ทาสแมวเสี่ยงเป็นโรคจิตเภท จริงหรือมั่ว?
วันที่ 12 ธันวาคม 2566
จากผลการวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Schizophrenia Bulletin ชี้ว่า ทาสแมวมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคจิตเภทสูงกว่าคนรักสัตว์ชนิดอื่น ๆ ถึง 2 เท่า สาเหตุของเรื่องนี้น่าจะมาจากการติดเชื้อปรสิตทาสแมว (Toxoplasma Gondii) ซึ่งสามารถเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลางและมีอิทธิพลต่อสารสื่อประสาทในมนุษย์ได้ ผ่านการสัมผัสกับมูลแมว หรือการปนเปื้อนของเชื้อลงในน้ำและอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุก
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษานี้ยังไม่อาจฟันธงลงไปได้อย่างแน่ชัดว่า การติดเชื้อปรสิตทาสแมวทำให้เป็นโรคจิตเภทหรือไม่ เนื่องจากงานวิจัยที่นำมาวิเคราะห์แต่ละชิ้นมีความแตกต่างกันในหลายประการ เช่น วิธีการวิจัย ประชากรที่ใช้ศึกษา และระยะเวลาในการติดตามผล
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการเป็นโรคจิตเภท เช่น พันธุกรรม สภาพแวดล้อม ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ และการใช้สารเสพติด เป็นต้น
ผลวิจัยนี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับทาสแมวไม่น้อย หลายคนถึงกับวิตกกังวลว่าตัวเองหรือคนในครอบครัวที่เลี้ยงแมวจะป่วยเป็นโรคจิตเภทในอนาคต
ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าผลวิจัยนี้ควรได้รับการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมในวงกว้างและยาวนานขึ้น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะหากผลวิจัยนี้ได้รับการยืนยันจริง ๆ ย่อมส่งผลกระทบต่อทาสแมวและวงการสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ทาสแมวก็ไม่ควรวิตกกังวลจนเกินไป เพราะยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่อาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการเป็นโรคจิตเภท สิ่งสำคัญคือทาสแมวควรดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจิตเภท
ทาสแมวไม่ควรวิตกกังวลจนเกินไปกับผลวิจัยนี้ แต่ควรดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจิตเภท
ที่มา : BBC.COM
ทาสแมวเหมียวเสี่ยงเป็นโรคจิตเภทสูงกว่าถึงสองเท่า
วันที่ 12 ธันวาคม 2566
จากผลการวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Schizophrenia Bulletin ชี้ว่า ทาสแมวมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคจิตเภทสูงกว่าคนรักสัตว์ชนิดอื่น ๆ ถึง 2 เท่า สาเหตุของเรื่องนี้น่าจะมาจากการติดเชื้อปรสิตทาสแมว (Toxoplasma Gondii) ซึ่งสามารถเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลางและมีอิทธิพลต่อสารสื่อประสาทในมนุษย์ได้ ผ่านการสัมผัสกับมูลแมว หรือการปนเปื้อนของเชื้อลงในน้ำและอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุก
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษานี้ยังไม่อาจฟันธงลงไปได้อย่างแน่ชัดว่า การติดเชื้อปรสิตทาสแมวทำให้เป็นโรคจิตเภทหรือไม่ เนื่องจากงานวิจัยที่นำมาวิเคราะห์แต่ละชิ้นมีความแตกต่างกันในหลายประการ เช่น วิธีการวิจัย ประชากรที่ใช้ศึกษา และระยะเวลาในการติดตามผล
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการเป็นโรคจิตเภท เช่น พันธุกรรม สภาพแวดล้อม ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ และการใช้สารเสพติด เป็นต้น
ผลวิจัยนี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับทาสแมวไม่น้อย หลายคนถึงกับวิตกกังวลว่าตัวเองหรือคนในครอบครัวที่เลี้ยงแมวจะป่วยเป็นโรคจิตเภทในอนาคต
ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าผลวิจัยนี้ควรได้รับการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมในวงกว้างและยาวนานขึ้น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะหากผลวิจัยนี้ได้รับการยืนยันจริง ๆ ย่อมส่งผลกระทบต่อทาสแมวและวงการสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ทาสแมวก็ไม่ควรวิตกกังวลจนเกินไป เพราะยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่อาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการเป็นโรคจิตเภท สิ่งสำคัญคือทาสแมวควรดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจิตเภท
ทาสแมวไม่ควรวิตกกังวลจนเกินไปกับผลวิจัยนี้ แต่ควรดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจิตเภท
ที่มา : BBC.COM