เราเป็นคนหนึ่งที่ทำธุรกิจร้านอาหารหวานกับสามี (จดทะเบียนสมรส) เราไม่มีลูก แต่สามี มีลูกติด 2 คน
เริ่มต้นจากเราเปิดร้าน บิงซู และ สามีเริ่มต้นลงทุนเซ้งร้านให้ ตอนเซ้ง 250,000 มีซื้อของเข้าร้านอีก รวมๆ ประมาน 300,000
ต่อจากนั้น เราเป็นคนดำเนินกิจการทั้งหมดเกือบ 80%
ส่วนสามีจะดูแลในด้านซ่อมแซม หรือติดตั้งพวก แอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ต่างๆ
ช่วง 6 เดือนแรก รายได้ยังไม่มานักเขาก็จะมีช่วยจ่ายค่าเช่าเดือนละ 20,000 บ้างในเดือนที่รายได้ไม่พอ
ตอนนี้ร้านเปิดมา 2 ปีกว่า ส่วนตัวเราจะเป็นคนขาย คนคิดเมนู จัดหาพนักงาน ลงโปรโมท ด้านการขายให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้น
จากร้านได้ ไม่ถึงแสน จนตอนนี้ร้าน มีรายได้ เดือนละ ประมาน 3 แสน เรามีพนักงานทำแทนเราได้หมด เราก็จะแค่ดูแลภาพรวม 
และรายได้กำไรแต่ละเดือน ก่อนหน้านี้ก็แบ่งกันคนละครึ่ง บ้างส่วนนำมาปรับปรุง และซื้อของเพิ่มเข้าร้านในส่วนรายได้ร้าน
    ตัวเราเองอายุ 32 แล้ว ไม่มีอาชีพอื่นๆ ออกจากงานมาทำร้านจริงจัง ทำเองได้ทุกเมนู จนพูดได้ว่าตอนนี้สบายมาก มีพนักงานทำแทนได้
จนเราเปิด สาขา 2 และ ตึกที่ทำสาขา 2 เป็นของพ่อสามีซื้อไว้เพื่อลงทุนและ แล้วเราจ่ายค่าเช่า เดือนละ 10,000 รวมพักอายุอยู่กับสามี
ร้านสาขา 2 เป็นไปได้ด้วยดี อาจจะยอดขายไม่มากเท่า สาขา 1 แต่พอเลี้ยงตัวเองได้ จนเรากับสามี ตัดสิ้นใจซื้อตึก ของสาขา 1 
แต่พึ่งซึ้อได้ 2 เดือน เข้าเดือนที่ 2 สามีขอเลิก เหตุผล คงเพราะเราไม่เข้าใจกัน และเขาก็เริ่มไม่ให้เกียรติเรา ชอบติ ไม่เคยชื่นชมเราในทางที่ดีเลย
เราก็รู้สึกว่าถ้าเลิก ก็อาจจะดีไม่ต้องทะเลาะกัน แต่ติดที่ว่า 
1. เรามีภาระตึกที่พึ่งซื้อในสาขา 1  แต่ซื้อในชื่อสามีตอนที่จดทะเบียนกัน ถือว่าเป็นหนี้สินร่วมไหม
2. เราอาศัยอยู่ตึกที่เป็นของพ่อสามี เราควรย้ายออกเลยไหม 
3. ร้านทั้ง 2 สาขา ต้องทำยังไงต่อดี เราควรเลิกกิจการ หรือ ทำต่อไป