Wonka
เรื่องย่อ : หนัง Wonka ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนสุดคลาสสิกชื่อเดียวกันของ โรอาลด์ ดาห์ล กับเรื่องราวสุดแสนพิเศษของชายผู้เป็นเจ้าของโรงงานขนมหวานสุดแฟนตาซีใน ชาร์ลีและโรงงานช็อกโกแลต (Charlie and the Chocolate Factory) สู่จุดเริ่มต้นของจินตนาการ รสชาติ และความพิลึกพิลั่น โดยหนัง Wonka จะบอกเล่าเรื่องราวสุดแสนมหัศจรรย์ของนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก กว่าที่เขาจะก้าวเข้ามาเป็น วิลลี่ วองก้า เจ้าของโรงงานช็อกโกแลตสุดวิเศษราวกับต้องมนตร์ ที่ทำให้แฟน ๆ รักได้จวบจนทุกวันนี้ได้อย่างไร
คือบอกเลยว่าเรื่องนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนังฟอร์มยักษ์ ที่น่าสนใจ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปดูมาแล้ว เมื่อสัปดาห์แรก
แต่ยังหาเวลาว่าง เขียนรีวิวยังไม่ได้ วันนี้เลยมาของเล่าสู่กันฟังสักหน่อย ก่อนที่หนังเรื่องใหม่ๆจะมากลบกระแสหมด
ส่วนตัวคือเคยดูภาคก่อนๆมาแล้ว คือเวอร์ชั่น2005 แต่เห็นว่าเรื่องนี้ จะเป็นPrequel ของ1971
ซึ่งหลายๆคนที่ไปดูมาแล้ว อาจจะแปลกใจ ว่าทำไมเนื้อเรื่อง ไม่ค่อยเหมือนเป็นภาคก่อนของ2005 ที่หลายๆคนได้ดูกัน ใช่แล้วจ้า
มันคือภาคก่อนหน้า ของเวอร์ชั่น1971 แต่ก็มีความ2005 อยู่เยอะพอสมควร
ความรู้สึกหลังดูจบ
หนังมีความเป็นหนังเด็กและหนังครอบครัวสูงมาก ย่อยง่าย เดินเรื่องเส้นตรง ไม่มีอะไรซับซ้อน
สนุกแบบหนังเด็กๆ ครบรส ดูเพลินๆ มีความฟีลกู๊ด อิ่มเอมใจ แฟนตาซีเหนือจินตนาการ สีสันสวยงาม สดใจ
นักแสดงเล่นดี Timothée Chalamet หล่อ เล่นดี ร้องเพลงเพราะ และมีเสน่ห์ สะกดสายตามาก เอาอยู่ทุกฉาก
รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆด้วย เรื่องนี้มีมิสเตอร์บีนเล่นด้วยนะ แบบออกมาฉากไหนก็ฮา แค่อยู่เฉยๆก็ฮา
และอีกตัวละครที่ช่วยสร้างสีสัน และเราชอบมาก คืออุมปาลุมป้า ตลกมาก 55+
งานภาพบอกเลยว่า โคตรสวย สวยมาก CGเนียน ยิ่งใหญ่ ตระการตา สีสันสดใจ สวยงาม
ออกแบบงานสร้างได้ดีมากๆ และออกแบบแต่ละฉากได้มีศิลปะ และงดงามมากๆ
เหมือนกลับว่าเราได้เข้าไปอยู่ในนั้นจริงๆ
เราชอบฉากร้องเพลงบนหลังคา คือภาพ มุมกล้อง ทุกอย่างคือดี สวยมากกกกก
หนังมีความเป็นมิวสิคัลทั้งเรื่อง เพลงเพราะ ตราตรึง และติดหูหลายเพลงเลย
ไม่ใช่ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังเด็กไปเลยซะทีเดียว หนังยังแฝงไปด้วยอะไรมากมาย
อย่างเช่นการตลาดแบบผูกขาด นายทุน เงินชนะทุกอย่าง คนรวยชนะคนจน บลาๆๆ
คือหนังมีอะไรมากกว่าที่เห็น แฝงแง่คิด สาระ และประเด็นหลายๆเรื่อง ที่ทำให้เรานึกถึงความจริง
ในยุคปัจจุบันด้วย มันก็มักจะเป็นแบบนั้น
ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ
หนังเดินเรื่องแบบเส้นตรงเกินไป และบททุกอย่างมันง่าย และเกินจริงในบางเรื่อง อย่างฉากโรงแรม คือแบบนี้ มันก็ได้หรอ ง่ายไปปล่าว 55+
