สัญญาณภัยแล้ง น้ำยมแห้งเห็นผืนทราย เหลือร่องน้ำเล็กน้อย เกษตรกร ประชาชน ส่อขาดน้ำใช้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8028204
 
 
พิจิตร สัญญาณภัยแล้ง น้ำยมแห้งเห็นผืนทราย เหลือร่องน้ำเล็กน้อย เตือนเกษตรกร ประชาชน ส่อขาดน้ำใช้ โวยประตูน้ำวังจิก สร้าง7ปี ไม่เสร็จ ผู้รับหมาทิ้งงาน วอนนายก-รมว.เกษตร สอบด่วน
 
27 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้จะเข้าสู่ฤดูหนาว แต่ แม่น้ำยม ที่หมู่ที่ 3 บ้านวังเทโพ ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นพื้นที่ตอนกลางแม่น้ำยม หลังเขื่อนกักเก็บน้ำ สภาพแม่น้ำยมเริ่มแห้งลดระดับลง จนเห็นเนินดิน และ ผืนทรายในท้องแม่น้ำ
 
ขณะที่บริเวณตอหม้อสะพานแม่น้ำยมแห้งจนเห็นบริเวณด้านล่างของฐานของสะพาน เหลือเพียงร่องน้ำขนาดเล็กบริเวณที่เป็นล่องน้ำลึก ส่งสัญญาณภัยแล้ง ของปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอ ที่ส่งผลกระทบกับเกษตรกร และ ประชาชน สองริมฝั่งแม่น้ำ ขาดน้ำทำการเกษตร และ ขาดน้ำใช้อุปโภค หลังที่ก่อนหน้านี้ เพียง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ปริมาณน้ำในแม่น้ำยม ที่ล้นท่วม บ้านเรือน และ พื้นที่การเกษตร
 
ชาวบ้าน ตำบลวังจริง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร รายหนึ่ง กล่าวอีกว่า สถานการแม่น้ำยม ตำบลวังจิก ปีนี้ส่อแล้วแรง เพราะน้ำในแม่น้ำยมแห้งเร็วจนเห็นผืนทรายและเนินดิน เหลืองเพียงลำธารเล็กๆ ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวนา 2 ฝังแม่น้ำยม และขาดน้ำอุปโภคบริโภคน้ำไม่เพียงพอ
 
ประกอบกับ เขื่อนวังจิก ยังไม่แล้วเสร็จไปไม่ถึงไหน โดยกรมชลประทานตามสัญญาว่า จ้างด้วยงบ 231 ล้านบาทเศษ ระบุในสัญญาจ้างเริ่มงาน 15 พ.ย. 2559 สิ้นสุดสัญญา 1 ส.ค. 2562 แต่ปรากฏว่าจากวันนั้นถึงวันนี้ ผู้รับจ้างทำงานไม่เป็นไปตามแผนงาน ทำไปหยุดไป
 
ล่าสุดทิ้งงานขนเครื่องจักร อุปกรณ์ ออกจากพื้นที่ก่อสร้างไปจนหมดสิ้น คิดเนื้องานที่ทำแล้วประมาณ50- 60% เท่านั้น แต่ปรากฏว่าปีนี้ปี 66 ยังสร้างไม่เสร็จนี่7 ปีแล้วไม่เห็นหน่วยงาน ที่ดูแลออกมาทำอะไร
 
ชาวบ้านกล่าวอีกว่า กล่าวอีกว่า รู้สึกเสียดายงบประมาณอย่างมาก ทำแล้ว ไม่สนใจ มาดูอยากฝากรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง รวมถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงมาตรวจสอบเร่งด่วน เพื่อประโยชน์ของเกษตรกร
นอกจากนี้ อยากให้โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำวังจิกสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากประตูระบายน้ำแห่งอื่นๆ อีก 3 แห่ง ที่อยู่ในแม่น้ำยม ที่กรมชลประทานทำเองเสร็จไปแล้ว ปี แต่มีอยู่แห่งเดียวคือที่ ปตร.วังจิก ก็ไม่รู้ว่าจะยืดเยื้อยาวไปถึงไหน
 
สำหรับแม่น้ำยมไหลผ่านพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดพิจิตร ได้แก่ อำเภอสามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และอำเภอโพทะเล ความยาว 124 กิโลเมตร และจากสถานการณ์แม่น้ำยมที่ลดระดับและแห้งขอดอย่างรวดเร็วส่อเค้าจะส่งผลกระทบกับประชาชนและเกษตรกร และ ระบบนิเวศในแม่น้ำ ที่มีพื้นที่ตอนกลางท้ายเขื่อนกักเก็บ คือ อำเภอ โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และ รับมือ สถานการณ์ภัยแล้ง ที่จะมาถึง

