว่าเลือกได้หรือยัง ตอนนั้นคนในห้างเยอะมาก พนักงานขายก็เข้าทักว่าได้หรือยัง เธอก็ตอบสวน ก่อนที่เราจะได้พูดไปว่า เธอจะใช้บัตรรูดให้ พนักงานถามว่ามาด้วยกันหรือเปล่า เธอรีบตอบว่าใช่(มาแปลกมาก) เราก็รีบตอบพนักงานกลับไปในเวลาเดียวกันว่าไม่ได้มาด้วยกัน แล้วเธอก็ดึงมือคนที่มากับเราจูงไปที่เครื่องคิดเงิน
เราก็เริ่มรู้สึกไม่ดีและแปลกใจ จึงรีบถามกลับเธอไปว่า แล้วจะต้องจ่ายป้าคืนเท่าไหร่ เธอก็บอกสวนมาว่า เดี๋ยวค่อยคุยกัน (เราเริ่มสงสัยล่ะ มาแปลก) แถมยังเร่งให้พนักงานรีบคิดเงินอีก แล้วควักบัตรเธอขึ้นมา พนักงานก็เริ่มมองมาที่เรา ขยิบสายตาใส่เราแบบไม่มั่นใจ เราก็ส่ายหน้าใส่พนักงาน ต่อหน้าเธอ จึงรีบทักพนักงานก่อนว่าเดี๋ยวพี่ แล้วถามเธอต่อหน้าพนักงานกลับไปว่าเราต้องจ่ายป้าคืนเท่าไหร่ เธอก็ตอบเหมือนเดิม เดี๋ยวค่อยคุยกัน เธอบอกต่อว่า อยากเก็บแต้มในบัตร แล้วเร่งให้พนักงานงานรีบรูดบัตร แถมเร่งส่งบัตรส่วนลด 200 บาทออกมาด้วย เราก็ทักกลับไปว่าเราไม่สะดวกใจ ครั้งนี้เธอก็ตอบแบบรำคาญกลับมาว่า เธอไม่มีเงินต้องการใช้เงินสด รูดเสร็จแล้วค่อยโอนให้เธอเท่าไหร่ก็ได้เต็มจำนวนหรือหักส่วนลดก็ได้แล้วแต่จะให้(เอาล่ะสิ) เราก็ชะงักไปนิดเพราะรู้สึกว่าเธอไม่ยอมพูดความจริงตั้งแต่แรก มาถึงตอนนี้เราไม่ไว้ใจเธอล่ะ(เริ่มหาทางออกมองตาเธอ เธอไม่กล้าสบตา เรา เอาล่ะสิ) (มองหน้าพี่พนักงานเอาว่ะ) เราก็รีบตอบปฏิเสธเธอกลับไปว่า ไม่สะดวกใจ ขอโทษด้วย
กลับกันยิ่งทำให้เธอรบเร้าเรามากขึ้น แสดงความไม่พอใจขึ้นมา และบอกกับมาที่เราว่า ช่วยทำความดีซักครั้งเถอะ พร้อมจับแขนเรา พอสิ้นคำพูดเธอเท่านั้นล่ะ เราก็ตอบกลับไปอีกว่าขอโทษทีไม่สะดวกใจ คร่าวนี้เธอเริ่มไม่พอใจล่ะ ประจวบกับมีพี่พนักงานพาลูกค้าคนอื่นมาต่อคิวเพื่อชำระสินค้าข้างเรา เธอบ่นแล้วจึงเริ่มเปลี่ยนไปเสนอให้กับลูกค้าคนนั้นแทน ต่อหน้าพี่ๆพนักงาน เราเห็นแบบนั้นเลยรู้สึกไม่ดีล่ะ กับการที่เธอเข้ามาคุยตีสนิทในตอนแรกเหมือนหลอก และไม่พูดความจริง พอรบเร้าเราไม่ได้ก็เริ่มหาทางอื่นแทน เลยบอกพี่พนักงานกลับไปว่าเราไม่เอาแล้ว เดี๋ยวค่อยกลับมาซื้อใหม่ จึงเดินจากออกมา