ดูแล้วมันแปลกๆ ถ้าเด็กๆดู ครอบครัว ที่ดูหนังง่ายๆ อาจจะชอบ แต่ถ้าคนที่ต้องการเนื้อหาที่ดูจริงจัง และเข้มข้น มีความลุ่มลึกของตัวบท เรื่องนี้
อาจจะไม่ตอบโจทย์ ก็สนุกใช้ได้แบบหนังเด็กๆเลยจริงๆ เหมือนทำมาเพื่อขายเป็นหนังครอบครัว แต่สำหรับยังไม่ว้าว ไม่โดนใจ และไม่ค่อยอินมากสักเท่าไหร่
ตัวร้ายก็มาเลย ตั้งแต่แรก ว่าฉันเป็นตัวร้ายนะ อะไรประมาณนี้ ไม่ต้องหาตัวคนร้ายให้ยุ่งยาก คือหนังได้บอกเราไว้เลย ตั้งแต่แรก
เนื้อเรื่อง และบท มันไม่ได้มีความหวือหวา และอลังเหมือนตัวหนัง ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยทุกอย่างที่จัดเต็ม
หลายๆฉากที่ดูแล้ว ก็เอ๊ะในใจ แบบนี้ ก็ได้หรอ ง่ายๆ ไปมั้ย
สำหรับคะแนนความชอบ ให้ 7/10 คะแนน
สนุกแบบหนังเด็กๆเกินไป ด้วยตัวบท และการดำเนินเรื่อง
จนบ้างครั้งเราก็ไม่ค่อยอินมากนัก แต่ก็ถือว่าหนังทำออกมาโอเคเลยทีเดียว
อยากให้ลองไปพิสูจน์เอง ส่วนตัวว่าเรื่องนี้ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่
ชอบเวอร์ชั่น 2005 มากกว่า สนุกดี เนื้อเรื่อง บท เพลง กำลังดี และลงตัว
ปล. มี End Credit ด้วยนะ
สำหรับใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง มาเล่าสู่กันฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแชร์กันได้นะ
รออ่านอยู่จ้า
https://www.facebook.com/MouthMoyMovie?mibextid=LQQJ4d
Wonka วองก้า (7/10) l ที่มาของ..โรงงานช็อคโกแลต มิวสิคัล อันแสนฟีลกู๊ด และเปี่ยมล้นไปด้วยจินตนาการ (สปอยล์)
เรื่องย่อ : หนัง Wonka ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนสุดคลาสสิกชื่อเดียวกันของ โรอาลด์ ดาห์ล กับเรื่องราวสุดแสนพิเศษของชายผู้เป็นเจ้าของโรงงานขนมหวานสุดแฟนตาซีใน ชาร์ลีและโรงงานช็อกโกแลต (Charlie and the Chocolate Factory) สู่จุดเริ่มต้นของจินตนาการ รสชาติ และความพิลึกพิลั่น โดยหนัง Wonka จะบอกเล่าเรื่องราวสุดแสนมหัศจรรย์ของนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก กว่าที่เขาจะก้าวเข้ามาเป็น วิลลี่ วองก้า เจ้าของโรงงานช็อกโกแลตสุดวิเศษราวกับต้องมนตร์ ที่ทำให้แฟน ๆ รักได้จวบจนทุกวันนี้ได้อย่างไร
คือบอกเลยว่าเรื่องนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนังฟอร์มยักษ์ ที่น่าสนใจ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปดูมาแล้ว เมื่อสัปดาห์แรก
แต่ยังหาเวลาว่าง เขียนรีวิวยังไม่ได้ วันนี้เลยมาของเล่าสู่กันฟังสักหน่อย ก่อนที่หนังเรื่องใหม่ๆจะมากลบกระแสหมด
ส่วนตัวคือเคยดูภาคก่อนๆมาแล้ว คือเวอร์ชั่น2005 แต่เห็นว่าเรื่องนี้ จะเป็นPrequel ของ1971
ซึ่งหลายๆคนที่ไปดูมาแล้ว อาจจะแปลกใจ ว่าทำไมเนื้อเรื่อง ไม่ค่อยเหมือนเป็นภาคก่อนของ2005 ที่หลายๆคนได้ดูกัน ใช่แล้วจ้า
มันคือภาคก่อนหน้า ของเวอร์ชั่น1971 แต่ก็มีความ2005 อยู่เยอะพอสมควร
ความรู้สึกหลังดูจบ
