เรียนมหาลัยให้อะไรบ้าง ep.7 วิจัยตัวร้ายกับยัยป้าฝ่ายอาคาร

ปี4 เรียนง่ายสบายๆแต่ว่าสำหรับคนที่ดรอปที่ถอนเก่งแบบผมก็ต้องชดใชกรรมกันไป เพราะว่าต้องไล่เก็บตัวที่เคยดรอปไว้แต่ว่าก็จะมีไฟในการเรียนมากขึ้น ช่วงปี4เป็นช่วงที่มีเวลาแยกจากการเข้าไปเรียนในมหาลัยค่อนข้างเยอะ ส่วนผมก็มีวิจัยที่ต้องทำโดยทางภาควิชาของผมนั้นจะเสนอหัวข้อการวิจัยโดยอาจารย์ในภาควิชา ไม่ได้ให้นิสิตเสนอหัวข้อเอง ส่วนใหญ่จะทำวิจัยที่อาจารย์ไปรับมานั้นแหละ แต่ก็มีอาจารย์บางคนที่ให้คิดหัวข้อวิจัยเอง

ผมมีคู้ทำวิจัยเป็นกิต โดยเป็นคู่ที่เริ่มต้นทุกอย่างช้ามากๆในความคิดของผม เริ่มจากคุยรายละเอียด หาข้อมูลวิจัย กำหนดวิธีการ กรอบ ระยะเวลาการทดลองต่างๆเสร็จแล้ว พอใกล้ถึงวันที่ต้องนำเสนอทุกอย่างมันไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง บริษัทที่จ้างวิจัยไม่ให้ข้อมูลและตัวอย่างมาทำการทดลอง กลายเป็นว่าไม่มีอะไรคืบหน้าเลยในงานวิจัย ซึ่งทางอาจารย์ติดต่อไปแล้วแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมาทำให้ต้องเปลี่ยนหัวข้อการวิจัยใหม่ทั้งหมด กลายเป็นว่าผมได้ไปทำวิจัยร่วมกับพี่ท.โทและป.เอกโดยทำการทดลองเพื่อสนับสนุนงานวิจัยไม่ใช่ตัวหลักของงานวิจัยจริงๆ

ปัญหาเรื่องข้อมูลไม่มีก็หมดไปแล้ว แต่ปัญหาใหม่คือการที่ต้องจัดการย่อยข้อมูลวิจัย3ปีของพี่ๆป.โทและป.เอก ให้ทันการนำเสนอซึ่งก็ไม่ทันแต่ว่าก็แจ้งข้อมูลต่างๆไปเท่าที่ย่อยออกมาได้ ซึ่งก็โดนอาจารย์ท่านอื่นหยุมอยู่บ้าง พอผ่านมาได้ก็ต้องรีบทำการทดลองให้ทันกับพี่ๆ ซึ่งระยะเวลาจริงๆที่ต้องทำคือ 4 เดือนซึ่งไม่ทันผมจบการศึกษาแน่ๆเลยต้องเปลี่ยนเป็นทำการทดลองครั้งนึงหลายๆชุดการทดลองซึ่ง จะลดเวลาเหลือ90วัน ติดตรงที่กิต คู่หูผมมันไม่ยอมโดยให้เหตุผลว่า ถ้าทำแล้วจะไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงแต่ผมคิดว่าไม่มีทางเลือกแล้ว ในเมื่อเวลาการทดลองไม่พอแล้วต้องทำเล่มวิจัยไปพร้อมกันก็ไม่ทัน เลยปรับให้เหลือ 2 เดือน เป็น 2เดือนที่ทำให้ตัวเองเป็นมดในกระทะ