---

 
เริ่มนับแล้วกรอบ 105 ถกร่างงบปี67 วงเงิน 3.48ล้านล้าน เปิด 5 กระทรวงได้งบสูงสุด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8028344

เริ่มนับแล้วกรอบ 105 ถกร่างงบปี 67 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ให้เสร็จภายใน 8 เม.ย. ‘มหาดไทย-ศึกษา-คลัง-กลาโหม-คมนาคม’ คว้า 5 อันดับ ได้รับงบมากสุด
 
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2566 ที่รัฐสภา ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะรักษาการเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า เอกสารร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ได้มาถึงสภาฯเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสภาฯ จะต้องพิจารณาให้เสร็จภายในกรอบ 105 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 143 กำหนดไว้ หรือต้องให้เสร็จภายในวันที่ 8 เม.ย. 2567
 
โดยประธานสภาฯ ได้กำชับให้เตรียมห้องประชุม สำหรับให้หน่วยงาน มาสนับสนุนข้อมูลให้คณะรัฐมนตรีชี้แจง และ เมื่อถึงวันพิจารณา 3-5 ม.ค. 67 สำนักงานเลขาธิการสภาฯ สำนักประชุม ก็จะทำหน้าที่ควบคุมเวลา ให้เป็นไปตามที่วิป 4 ฝ่าย ตกลงกัน คือรัฐบาลได้ 20 ชั่วโมง ฝ่ายค้านได้ 20 ชั่วโมง
 
ขณะที่บรรยากาศการรับเอกสารในวันนี้ (27 ธ.ค.) สส.ได้ให้ทีมงานมารับเอกสารร่างเพื่อนำกลับไปพิจารณา ประกอบด้วยหนังสือรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณคนละ 2 กล่อง ทางสภาฯได้จัดเตรียมไว้ 425 ชุด จากที่มีสส.500 คน เนื่องจากว่าได้ทำ แบบสอบถามไปก่อนหน้านี้ว่า สส.คนใดต้องการเป็นเล่ม หรือรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการรับเอกสารสามารถเข้ารับได้จนกว่าจะถึงวันอภิปราย
 
สำหรับสาระเนื้อหาร่างงบประมาณปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก งบประมาณปี 2566 จำนวน 295,000 ล้านบาท โดยรายจ่ายประจำกำหนดไว้ที่ 2,532,826 ล้านบาท รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลังกำหนดไว้เป็นจำนวน 118,361 ล้านบาท ขณะที่รายจ่ายลงทุนกำหนดไว้เป็นจำนวน 717,722 ล้านบาท และรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ได้จัดสรรไว้เป็นจำนวน 118,320 ล้านบาท
 
โดยงบประมาณรายจ่ายงบกลางกำหนดไว้เป็นจำนวน 606,765 ล้านบาท สำหนังรายได้ปี 2567 คาดว่าจะจัดเก็บรายได้ประเภทต่างๆได้จำนวน 3,337,400 ล้านบาท แต่เมื่อหักการลดคืนภาษีต่างๆ จะคงเหลือรายได้สุทธิจำนวน 2,787,000 ล้านบาท และเนื่องด้วยรายจ่ายสูงกว่ารายได้ จำนวน 693,000 ล้านบาท คาดว่ารัฐบาลจะมีการกู้เงินในวงเงินดังกล่าวเพิ่ม
 
ส่วนกระทรวงที่ได้รับการจัดงบประมาณสูงสุด หลักแสนล้านบาท 5 อันดับแรก ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย 353,127 ล้านบาท กระทรวงศึกษาธิการ 328,384 ล้านบาท กระทรวงการคลัง 327,155 ล้านบาท กระทรวงกลาโหม 198,320 ล้านบาท และกระทรวงคมนาคม 183,635 ล้านบาท
 
ขณะที่กระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณน้อยที่สุด 5 อันดับประกอบด้วย กระทรวงพลังงาน 2,834 ล้านบาท กระทรวงอุตสาหกรรม 4,559 ล้านบาท กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 5,591 ล้านบาท กระทรวงพาณิชย์ 6,822 ล้านบาท และกระทรวงวัฒนธรรม 7,016 ล้านบาท

---

 
น้ำมันโลกพุ่ง 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล หลังนักลงทุนวิตก 'กลุ่มฮูตี' โจมตีเรือในทะเลแดง
https://ch3plus.com/news/economy/morning/380227

ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงประมาณ 3% สาเหตุมาจากมีกความวิตกเรื่องกลุ่มฮูตีโจมตีเรือ ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลก มีดังนี้
 
• ตลาดไนเม็กซ์ นิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 2.01 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 75.57 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
• ตลาดเบรนท์ ลอนดอน เพิ่มขึ้น 2.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 81.07 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล
• น้ำมันกลั่นสำเร็จรูป สิงคโปร์ ลดลง 0.01 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 100.02 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/WF88WEXHC5k