หนังมีความเป็นหนังเด็กและหนังครอบครัวสูงมาก ย่อยง่าย เดินเรื่องเส้นตรง ไม่มีอะไรซับซ้อน
สนุกแบบหนังเด็กๆ ครบรส ดูเพลินๆ มีความฟีลกู๊ด อิ่มเอมใจ แฟนตาซีเหนือจินตนาการ สีสันสวยงาม สดใจ
นักแสดงเล่นดี Timothée Chalamet หล่อ เล่นดี ร้องเพลงเพราะ และมีเสน่ห์ สะกดสายตามาก เอาอยู่ทุกฉาก
รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆด้วย เรื่องนี้มีมิสเตอร์บีนเล่นด้วยนะ แบบออกมาฉากไหนก็ฮา แค่อยู่เฉยๆก็ฮา
และอีกตัวละครที่ช่วยสร้างสีสัน และเราชอบมาก คืออุมปาลุมป้า ตลกมาก 55+
งานภาพบอกเลยว่า โคตรสวย สวยมาก CGเนียน ยิ่งใหญ่ ตระการตา สีสันสดใจ สวยงาม
ออกแบบงานสร้างได้ดีมากๆ และออกแบบแต่ละฉากได้มีศิลปะ และงดงามมากๆ
เหมือนกลับว่าเราได้เข้าไปอยู่ในนั้นจริงๆ
เราชอบฉากร้องเพลงบนหลังคา คือภาพ มุมกล้อง ทุกอย่างคือดี สวยมากกกกก
หนังมีความเป็นมิวสิคัลทั้งเรื่อง เพลงเพราะ ตราตรึง และติดหูหลายเพลงเลย
ไม่ใช่ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังเด็กไปเลยซะทีเดียว หนังยังแฝงไปด้วยอะไรมากมาย
อย่างเช่นการตลาดแบบผูกขาด นายทุน เงินชนะทุกอย่าง คนรวยชนะคนจน บลาๆๆ
คือหนังมีอะไรมากกว่าที่เห็น แฝงแง่คิด สาระ และประเด็นหลายๆเรื่อง ที่ทำให้เรานึกถึงความจริง
ในยุคปัจจุบันด้วย มันก็มักจะเป็นแบบนั้น
ข้อด้อยและส่วนที่ไม่ชอบ
หนังเดินเรื่องแบบเส้นตรงเกินไป และบททุกอย่างมันง่าย และเกินจริงในบางเรื่อง อย่างฉากโรงแรม คือแบบนี้ มันก็ได้หรอ ง่ายไปปล่าว 55+
ดูแล้วมันแปลกๆ ถ้าเด็กๆดู ครอบครัว ที่ดูหนังง่ายๆ อาจจะชอบ แต่ถ้าคนที่ต้องการเนื้อหาที่ดูจริงจัง และเข้มข้น มีความลุ่มลึกของตัวบท เรื่องนี้
อาจจะไม่ตอบโจทย์ ก็สนุกใช้ได้แบบหนังเด็กๆเลยจริงๆ เหมือนทำมาเพื่อขายเป็นหนังครอบครัว แต่สำหรับยังไม่ว้าว ไม่โดนใจ และไม่ค่อยอินมากสักเท่าไหร่
ตัวร้ายก็มาเลย ตั้งแต่แรก ว่าฉันเป็นตัวร้ายนะ อะไรประมาณนี้ ไม่ต้องหาตัวคนร้ายให้ยุ่งยาก คือหนังได้บอกเราไว้เลย ตั้งแต่แรก
เนื้อเรื่อง และบท มันไม่ได้มีความหวือหวา และอลังเหมือนตัวหนัง ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยทุกอย่างที่จัดเต็ม
หลายๆฉากที่ดูแล้ว ก็เอ๊ะในใจ แบบนี้ ก็ได้หรอ ง่ายๆ ไปมั้ย
สำหรับคะแนนความชอบ ให้ 7/10 คะแนน
สนุกแบบหนังเด็กๆเกินไป ด้วยตัวบท และการดำเนินเรื่อง
จนบ้างครั้งเราก็ไม่ค่อยอินมากนัก แต่ก็ถือว่าหนังทำออกมาโอเคเลยทีเดียว
อยากให้ลองไปพิสูจน์เอง ส่วนตัวว่าเรื่องนี้ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่
ชอบเวอร์ชั่น 2005 มากกว่า สนุกดี เนื้อเรื่อง บท เพลง กำลังดี และลงตัว
ปล. มี End Credit ด้วยนะ
สำหรับใครที่ไปดูมาแล้ว คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง มาเล่าสู่กันฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแชร์กันได้นะ
รออ่านอยู่จ้า
https://www.facebook.com/MouthMoyMovie?mibextid=LQQJ4d