ขออนุญาตเล่าฝากเป็นประสบการณ์เอาไว้ตรงนี้ หากกรณีเพื่อนๆ ท่านใดมีประสบการณ์แบบเดียวกันช่วยแลกเปลี่ยนความเห็นไว้ตรงนี้ด้วย
ขอบคุณ
มีคนมาขอใช้บัตรรูดสินค้าให้ และขอรับเงินสดจากเรา
เราก็เริ่มรู้สึกไม่ดีและแปลกใจ จึงรีบถามกลับเธอไปว่า แล้วจะต้องจ่ายป้าคืนเท่าไหร่ เธอก็บอกสวนมาว่า เดี๋ยวค่อยคุยกัน (เราเริ่มสงสัยล่ะ มาแปลก) แถมยังเร่งให้พนักงานรีบคิดเงินอีก แล้วควักบัตรเธอขึ้นมา พนักงานก็เริ่มมองมาที่เรา ขยิบสายตาใส่เราแบบไม่มั่นใจ เราก็ส่ายหน้าใส่พนักงาน ต่อหน้าเธอ จึงรีบทักพนักงานก่อนว่าเดี๋ยวพี่ แล้วถามเธอต่อหน้าพนักงานกลับไปว่าเราต้องจ่ายป้าคืนเท่าไหร่ เธอก็ตอบเหมือนเดิม เดี๋ยวค่อยคุยกัน เธอบอกต่อว่า อยากเก็บแต้มในบัตร แล้วเร่งให้พนักงานงานรีบรูดบัตร แถมเร่งส่งบัตรส่วนลด 200 บาทออกมาด้วย เราก็ทักกลับไปว่าเราไม่สะดวกใจ ครั้งนี้เธอก็ตอบแบบรำคาญกลับมาว่า เธอไม่มีเงินต้องการใช้เงินสด รูดเสร็จแล้วค่อยโอนให้เธอเท่าไหร่ก็ได้เต็มจำนวนหรือหักส่วนลดก็ได้แล้วแต่จะให้(เอาล่ะสิ) เราก็ชะงักไปนิดเพราะรู้สึกว่าเธอไม่ยอมพูดความจริงตั้งแต่แรก มาถึงตอนนี้เราไม่ไว้ใจเธอล่ะ(เริ่มหาทางออกมองตาเธอ เธอไม่กล้าสบตา เรา เอาล่ะสิ) (มองหน้าพี่พนักงานเอาว่ะ) เราก็รีบตอบปฏิเสธเธอกลับไปว่า ไม่สะดวกใจ ขอโทษด้วย
กลับกันยิ่งทำให้เธอรบเร้าเรามากขึ้น แสดงความไม่พอใจขึ้นมา และบอกกับมาที่เราว่า ช่วยทำความดีซักครั้งเถอะ พร้อมจับแขนเรา พอสิ้นคำพูดเธอเท่านั้นล่ะ เราก็ตอบกลับไปอีกว่าขอโทษทีไม่สะดวกใจ คร่าวนี้เธอเริ่มไม่พอใจล่ะ ประจวบกับมีพี่พนักงานพาลูกค้าคนอื่นมาต่อคิวเพื่อชำระสินค้าข้างเรา เธอบ่นแล้วจึงเริ่มเปลี่ยนไปเสนอให้กับลูกค้าคนนั้นแทน ต่อหน้าพี่ๆพนักงาน เราเห็นแบบนั้นเลยรู้สึกไม่ดีล่ะ กับการที่เธอเข้ามาคุยตีสนิทในตอนแรกเหมือนหลอก และไม่พูดความจริง พอรบเร้าเราไม่ได้ก็เริ่มหาทางอื่นแทน เลยบอกพี่พนักงานกลับไปว่าเราไม่เอาแล้ว เดี๋ยวค่อยกลับมาซื้อใหม่ จึงเดินจากออกมา
ขออนุญาตเล่าฝากเป็นประสบการณ์เอาไว้ตรงนี้ หากกรณีเพื่อนๆ ท่านใดมีประสบการณ์แบบเดียวกันช่วยแลกเปลี่ยนความเห็นไว้ตรงนี้ด้วย
ขอบคุณ