‘พิธา’ ชวนฟังไลฟ์วันนี้ 11.00 น. วิเคราะห์ 90 วัน ผลงานรัฐบาลเศรษฐา พร้อมข้อเสนอแนะจากก้าวไกล
https://www.matichon.co.th/politics/news_4331614
 
 
‘พิธา’ ชวนฟังไลฟ์วันนี้ 11.00 น. วิเคราะห์ 90 วัน ผลงานรัฐบาลเศรษฐา พร้อมข้อเสนอแนะจากก้าวไกล
 
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Pita Limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เชิญติดตามการแถลงวิเคราะห์ผลงานรัฐบาล

โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

“ขอเชิญทุกท่านร่วมติดตามการแถลง “วาระ 90 วัน วิเคราะห์ผลงานรัฐบาลเศรษฐา”
อะไรที่รัฐบาลทำดีแล้ว อะไรที่ยังไม่ชัดเจน อะไรที่ต้องเตือน และข้อเสนอแนะของพรรคก้าวไกลต่อรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ร่วมกันติดตามครับ

Live วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566 เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป”

https://www.facebook.com/timpitaofficial/posts/919018702917239?ref=embed_post

---

ชาญวิทย์ เปิดประมูลรูป ‘รธน.ที่รัก’ นำเงินช่วยคนรุ่นใหม่สู้คดีการเมือง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4331395

ชาญวิทย์ เปิดประมูลรูป ‘รธน.ที่รัก’ นำเงินช่วยคนรุ่นใหม่สู้คดีการเมือง
 
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ศาสตราจารย์ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า ตนได้เปิดประมูลภาพสีน้ำมันรูปพานรัฐธรรมนูญซึ่งคาดว่าถูกวาดขึ้นในช่วงหลัง พ.ศ.2475 ไม่นานนัก เพื่อนำเงินไปสมทบช่วยเหลือในการต่อสู้คดีทางการเมือง โดยจะปิดการประมูลในวันที่ 25 ธันวาคมนี้

“Dear Constitution รัฐธรรมนูญที่รักแลสักการะ ผมนึกไม่ออกว่าใครส่งภาพวาดด้วยสีน้ำแผ่นใหญ่นี้มาให้ผม มันกรอบ ผุพัง ขาดวิ่นไปตามกาลเวลา แต่ยังงดงามและขลังอยู่
 
ผมเดาว่ามันคงถูกวาดขึ้นหลังปี 2475/76
ที่กระแสอนุสาวรีย์ที่มีรัฐธรรมนูญวางบนพาน 2 ชั้น หรือพานแว่นฟ้ามาแรง

ผมนึกไม่ออกว่าจะเก็บสะสมเอาไว้ทำไม
ใครอยากได้เชิญประมูล เสนอราคาเข้ามาเลย
หมดเขต 25 ธันวาคมนี้
 
ผมจะนำเงินที่ประมูลได้มา
ไปบริจาคสมทบทุนช่วยคดีคนรุ่นใหม่
ที่มีใจรักสักการะในประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ” ศาสตราจารย์ ดร.ชาญวิทย์ระบุ

สำหรับผู้สนใจ ติดต่อผ่านเฟซบุ๊ก Charnvit Kasetsiri

---

ผู้เลี้ยงสุกร ร้องรบ.ยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าเกษตร ช่วยลดต้นทุนอาหารสัตว์
https://ch3plus.com/news/economy/3mitinews/378696
  
การยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมตรีเมื่อ 2 วันก่อน ของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ไม่เพียงแต่ขอบคุณต่อการปราบปรามหมูเถื่อน แต่เสียงเรียกร้องที่เด่นชัดที่สุดของเกษตรกรคือขอให้ช่วยหามาตรการลดต้นทุนอาหารสัตว์ โดยเฉพาะอาหารสัตว์ที่จำเป็นต้องนำเข้าที่ต้องการให้ยกเลิกการเก็บภาษี อย่างน้อยก็ห้วงเวลาหนึ่งเพื่อให้เกษตรกรอยู่ตัวได้ เพราะผู้เลี้ยงหลายคนสะท้อนว่า กว่าจะให้รอให้ปราบหมูเถื่อนได้หมด เกษตรกรรายย่อยก็อาจหมดตัวไปแล้วเช่นกัน

เสียงสะท้อนจากเกษตรกรคนนี้ ที่เรียกร้องให้เร่งช่วยเหลือผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย โดดเด่นและสำคัญไม่น้อยไปกว่าเสียงขอบคุณต่อมาตรการปราบปรามหมูเถื่อน เพราะเขาเห็นว่าหากต้นทุนการเลี้ยงยังสูง ต่อให้มีแหล่งเชื่อมาลงทุนก็ไม่อาจสู้ราคาหมูเถื่อนได้

นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เหตุว่ามาตรการที่รัฐจะทำได้ทันทีต่อจากการปราบปรามหมูเถื่อน คือการงดเว้นเก็บภาษีสินค้าเกษตรที่เป็นอาหารสัตว์ เพราะนั่นคือเหตุแห่งต้นทุนที่สูงขึ้น

ข้อมูลจากฝ่ายวิชาการของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ชี้ให้เห็นว่า (กากถั่วเหลืองเมล็ดนำเข้า จากโรงงานสกัดน้ำมัน ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ในเส้นกราฟิกบนสีแดง มีราคาสูงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ทำให้ราคาในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 21 บาทต่อกิโลกรัมจากนั้นราคาก็ลดลดลงเมื่อเข้าสู่ต้นเดือนธันวาคม

แต่กราฟสีเขียวที่อยู่ด้านล่างคือราคาขายในกรุงเทพฯ ยังคงตรึงอยู่ที่ 23 บาท ต่อกิโลกรัม ทั้งที่ควรจะลดลงมาที่ 21 บาท ตามดัชนีด้านบน ข้อสังเกตนี้ที่สมาคมเห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกรมการค้าภายใน ที่ต้องตรวจสอบการขายในประเทศ

การนำเข้าถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองมาเป็นอาหารสัตว์ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ราคาสูง โดยราคาเฉลี่ยะการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองอยู่ที่กก.17 บาท

ส่วนการนำกากเมล็ดถั่วเหลืองอยู่ที่ กก.16 บาท ซึ่งเมล็ดถั่วเหลือที่นำเข้าไม่ต้องเสียภาษีสินค้านำเข้า แต่กากถั่วเหลืองต้องเสียภาษี อย่างไรก็ตาม เมื่อเมล็ดถั่วเหลือง นำไปสกัดได้น้ำมัน จะเหลือกากถั่วเหลืองที่เป็นผลพลอยได้ หรือบายโปรดักซ์ เมื่อนำมาขายเป็นอาหารสัตว์ กลับยังต้องขายแบบมีภาษี เสมือนเป็นกากถั่วนำเข้าจากต่างประเทศ นี่คือเหตุผลหนึ่งที่สมาคมเห็นว่าอยู่ในวิสัยที่จะงดได้

ประเด็นเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้เลี้ยงสุกรเห็นว่า รัฐสามารถดำเนินการได้ เพราะไม่ชั้นนั้น กว่าที่จะปราบหมูเถื่อนได้หมด อาจทำให้ผู้เลี้ยงรายย่อย ที่ไม่มีทุน ล้มหายจากระบบไปด้วย