...ปกติวันหยุด อาแปะมักจะไม่อยากพิมพ์อะไรลงพันทิบ ด้วยเหตุผลว่าอยากสงบจิตใจบ้างในวันหยุด เพราะการเขียนอะไรลงพันทิบ ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้พบกับคอมเมนท์ที่ขัดแย้ง เมื่อไม่อยากพบความขัดแย้ง อาแปะจึงไม่อยากพิมพ์กระทู้... ด้วยถือคติว่า "สันดุษฐีปรมังสุขัง"....นั่นเอง..
....แต่แล้วพอได้อ่านกระทู้หนึ่งพูดคุยกันเรื่องพาพ่อ-แม่ ไปโรงพยาบาล ทำให้เกิดความอยากเขียนกระทู้ในเช้านี้....เฮ้ออออ อยากอีกแระ ความอยากช่างมีแรงขับดันมากมายยิ่งนัก จากคนที่รักสงบก็ต้องมาโลดแล่นในเวบบอร์ดอีกครั้งนึง..
...อาแปะว่าการพาพ่อ-แม่ ไปโรงพยาบาล มันเป็นจิตสำนึกของคนดีนะ ไม่ต้องมองในความกตัญญูก็ได้ ..แม้หากมองในมุมของนักลงทุน ผู้เป็นลูกก็ควรตอบแทนทุนทั้งหลายที่พ่อแม่ลงไว้ในตัวเรา..
...อาแปะมีทัศนคติ(มายเซท)ว่า..
พ่อ-แม่ เปรียบเสมือน นักลงทุน..
ร่างกายเรา เปรียบเสมือนบริษัทมหาชนหนึ่ง..
จิตใจเราคือ ผู้บริหารบริษัทมหาชนนั้นๆ..
พ่อและแม่ลงทุนสร้างบริษัทให้เราด้วยหยาดเหงื่อแรงกายๆ จนเราปฏิสนธินอนในครรภ์..
พอเราตลอดท่านก็ต้องลงทุนจ่ายค่าทำคลอด ..
พอเราหิว แม่ก็ให้น้ำนมเป็นอาหารบำรุงบริษัทร่างกายเราให้เติบโต(Growth) เราจะมีอัตราการเติบโตแค่ไหนก็อยู่ที่ทุนของแม่...นั่นแล
พอเราโตท่านก็ต้องเพิ่มทุนมาลงให้เราเอาไปจ่ายค่าเรียนอีก..
เรียกว่ามนุษย์คนหนึ่งกว่าจะโตเป็นผู้คนขึ้นมาสมบูรณ์ได้ พ่อและแม่ต้องเพิ่มทุนให้หลายครั้งมากๆ..
ครั้นพอเราทำงานมีรายได้ เราจะไม่คืนผลกำไรที่เราหาได้ ให้ท่านบ้างเลยเหรอ..? จริงไหม
มันควรจะเป็นจิตสำนึกของผู้บริหารบริษัทมหาชนที่ดี(ลูก)ที่มีธรรมาภิบาลที่ควรจะคืนผลตอบแทนให้ผู้ลงทุน(พ่อ-แม่)ซึ่งในที่นี้คือพ่อและแม่..
...เราจะคืนผลตอบแทนให้ท่านในรูปแบบไหนดีละ..
บางคนก็เลี้ยงดูท่านตอบแทน..
บางคนก็คอยพาไปหาหมอ..
บางคนก็จ้างคนดูแลแทน..
ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้คือจิตสำนึกของลูกที่ดี ที่เป็นวัฒนธรรมของชาวตะวันออก ซึ่งล้วนสั่งสอนกันมาอย่างยาวนาน.จะเรียกว่าความกตัญญูก็ประมาณนั้นแล.
...ดังนั้น"ความกตัญญู"จึงเป็นเครื่องหมายของคนดีมีอารยะทางใจนะ..
ส่วนคนดีที่ไม่อินกับความกตัญญู อันนั้นน่าจะเป็นคนดีแบบชาวตะวันตก คืออาจถูกเลี้ยงมาด้วยนมวัว อะไรแบบนั้นจึงขาดจิตสำนึกผูกพันธ์ในคุณค่าของนมจากเต้ามารดา...มั๊งเนอะ..
...อาแปะเป็นคนบ้านนอก โตมาด้วยนมบริสุทธิจากอกแม่ จึงผูกพันธ์และสัมผัสได้ถึงความรักความเอื้ออาทรของแม่ หากความกตัญญูจะทำให้อาแปะดูเป็นคน ปญอ..อาแปะก็ยินดีนะที่จะเป็นคนปญอ.ที่มี
"กตัญญูกตเวทิตา"...
อาแปะฝากคติธรรมไว้ให้อ่านขำๆยามเช้า...นะครับ.
..
นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา..
จบแล้วเรื่องแต่งวันนี้..ว่าด้วยธรรมาภิบาลของบริษัทมหาชนที่ดี(ลูก)ที่ควรมีให้ผู้ลงทุน(พ่อ-แม่) ด้วยการเลี้ยงดูตอบแทน..
อมิตพุทธ..
อรุณสวัสดิ เช้าวันหยุด เช้านี้หนาวปานกลาง แต่ก็ต้องใส่หมวกไหมพรมสีน้ำตาลใบที่รักมากๆ เพื่อคลายหนาว..