ในขณะที่ทำการทดลองผมก็ต้องการใช้พื้นที่ในการทำวิจัย ซึ่งที่ห้องทดลองนั้นไม่มี ภาควิชาผมก็กำลังสร้างตึกเลยใช้ไม่ได้ ผมเห็นพื้นที่หนึ่งที่เหมาะสมมากๆ ซึ่งเป็นตึกเดียวกับห้องทดลอง ผมเลยเดินไปสำรวจก็พบว่ามันเหมาะมากเลยโทรติดต่อฝ่ายอาคารสถานที่ของตึกนั้นแต่ได้รับการตอบกลับที่ไม่เป็นมิตรเลย
"ขอโทษนะครับ ใช่ฝ่ายอาคารสถานที่ของตึก8หรือเปล่าครับ" 
"ค่ะ มีไรคะ" ปลายสายตอบด้วยเสียงที่ห้วนและหยาบ
"พอดีว่าขอทำเรื่องใช้สถานที่ในการทำวิจัยครับ จะขอใช้พื้นที่ดาดฟ้าครับ ทางฝ่ายอาคารอยู่ชั้นไหนหรอครับ"
"พวกคุณชื่ออะไร" หลังจากนั้นผมก็บอกชื่อและอาจารย์ที่ปรึกษาไป
"อะไรพวกคุณจะมาบุกรุกสถานที่แบบนี้ไม่ได้นะ ใครอนุญาต" ทางปลายสายพูดเสียงดัง
"ผมจะมาขออนุญาตใช้สถานที่ทำวิจัยหนะครับ"
"อะไรจะมาใช้อะไร คุณภาควิชาไหน" ผมก็บอกภาควิชาสังกัดของผมไป
"พวกคุณจะมาขออะไรอีก ตึกคุณก็สร้างใหม่ไม่ใช่หรอทำไมไม่ใช้หละ มาใช้ทำไมตึกนี้ ชั้น3พวกคุณก็ขอใช้ไปละหนิ ยังจะมาขออะไรอีก...." บลาๆ
ผมยืนงงกับกิตอยู่ว่าทำผิดอะไรตรงไหนหรือเปล่าแต่ททางปลายสายก็ยังต่อว่าไม่หยุด
"ผมต้องการใช้พื้นที่ที่มีแสงแดดหนะครับ พอดีว่าเห็นตึกนี้มีดาดฟ้าเลยจะมาขออนุญาตใช้"
"แล้วจะมาบุกรุกอย่างนี้หนะหรอ มารยาทมีมั้ยทำไมเด็กภาคนี้ถึงเป็นแบบนี้ จะเอาอย่างเดียว"
ถึงแม้ว่าปลายสายจะพ่นสุนัขออกจากปากมาแค่ไหนแต่ตอนนั้นผมยังต้องการแค่พื้นที่ทำวิจัยอยู่
"แล้วถ้าจะขออนุญาตจะต้องทำยังไงหรอครับ จะได้เตรียมเอกสารและติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษา"
"ก็ทำหนังสือขอมาที่ตึก แต่ว่าขอมาก็ไม่ให้หรอก"
ผมงงมากเหมือนปลายสายแค่ต้องการจะด่าเฉยๆผมเลยกดตัดสายไปเลย ไม่อยากคุยด้วยแล้ว เลยไปบอกอาจารย์ที่ปรึกษาแกก็บอกว่าให้หาต่อไปเพราะมันจำเป็นจริงๆผมเลยไปถามเพื่อนที่สูบบุหรี่ว่ามีที่โล่งๆแดดๆมั้ย สุดท้ายก็ได้พื้นที่ตึกรวมของคณะซึ่งก็ไปทำเอกสารขออนุญาต วันเดียวผ่าน! รู้งี้ไม่ไปคุยกับนางคนนั้นตั้งแต่แรกละ

พอได้ทุกอย่างมาครบแล้วก็ทำการทดลองตามที่วางแผนไว้แต่ว่า ทุกอย่างย่อมมีอุปสรรค เนื่องจากเป็นพื้นที่เปิดบนดาดฟ้าเมื่อมีแดดก็ต้องมีฝน ซึ่งการทดลองของผมก็ต้องพังไปหลายอันเพราะฝนตก เมื่อฝนตกไม่ว่าจะอยู่หอหรือเรียนอยู่ต้องวิ่งขึ้นมาเก็บให้ทัน ไม่งั้นก็เริ่มใหม่ กลายเป็นความวิตกของผมเองที่ต้องดูฟ้าฝน หลับก็รู้สึกว่าฝนจะตกตลอด พยากรณ์ก็ไม่แน่นอน แต่ก็ผ่านมันมาได้

ซึ่งการทำเล่มรายงานก็มีปัญหาเล็กน้อยคือ กิตทำรายงานช้ามาก ให้งานไปกิตก็จะมาถามว่าตรงนี้ทำยังไงตรงนี้เขียนยังไงทั้งที่ให้ตัวอย่างไปแล้ว สุดท้ายก็ต้องทำเองหมด แล้วก็กลายเป็นว่าต้องพูดนำเสนอคนเดียวเพราะกิตก็ไม่กล้าพูดต่อหน้าคนเยอะ แต่ก็จบมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา


แต่ว่าเรื่องราวในรั้วมหาลัยของผมยังไม่จบแค่นี้รอติดตามได้เลยครับ

ขอบคุณครับ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่