รูปประกอบกระทู้ เชิงให้คิดว่าคุณโตมาด้วยนมอะไร.?
ว่าด้วย"การลงทุนและนักลงทุน"...อาแปะรู้จักการลงทุนและนักลงทุนคนแรกตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้วแหละนะ..
....แต่แล้วพอได้อ่านกระทู้หนึ่งพูดคุยกันเรื่องพาพ่อ-แม่ ไปโรงพยาบาล ทำให้เกิดความอยากเขียนกระทู้ในเช้านี้....เฮ้ออออ อยากอีกแระ ความอยากช่างมีแรงขับดันมากมายยิ่งนัก จากคนที่รักสงบก็ต้องมาโลดแล่นในเวบบอร์ดอีกครั้งนึง..
...อาแปะว่าการพาพ่อ-แม่ ไปโรงพยาบาล มันเป็นจิตสำนึกของคนดีนะ ไม่ต้องมองในความกตัญญูก็ได้ ..แม้หากมองในมุมของนักลงทุน ผู้เป็นลูกก็ควรตอบแทนทุนทั้งหลายที่พ่อแม่ลงไว้ในตัวเรา..
...อาแปะมีทัศนคติ(มายเซท)ว่า..
พ่อ-แม่ เปรียบเสมือน นักลงทุน..
ร่างกายเรา เปรียบเสมือนบริษัทมหาชนหนึ่ง..
จิตใจเราคือ ผู้บริหารบริษัทมหาชนนั้นๆ..
พ่อและแม่ลงทุนสร้างบริษัทให้เราด้วยหยาดเหงื่อแรงกายๆ จนเราปฏิสนธินอนในครรภ์..
พอเราตลอดท่านก็ต้องลงทุนจ่ายค่าทำคลอด ..
พอเราหิว แม่ก็ให้น้ำนมเป็นอาหารบำรุงบริษัทร่างกายเราให้เติบโต(Growth) เราจะมีอัตราการเติบโตแค่ไหนก็อยู่ที่ทุนของแม่...นั่นแล
พอเราโตท่านก็ต้องเพิ่มทุนมาลงให้เราเอาไปจ่ายค่าเรียนอีก..
เรียกว่ามนุษย์คนหนึ่งกว่าจะโตเป็นผู้คนขึ้นมาสมบูรณ์ได้ พ่อและแม่ต้องเพิ่มทุนให้หลายครั้งมากๆ..
ครั้นพอเราทำงานมีรายได้ เราจะไม่คืนผลกำไรที่เราหาได้ ให้ท่านบ้างเลยเหรอ..? จริงไหม
มันควรจะเป็นจิตสำนึกของผู้บริหารบริษัทมหาชนที่ดี(ลูก)ที่มีธรรมาภิบาลที่ควรจะคืนผลตอบแทนให้ผู้ลงทุน(พ่อ-แม่)ซึ่งในที่นี้คือพ่อและแม่..
...เราจะคืนผลตอบแทนให้ท่านในรูปแบบไหนดีละ..
บางคนก็เลี้ยงดูท่านตอบแทน..
บางคนก็คอยพาไปหาหมอ..
บางคนก็จ้างคนดูแลแทน..
ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้คือจิตสำนึกของลูกที่ดี ที่เป็นวัฒนธรรมของชาวตะวันออก ซึ่งล้วนสั่งสอนกันมาอย่างยาวนาน.จะเรียกว่าความกตัญญูก็ประมาณนั้นแล.
...ดังนั้น"ความกตัญญู"จึงเป็นเครื่องหมายของคนดีมีอารยะทางใจนะ..
ส่วนคนดีที่ไม่อินกับความกตัญญู อันนั้นน่าจะเป็นคนดีแบบชาวตะวันตก คืออาจถูกเลี้ยงมาด้วยนมวัว อะไรแบบนั้นจึงขาดจิตสำนึกผูกพันธ์ในคุณค่าของนมจากเต้ามารดา...มั๊งเนอะ..
...อาแปะเป็นคนบ้านนอก โตมาด้วยนมบริสุทธิจากอกแม่ จึงผูกพันธ์และสัมผัสได้ถึงความรักความเอื้ออาทรของแม่ หากความกตัญญูจะทำให้อาแปะดูเป็นคน ปญอ..อาแปะก็ยินดีนะที่จะเป็นคนปญอ.ที่มี
"กตัญญูกตเวทิตา"...
อาแปะฝากคติธรรมไว้ให้อ่านขำๆยามเช้า...นะครับ.
..นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา..
จบแล้วเรื่องแต่งวันนี้..ว่าด้วยธรรมาภิบาลของบริษัทมหาชนที่ดี(ลูก)ที่ควรมีให้ผู้ลงทุน(พ่อ-แม่) ด้วยการเลี้ยงดูตอบแทน..
อมิตพุทธ..
อรุณสวัสดิ เช้าวันหยุด เช้านี้หนาวปานกลาง แต่ก็ต้องใส่หมวกไหมพรมสีน้ำตาลใบที่รักมากๆ เพื่อคลายหนาว..
รูปประกอบกระทู้ เชิงให้คิดว่าคุณโตมาด้วยนมอะไร.?